นิสสัน เอ็กซ์เทรล ครองตำแหน่ง “รถเอสยูวีทีขายดีที่สุดในโลก” อีกครั้ง

จากรายงานของการสำรวจยอดขายรถยนต์ของจาโต ไดนามิกส์ (JATO Dynamics) บริษัทจัดทำข้อมูลยานยนต์ระดับโลก ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2560 นิสสัน เอ็กซ์เทรลเป็นรถเอสยูวี ที่มียอดขายสูงสุดในโลก และยังเป็นรถที่มียอดขายมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ด้วยตัวเลขกว่า 814,000 คัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายงานการสำรวจยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของจาโต ไดนามิกส์ ประจำปี พ.ศ. 2560 ได้ ที่นี่

เอ็กซ์เทรลไม่เพียงกวาดยอดขายได้สูงสุดในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลมากมายในประเทศไทย รวมถึงรางวัลรถเอสยูวีไฮบริดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,000 ซีซียอดเยี่ยมที่งานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี (Car of the Year 2018) ภายในงาน 2018 บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 อีกด้วย

เพื่อเฉลิมฉลองกับความสำเร็จดังกล่าว บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงมอบข้อเสนอพิเศษให้แก่ลูกค้าเอ็กซ์เทรลเพื่อความคุ้มค่า และเพิ่มความสะดวกในการเป็นเจ้าของด้วยโปรแกรมอีซี่ เพย์ (Easy Pay) โดยเริ่มต้นผ่อนชำระที่เดือนละ 9,900 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง นิสสัน พรีเมียม โพรเทคชั่น (Nissan Premium Protection) เป็นเวลา 1 ปี

นิสสันเป็นบริษัทผู้ผลิตรายเดียว ที่มีรถยนต์เอนกประสงค์แบบไฮบริดที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยนับตั้งแต่ออกจำหน่ายในปีพ.ศ. 2558 ถึงปัจจุบัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด นอกจากจะติดตั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะจาก นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ยังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกันอีกด้วย

เอ็กซ์เทรล ไฮบริดยังเป็นรถรุ่นแรกในเซกเมนท์ที่ติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน (Around View Monitor หรือ AVM) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพเรียลไทม์รอบตัวรถแบบ 360 องศา จึงสามารถจอด ควบคุมตัวรถและโลดแล่นผ่านการจราจรที่หนาแน่นได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

“เอ็กซ์เทรล ก้าวขึ้นเป็นรถเอสยูวีที่ขายดีที่สุดในโลก เพราะผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้ถึงการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย และรองรับการใช้งานอย่างยอดเยี่ยม” นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เอ็กซ์เทรล เป็นรถเอสยูวีแบบไฮบริดรุ่นแรกและรุ่นเดียวในตลาด มาพร้อมกล้องมองภาพรอบคันแบบ 360 องศา รวมถึงระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความเพลิดเพลินและความสะดวกสบาย มาพร้อม “ไฮบริด เอ็กซ์-ครูซีฟ แคร์ (Hybrid X-Clusive Care)” ที่รับประกันระบบไฮบริดเป็นเวลา 5 ปี รวมถึงรับประกันแบตเตอรีเป็นเวลา 10 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นิสสันคิดถึงลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกๆ อย่างที่เราทำจริงๆ”

Leave a Reply