ลอง ซูซูกิ เซียส จีแอล พลัส เสริมมาดสปอร์ต/บันเทิง
รีวิวรถใหม่2019 :
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญเว็ปไซท์คาร์อินเนอร์ ร่วมทดลองขับ “อีโคคาร์ ซีดาน” ซูซูกิ เซียส จีแอล พลัส (New Suzuki Ciaz GL Plus) ด้วยคอนเซปท์ More To Discover ให้มาครบทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ ซึ่ง ตกแต่งสปอร์ตมากขึ้น เส้นทางทดสอบครั้งนี้ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ – เพชรบุรี ระยะทางไป/กลับ กว่า 200 กิโลเมตร
ซูซูกิ เซียส ชูจุดเด่นด้วยการเป็น ซีดาน อีโคคาร์ ระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ความกว้างขวาง สะดวกสบาย ห้องโดยสารกว้างขวา พร้อม ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า โดยมียอดขายรวมกว่า 37,000 คัน
[metaslider id=”23507″]
สำหรับ ซูซูกิ เซียส จีแอล พลัส อัพเกรดเพิ่มด้วยการติดตั้งชุดตกแต่งภายนอกในสไตล์สปอร์ตรอบคัน ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เสริมด้วยความโดดเด่นจากอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม, ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ กระจกบังลมหน้าแบบสีตัดแสง และกระจกบังลมหลังพร้อมระบบไล่ฝ่าตลอดจนกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับด้วยระบบไฟฟ้า
ห้องโดยสารยังเป็นอีโคคาร์ ซีดาน ที่กว้างขวางมาก โดยเฉพาะ พื้นที่ส่วนขาของผู้โดยสารด้านหลัง นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 แบบใหม่ เป็นเครื่องเล่นขนาด 2 DIN หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว ของ KENWOOD พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ USB พร้อมกล้องมองหลังตกแต่งด้วยวัสดุผ้า พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน เช่น มาตรวัดความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, ระบบน้ำมัน และอุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็น ซึ่งจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถแจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง, ระยะการเดินทาง และอุณหภูมิภายนอก ตลอดจนสัญญาณไฟเตือนต่างๆ บนหน้าจอ อาทิ เตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย, ถุงลมนิรภัย, การปิดประตูไม่สนิท และระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS รวมถึงสัญญาณเสียงเตือนกรณี ลืมปิดไฟหน้า หรือลืมกุญแจไว้ในรถ
ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวก จะประกอบไปด้วย กุญแจรีโมทพร้อมไฟกระพริบตอบรับ, พวงมาลัยสปอร์ตแบบ 3 ก้านปรับระดับสูง-ต่ำได้, กระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ ตามด้วยระบบความบันเทิงจากเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 จอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ USB สามารถเชื่อมต่อเพลงผ่านบลูทูธได้สูงสุดพร้อมกัน 5 เครื่อง พร้อมกล้องมองหลัง ช่วยยกระดับความมั่นใจขณะถอยรถ พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง และเสาอากาศแบบฝังกระจกหลัง รวมถึงฟังก์ชั่นที่เอื้ออำนวยให้ใช้งานได้อย่างง่ายดายจาก ระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อมปุ่มควบคุมบริเวณคนขับ, ที่เปิดฝาท้ายรถแบบไฟฟ้า ซึ่งมากับไฟส่องสว่างห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ควบคู่ไปกับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น โครงสร้างตัวถังที่มาพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ทำงานร่วมกับพวงมาลัยแบบยุบตัว และเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ และปรับระดับสูงต่ำได้ โดยมีด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง เสริมด้วยระบบล็อคนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD, ระบบช่วยเบรก BA ตลอดจนระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer, ระบบเตือนภัย Security Alarm และชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
ซูซูกิ เซียส จีแอล พลัส ยังคง “สมรรถนะ”ที่ดีด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร แบบ 4 สูบ 6 วาล์ว ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถให้การตอบสนองกดารขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งอัตราเร่ง ช่วงเร่งออกตัว และเร่งทางยาว รวมถึงช่วงเร่งแซง ดูต่อเนื่องและไหลลื่นดี
นอกจากนี้ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันตรัท พร้อมคอยล์สปริง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ให้ความรู้สึกดี คุ้มค่าตัว ส่งผลถึงการบังคับควบคุมที่โดดเด่น ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนี่ยนพร้อมไฟฟ้า ตอบสนองได้ดี เบาเมื่อใช้งานเมืองหนักขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อวิ่งทางไกล ช่วงจั๊มคอสะพาน จังหวะยืดยุบของโช้คอัพ และสปริงทำได้อย่างดี ไม่มีอาการกระด้างหรืออาการยันของโช้คอัพให้เห็นเลย ขากลับขับลุยฝน น้ำนองในบางช่วง ก็สามารรถผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้ดี ตัวยางก็รีดน้ำดี แทบไม่มีอาการดึงหรืออาการขืนของพวงมาลัยเมื่อวิ่งผ่านน้ำเลย ส่วนระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์เบรก และด้านหลังเป็นดรัมเบรก ก็ให้ความมั่นใจดี
ออกจากกรุงเทพฯ ณ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางด่วนรามอินทรา มุ่งหน้าลงใต้ สู่ถนนพระราม 2 ช้งานได้ทั้งความเร็วต่ำ และความเร็วสูง เสมือนการใช้งานในชีวิตประจำวัน จนถึงจุดหมายแรก “ปั๊มเอสโซ่วัฒนา-วังมะนาว” แห่งใหม่ ที่มีจุดเด่นเป็น ร้านกาแฟชื่อดังให้แวะพักจิบเครื่องดื่มกันอย่างเพลิดเพลินก่อนวนกลับมายัง อำเภออัมพวา ในจังหวัดสมุทรสงคราม แหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงครึกครื้นด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวันกันริมน้ำที่ “รัญจวน อัมพวา” ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน บรรยากาศอบอุ่นริมเขื่อนอัมพวา เติมพลังใส่ร่าง ก่อนจะเดินท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันต่อ โดยเริ่มจาก “อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือ อุทยาน ร.2” ต่อด้วยการทำบุญไหว้พระ และตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกันที่ “ค่ายบางกุ้ง (วัดบางกุ้ง)” จนอิ่มบุญ สุขใจ โดยมีความสบายในการเดินทางกับ New Suzuki Ciaz GL Plus เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ส่งท้ายทริปอย่างสมบูรณ์แบบ