เชฟโรเลตยกระดับโปรแกรม “คอมพลีต แคร์”

เชฟโรเลต ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าตามคำมั่นสัญญา “เชฟโรเลต คอมพลีต แคร์” และขยายขอบเขตการบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดศูนย์บริการรูปแบบใหม่ “2S” ซึ่งประกอบด้วยงานบริการหลังการขาย และงานด้านอะไหล่ โดยวางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการรูปแบบใหม่เพิ่มใน 16 จังหวัด ที่ยังไม่มีผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต โดยศูนย์บริการ “2S” แห่งแรกจะเปิดให้บริการที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะเปิดศูนย์บริการที่จังหวัดอำนาจเจริญเป็นลำดับถัดไป

จุดมุ่งหมายหลักของโปรแกรมเชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ คือ การมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า โดยครอบคลุมการบริการหลังการขาย การซ่อมแซมรถยนต์ และการรับประกันโดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญ มืออาชีพ ที่คอยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าเชฟโรเลตทั่วประเทศ

การขยายเครือข่ายการให้บริการมาตรฐานรูปแบบใหม่จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยในช่วงแรกจะเริ่มต้นด้วยการเปิดศูนย์บริการมาตรฐานรูปแบบใหม่ “2S” ที่ให้บริการงานด้านบริการหลังการขาย และงานอะไหล่ในรูปแบบสแตนด์อโลน จำนวน 8 แห่ง โดยศูนย์บริการรูปแบบใหม่แห่งแรกจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าจะเปิดศูนย์บริการรูปแบบใหม่ครบทั้งหมดตามที่วางแผนไว้ภายในสิ้นปี 2562

สำหรับแผนงานช่วงที่ 2 ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาและประเมินผลขั้นสุดท้ายนั้น คือการเพิ่มศูนย์บริการในรูปแบบพิเศษ หรือ Authorized Service Outlets (ASOs) โดยทำการคัดสรรศูนย์บริการรถยนต์ในพื้นที่ที่ได้มาตรฐานการให้บริการตามที่บริษัทฯ กำหนด จำนวน 8 แห่ง ภายในสิ้น ปี 2562 เพื่อขยายศูนย์บริการเชฟโรเลตและเครือข่ายการดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

นางสาวปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ลูกค้าคือศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ ดังนั้น เชฟโรเลตจึงมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่ายการให้บริการในประเทศไทย และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าเชฟโรเลต”

นางสาวปิยะนุช กล่าวเพิ่มเติมว่า “แผนการขยายศูนย์บริการรูปแบบใหม่ดังกล่าวเกิดขึ้นควบคู่กับการเปิดตัวโครงการการสื่อสารเชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ ใหม่ เพื่อย้ำเตือนลูกค้าของเราว่า เราจะอยู่ดูแลลูกค้าของเรา รวมถึงจะมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง

ศูนย์บริการรูปแบบใหม่ “2S” จะได้รับการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อมอบการบริการที่ได้มาตรฐานเดียวกันกับผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตทั่วไป ในการบำรุงรักษา การซ่อมแซม และ การรับประกันรถยนต์ของเชฟโรเลต ซึ่งในระหว่างรอรับบริการที่ศูนย์บริการรูปแบบใหม่นั้น ลูกค้าสามารถนั่ง พักผ่อนได้ที่โซนรับรองลูกค้าซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งให้เป็นมุมพักผ่อน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า

สำหรับภาพรวมของแผนการขยายศูนย์บริการรูปแบบใหม่นี้ใช้งบลงทุนรวมมากกว่า 50 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในการดูแลลูกค้า รวมถึงแผนที่จะเดินหน้าลงทุนและสร้างการเติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

เชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ โปรแกรมล่าสุดนี้มาพร้อมกับการนำเสนอโปรแกรมการบำรุงรักษารถยนต์ใหม่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับรถกระบะโคโลราโดรุ่นปี 2019 ในการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์ลงโดยเฉลี่ยเกือบ 40% ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาการมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าของเชฟโรเลต นอกจากนี้ เชฟโรเลตยังคงเดินหน้าในการพัฒนาการบริการในโปรแกรมคอมพลีต แคร์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอการบริการ

 

สำหรับบริการของเชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ มีครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ การรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างหนึ่งอย่างใดถึงก่อน) เมื่อซื้อรถยนต์ เชฟโรเลตใหม่ ฟรีค่าแรง สำหรับการเข้ารับบริการบำรุงรักษา 5 ครั้งแรก
ลูกค้ามีความอุ่นใจและได้รับความโปร่งใสตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลต โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบราคาอะไหล่และอัตราค่าแรงโดยเฉลี่ยได้ในเว็บไซต์เชฟโรเลต เพื่อที่จะได้ทราบถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะเวลา

* การพัฒนาบริการของศูนย์บริการเคลื่อนที่ เชฟโรเลต โมบาย เซอร์วิส (Mobile Service) โดยมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ที่พร้อมดูแลและซ่อมแซมเครื่องยนต์เบื้องต้น และให้บริการในด้านการบำรุงรักษารถยนต์ต่างๆ
* บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. (Roadside Assistance) อุ่นใจได้ตลอดเส้นทาง พร้อมแก้ไขทุกปัญหาได้ทันทีโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ในทุกที่ทุกเวลา
* ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เชฟโรเลต 1734 ตอบทุกคำถาม ให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหารถยนต์เบื้องต้น รวมถึงข้อมูลสินค้าและบริการ ให้บริการทุกวัน 07.00-20.00 น.
* เชฟวี่ พลัส (Chevy Plus) มอบสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการฟรีหรือส่วนลดจาก แบรนด์ยอดนิยมต่างๆ มากมาย

สำหรับยอดขายของเชฟโรเลต ประเทศไทย ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 นั้น เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักในการเติบโตมาจากยอดขายรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 16% ในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน

นางสาวปิยะนุช กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่า เชฟโรเลตจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จากการที่เราพัฒนาการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นในทุกวัน ซึ่งการขยายเครือข่ายการให้บริการ และการพัฒนาความพร้อมของโปรแกรมเชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ ถือเป็นข้อพิสูจน์ดังกล่าวได้”

ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1734 หรือที่ผู้จัดจำหน่าย เชฟโรเลตใกล้บ้านท่าน หรือ www.chevrolet.co.th

Leave a Reply