น้ำท่วม ต้องขับอย่างไร ? แล้วถ้ารถจมน้ำล่ะ !! หลังน้ำลด ทำอย่างไร?

ช่วงนี้พายุและมรสุม ทำให้ฝนตกชุกมาก โดยเฉพาะทางภาคอีสานและภาคเหนือตอนล่าง เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ จำนวนรถยนต์เสียหายมากมาย carinner อยากจะแนะนำ เทคนิคง่าย ๆ หรือเรื่องที่ควรจำเมื่อจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ

1.ท่านควรประเมินสถานการณ์ และรู้จักคาดการณ์ กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ อาทิ เมื่อท่านทราบข่าวว่า จะมีพายุเข้าในพื้นที่ๆ ท่านอยู่ ก็ควรเตรียมความพร้อมเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ถ้าเป็นรถกระบะยกสูง หรือรถกระบะ หรือ เอสยูวี ก็จะไม่ค่อยซีเรียสในเรื่องลุย ๆ แต่ถ้าเป็นรถเก๋ง ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก รถเก่า ก็จะต้องระมัดระวังให้มาก ควรวางแผนการขับขี่ และการใช้รถให้ดี แต่ก็รู้ทั้งรู้ ถ้าไม่จำเป็นคงไม่มีใครอยากขับลุยฝ่ามวลน้ำไปหรอก

2.น้ำท่วม อย่าห่วงร้อน แนะนำว่าไม่เปิดแอร์นะ!! เพราะเมื่อเปิดแอร์ พัดลมไฟฟ้าในห้องเครื่องยนต์จะทำงาน พัดน้ำให้กระจายทั่วห้องเครื่อง ซึ่งอาจทำให้เครื่องดับได้ ส่วนรถที่มีพัดลมเครื่องหรือฟรีปั๊ม ก็ควรจะค่อย ๆ ขับไปให้พัดลมตีน้ำน้อยและเบาที่สุด บางครั้งจะเห็นคนนิยมเอาผ้าใบหรือผ้ายางมาบังหน้ากระจังเอาไว้เพื่อลดแรงปะทะของน้ำ ป้องกันพัดลมตัดน้ำจนใบหัก และตัดน้ำให้กระจายท่วมเต็มห้องเครื่อง

3.ดูความสมบรูณ์ของเครื่องยนต์รถเราเองด้วย บางครั้งรถเก่าสภาพการทำงานเครื่องยนต์ไม่สมบรูณ์ วิ่งในที่แห้งก็จะดับอยู่แล้ว ทะลึ่งขับลุยน้ำ จะพาลดับเอาง่าย ๆ ที่สำคัญ ดับแล้วไปขวางทางรถที่วิ่งตามมาข้างหลังอีก คราวนี้ ทั้งรถดับและรถติดวุ่นวายไปหมด

4.แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำ ถ้าขับเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1-2 ขณะลุยน้ำ ส่วนเกียร์ออโต้ (อัตโนมัติ) ใช้ เกียร์ L หรือเกียร์ที่ต่ำ ลงมาจากเกียร์ D เพื่อให้ขับได้อย่างช้า ๆ หากระดับน้ำสูงมาก อย่าพยายามเบรกหรือหยุดรถถ้าไม่จำเป็น

5.อย่าพยายามขับฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวหรือไหลแรง (ตามคำโบราณน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง) รถยนต์ก็เช่นกัน หนัก ๆ แบบนี้เจอกระแสน้ำแรง ๆ ก็ปลิวตามน้ำได้เหมือนกัน อันตราย!! ทั้งรถและคน นอกจากนี้เส้นทางที่ไม่คุ้นชิน หรือวิ่งออกนอกเส้นทาง ไม่ควรลุยไปเด็ดขาด

รถโดนน้ำท่วม น้ำเข้ารถ หลังน้ำท่วมทำอย่างไรบ้าง?

1.ถ้ารถไม่เสีย วิ่งได้ปกติ เริ่มต้น ควรนำรถมาล้างรถทำความสะอาด ล้างอัดฉีดชุดใหญ่ ฉีดน้ำเข้าท้องรถ ล้อรถ เพื่อให้เศษหินดินทราย ขยะ เศษหญ้า ใบไม้ ที่ติดอยู่หลุดออกไป

2.เปลี่ยนของเหลว น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ จารบี เพราะอาจมีน้ำซึมเข้าไปในระบบทำให้เครื่องยนต์ และเกียร์  รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ พังหรือเสียหายได้

3.เช็คลูกปืนต่าง ๆ เช่น ลูกปืนล้อ ลูกปืนพูเล่ สายพาน ลูกรอกต่าง ๆ หัวเพลาขับ ซึ่งเมื่อแช่น้ำนาน ๆ หรือลุยน้ำมาก ๆ อาจทำให้เกิดเสียงดัง และเสียหาย จนต้องเปลี่ยนลูกปืนและลูกรอกใหม่ได้

4.ตรวจเช็คพื้นพรมในรถ ลองรื้อเปิดผ้ายาง รื้อพรม ดู ว่ามีน้ำซึมเข้ามาหรือไม่ พรมมีความชื้นรึป่าว เพื่อป้องกันการติดเชื้อราและเชื้อโรคต่างๆ ที่หมักหมนสะสมกันอยู่

5.ถ้ารถจมน้ำทั้งคัน โดนน้ำท่วมสูง แน่นอน สิ่งที่ไม่ควรทำเลยคือ สตาร์ทรถทันทีหลังน้ำลด เพราะจะทำให้ระบบไฟต่าง ๆ ช๊อตลัดวงจรได้ และหากน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ หรือห้องเผาไหม่ยิ่งอันตราย ควรรีบหาช่างชำนาญงานมาดูแลมากกว่า  ถ้าน้ำยังไม่เข้าเครื่อง ช่างอาจจะตัดระบบไฟทั้งหมด เพื่อจี้ตรงสตาร์ทเครื่องยนต์เช็คดูเท่านั้น ส่วนระบบไฟอื่น ๆ ต้องตรวจสอบและเช็คให้แน่ใจจริง ๆ ว่าไม่มีน้ำหรือความชื้นปะปนเข้าไปในระบบแล้ว  ซึ่งต้องทำโดยช่างขำนาญงานจริง ๆ ไม่อย่างนั้นท่านอาจจะต้อง เสียเงินชุดใหญ่ ในการไล่เช็ค ไล่ซ่อม ไล่เปลี่ยน ระบบไฟต่าง ๆ ภายในรถ รวมถึง ระบบไฟของกล่อง อีซียู ด้วย

6.ถ้ามั่นใจว่ารถไม่โดนน้ำท่วมหนัก หลังขับลุยน้ำก็ควรตรวจสอบระบบต่างๆ ให้อยู่ในความเรียบร้อย หรือเข้าศูนย์เช็คสภาพรถ โดยช่างชำนาญงานหรือศูนย์บริการรถยนต์

สำหรับรถที่มีประกันภัย ประกันน้ำท่วมข้อแนะนำ ปกติประกันชั้น 1 จะเคลมให้ทุกกรณี แต่ต้องเงื่อนไขที่ทำไว้แต่ต้น

1. อย่างแรก เราต้องถ่ายรูปรถทุกมุมโดยเฉพาะมุมที่น้ำเข้า ทั้ง ภายนอก ภายใน และห้องเครื่อง

2. แจ้งประกันเอาไว้  หลังน้ำลดโทรเรียกประกันให้มา ณ จุดที่รถจอดจมหรือเกิดน้ำท่วมรถ เพื่อเคลม

3. ห้ามสตาร์ทรถ!!! หรือเปิดลองระบบไฟเด็ดขาด!!!เพราะประกันอาจจะไม่เคลม แถมอาการเสียหายก็จะบานปลาย

4.เมื่อเจ้าหน้าที่ประกันมาถึง บางรายจะขอสตาร์ทรถ เร่งเปิดแอร์ เปิดระบบไฟ หรือกระทืบเหยียบคันเร่งหลายๆที โปรดแจ้งเตือนกับเจ้าหน้าที่ประกัน อย่าทำเด็ดขาด ปัญหาอาจตามมาอีกเยอะ ควรให้ช่างจากศูนย์บริการหรือช่างชำนาญงานเป็นผู้ดูแล

5.เมื่อเคลมเรียบร้อยต้องเจรจาให้รถมายกไปที่ศูนย์หรืออู่ทันที นอกจากนี้ประกันควรออกค่าซักพรม ฟอกเบาะ ค่าตรวจเช็คเครื่องยนต์ ระบบไฟ ค่ารถยก และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องให้ครบ ทั้งนี้ต้องสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ประกันด้วย

ด้วยความห่วงใย เรารู้ว่ารถโดนน้ำท่วมไม่ใช่เรื่องสนุก สภาพรถจะกลับมาเหมือนเก่านั้นยากมาก จำไว้ว่าอย่าประมาท!!