กู๊ดเยียร์ ซิตี้คิวบ์” ยางรถยนต์ต้นแบบล่าสุด

IMG_1907

กู๊ดเยียร์ นำเสนอยางรถยนต์ต้นแบบรุ่นล่าสุด “กู๊ดเยียร์ ซิตี้คิวบ์” (CityCube) ที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับใช้งานกับรถยนต์ต้นแบบอย่าง โตโยต้า ไอ-ทริล (i-TRIL) ซึ่งได้เปิดตัวในงาน Geneva International Motor Show 2017

ด้วยเทคโนโลยีเซนเซอร์อันทันสมัย และการออกแบบดอกยางแบบพิเศษ ทำให้ยางกู๊ดเยียร์ CityCube สามารถประเมินสภาพถนนที่หลากหลายได้ และทำการส่งข้อมูลไปยังตัวรถ เพื่อรองรับระบบป้องกันอุบัติเหตุและการชนอันล้ำสมัย

ทีมนักออกแบบของกู๊ดเยียร์ได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบยางสำหรับรถจักรยานยนต์ ล้อคู่หน้าของรถโตโยต้า ไอ-ทริล นั้นทำมุมเอียง ล้อรถมีรูปทรงเหมาะสมและโดดเด่น ผสมผสานกันระหว่างยางล้อหน้าที่มีความสูงและหน้าแคบ และยางล้อหลังที่มีลายดอกอสมมาตรและมีหน้ากว้างกว่าล้อหน้า

ในส่วนของล้อหน้าที่ทำมุมเอียงกับพื้นถนนใช้ยางที่มีขนาดสูงและหน้าแคบ ซึ่งหมุนในทิศทางตรงกันข้าม ได้รับการออกแบบตามหลักสมมาตรจากยางรถจักรยานยนต์

ทั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ช่วยรีดน้ำ ในขณะที่ยางล้อหลังช่วยในเรื่องของการยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น และมีลายดอกยางอสมมาตร ซึ่งถูกออกแบบให้เสริมความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเลี้ยวและเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น

 

กู๊ดเยียร์ ได้นำเสนอการออกแบบพื้นผิวแบบฮอโลแกรมและสีแก้มยางเกรเดียนท์ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ยางมีรูปลักษณ์พรีเมียมและสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของโตโยต้าอย่างลงตัว ยางกู๊ดเยียร์ CityCube จึงถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ผสานกับแรงต้านการหมุนของล้อที่ต่ำ ซึ่งนับเป็นคุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับยางล้อรถยนต์สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต นอกจากนี้ ยางกู๊ดเยียร์ CityCube ยังมีร่องยางที่น้อยลง ซึ่งช่วยให้รถสามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น ลดเสียงดังรบกวน รวมถึงช่วยลดมลภาวะทางเสียงในเมืองได้อีกด้วย

มร. เดวิด แอนแคท ผู้อำนวยการทั่วไป แผนก OE Product Development EMEA บริษัท กู๊ดเยียร์ จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจที่ได้แนะนำต้นแบบยางรถยนต์ที่มีความล้ำสมัยสำหรับรถยนต์ต้นแบบโตโยต้า ไอ-ทริลโดยเฉพาะ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่กู๊ดเยียร์สามารถตอกย้ำให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นตามความต้องการของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ทั้งนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนที่มีแนวโน้มอันทันสมัยมากขึ้น อาทิ ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ตซิตี้ เป็นต้น”