นิสสัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ในงาน SETA 2017
นิสสัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ในงาน SETA 2017
เผยพร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลทันที เดินหน้าให้ความรู้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
นิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ได้รับความสนใจล้นหลาม
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ แสดงศักยภาพและความพร้อมในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีและตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยได้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก มียอดจำหน่ายสูงสุด มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 หรือ Sustainable Energy & Technology Asia 2017 (SETA 2017) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 10 มีนาคม ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค พร้อมเปิดแนวคิดนิสสันอินเทลลิเจนท์ โมบิลลิตี โดยนำ นิสสัน โน๊ต ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบคสุดล้ำ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ มาจัดแสดงให้ผู้ชมในงานได้เข้าใจถึงประโยชน์ของการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ที่จะทำให้รถยนต์กับสังคม อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและเกื้อกูล ตามวิสัยทัศน์ของนิสสันที่มุ่งไปสู่การมีส่วนร่วมลดมลพิษให้เป็นศูนย์ และการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุร้ายแรงให้เป็นศูนย์
งานมหกรรมพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 หรือ Sustainable Energy & Technology Asia 2017 (SETA 2017) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Toward a Low-Carbon Society” หรือ “ก้าวย่างสู่ความยั่งยืนแห่งพลังงานคาร์บอนต่ำ” มีภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า 100 แห่ง ผู้ชมกว่า 5,000 คน จากกว่า 42 ประเทศ โดยนิสสัน ได้ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดย มร. อันตวน บาร์เตส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงการเข้าร่วมงาน SETA 2017 ครั้งนี้ ว่า “ขณะที่รัฐบาลกำลังให้ความสนใจในการนำเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ประเทศไทย งาน SETA 2017 จึงเป็นงานที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพื่อร่วมกันสร้างความตื่นตัวให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้พัฒนาไปสู่การผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้นในประเทศ นอกเหนือจากการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ อีโคคาร์ และรถยนต์ปิคอัพ สำหรับนิสสันแล้ว เราพร้อมและยินดีที่จะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลไทยในทุกทางที่จะเป็นไปได้ เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาและมีการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีเติมพลังงานไฟฟ้า การให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต่ำลง รวมถึงการให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับประโยชน์และการใช้งานยานยนต์พลังงานไฟฟ้า”
ท่ามกลางความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ปัญหาการจราจรหนาแน่นในเมืองใหญ่ ความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันกับปัญหามลพิษ นิสสันจึงมุ่งพัฒนาให้ยานยนต์ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมีความเป็นอัจฉริยะ สามารถตอบสนองความต้องการในปัจจุบันและในอนาคต โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการมีส่วนร่วมลดมลพิษให้เป็นศูนย์และการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุร้ายแรงให้เป็นศูนย์ โดย นิสสัน ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนี้ ภายใต้แนวคิดนิสสันอินเทลลิเจนท์ โมบิลลิตี
นิสสันอินเทลลิเจนท์ โมบิลลิตี ประกอบด้วยสามแนวทาง คือ เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power) เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ(Intelligent Integration) เพื่อให้รถยนต์สามารถอยู่ร่วมกับสังคมยุคใหม่อย่างกลมกลืนและเกื้อกูล โดยผู้เข้าชมงานจะได้ทราบถึงแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีนิสสันอินเทลลิเจนท์ โมบิลลิตี ของนิสสัน ผ่านบอร์ดนิทรรศการ วิดีทัศน์ รวมถึง เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่นิสสันได้นำมาจัดแสดงในงานนี้ คือ นิสสัน ลีฟ (LEAF) และรถยนต์นิสสัน โน๊ต ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบคที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ
ทั้งนี้จากการจัดแสดง นิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ผู้เข้าชมงานจะได้เข้าใจถึงเทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power) ของนิสสันมากขึ้น ดังที่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “สำหรับนิสสัน เรามุ่งพัฒนายานยนต์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ที่ผ่านมาเราพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้และประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุด ขณะที่การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า เราพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะสูง ซึ่งภายใต้เทคโนโลยีพลังขับเคลื่อนอัจฉริยะ เรามีการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าในหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละภูมิภาค
นิสสัน ลีฟ ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยนิสสัน ลีฟ ยังมีบทบาททางสังคม ในการสร้างความตื่นตัวและสร้างการรับรู้ถึงคุณค่าประโยชน์ในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงมีส่วนร่วมในการประชุมระดับโลก เพื่อรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และได้เข้าร่วมกิจกรรมระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเกียรติให้เป็นรถยนต์สำหรับเชิญถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนลีกส์ ฤดูกาล 2014 – 2015 และ 2015 – 2016 รวมถึงในการประชุมสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจโลก หรือ G7 Summit ที่ Ise-Shima ประเทศญี่ปุ่น นิสสัน ลีฟ ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของนิสสัน ได้รับเกียรติร่วมแสดงเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของการเคลื่อนที่อัจฉริยะแห่งอนาคตของนิสสัน หรือ Nissan’s Intelligent Mobility อีกด้วย
นิสสัน โน๊ต ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบคสุดล้ำ สู่ชีวิตยุคใหม่ที่ง่ายและทันสมัย
นิสสัน โน๊ต ใหม่ เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทย เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยนับเป็นรถยนต์รุ่นที่สะท้อนแนวคิด นวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ Nissan Intelligent Mobility ได้อย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการ ขับขี่ ที่ให้ทั้งความสะดวกและเพลิดเพลินในการขับขี่และความปลอดภัยสูงสุดทั้งกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ที่ปกติจะมีในรถยนต์รุ่นหรูหรา อาทิ กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (AVM), ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking (FEB) , ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW) เป็นต้น
นิสสัน โน๊ต ใหม่ ได้รับการติดตั้ง เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1,198 ซีซี ที่ฉีดเชื้อเพลิงได้ละเอียดและแม่นยำ ช่วยให้ได้ทั้งสมรรถนะและความประหยัด โดยให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT D-Step Logic ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้เครื่องยนต์ตัวนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเครื่องยนต์ที่สะอาด จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่ามาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 อีกด้วย โดย นิสสัน โน๊ต เปิดจำหน่ายแล้ว โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง เรเดียน เรด, สีชมพู สวีท พิงค์, สีม่วง พลัม, สีขาว ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ และสีดำ แบล็ค สตาร์ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 1.2V CVT ราคา 568,000 บาท และ 1.2 VL CVT ราคา 640,000 บาท
ภายในงาน SETA 2017 หรือ Sustainable Energy & Technology Asia 2017 นิสสัน ยังได้แสดงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า ในการประชุม หัวข้อ EV – Infrastructure ซึ่ง มร. มารุโม ทากากิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิก จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์จากการทำงานที่นิสสันมาต่อเนื่องกว่า 30 ปี โดยรับผิดชอบงานทั้งด้านการวางแผนผลิตภัณฑ์ของนิสสันมาอย่างหลากหลาย รวมถึงเคยรับผิดชอบงานด้านการวางกลยุทธ์ด้านการขาย ด้านผลิตภัณฑ์ รวมถึงกลยุทธ์ด้านการตลาด ได้มาเล่าให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทราบถึงวิสัยทัศน์และความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีและความก้าวล้ำของนิสสันในฐานะผู้นำการผลิตรถยนต์เพื่อตอบสนองโลกและการใช้งานในอนาคตโดยเฉพาะการพัฒนายานยนต์อัตโนมัติ การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า และการพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อ ซึ่งนิสสันยังคงก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการดูสิ่งแวดล้อมโลก ในการมีส่วนร่วมลดมลพิษให้เป็นศูนย์
“ในฐานะผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้าโลก นิสสัน ยังคงพัฒนาไม่หยุดยั้งเพื่อนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าให้ลูกค้า ตลอดจนตอบสนองกลุ่มธุรกิจและการใช้งานของภาครัฐ โดยปัจจุบัน นิสสัน ประสบความ สำเร็จในการพัฒนารถยนต์พลังไฟฟ้าสู่การใช้งานจริงในหลายรูปแบบ ทั้ง รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รถยนต์พลังงานไฮบริด และ Series ไฮบริด อี-เพาเวอร์ (e-POWER) และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง โดยนิสสันยังมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วย”