ปอร์เช่ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด
ปอร์เช่ เปิดตัวพานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ plug-in ไฮบริดทรงพลัง (Sport Turismo plug-in hybrid) 680 แรงม้า เดินทางด้วยไฟฟ้าได้ 49 กิโลเมตร
ปอร์เช่เพิ่มทางเลือกอีกระดับให้แก่ยนตกรรมไฮบริด ประจำการระบบขับเคลื่อน plug-in ไฮบริด สมรรถนะ สูงให้แก่ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) ในชื่อว่า พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ รุ่นใหม่ (the new Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) เรือธงลำใหม่ประจำอนุกรม สปอร์ตซีดานพันธุ์หรู
พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) คือศูนย์รวม เทคโนโลยีล้ำอนาคตทั้งหมดของสปอร์ตซีดานเจเนอเรชั่นที่ 2 ประกอบด้วย ระบบควบคุมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นล่าสุด Porsche Advanced Cockpit ระบบช่วยเหลือการขับขี่อันยอดเยี่ยม อาทิ Porsche InnoDrive ระบบควบคุมความเร็ว อัตโนมัติ adaptive cruise control และ ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง หรือ rear-axle steering เป็นอุปกรณ์พิเศษติดตั้ง เพิ่มเติม รวมไปถึงสปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติ อันเป็นนวัตกรรมสุดพิเศษที่มีเพียงพานาเมร่า (Panamera) เท่านั้น ทั้งนี้ตำแหน่งของสปอยเลอร์หลังคาปรับระดับอัตโนมัติจะทำงานในสภาวการณ์ที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบ โดยการปรับองศานั้นขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่และการปรับตั้งจากแผงควบคุมในขณะนั้น ด้วยศักยภาพชั้นเลิศที่ สามารถสร้างแรงกดท้ายรถสูงสุดได้มากกว่า 50 กิโลกรัม เมื่อวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังสามารถทำหน้าที่ลดแรงต้านอากาศ ด้วยการปรับมุมการทำงานไปยังตำแหน่ง -7 องศา ผลลัพธ์คือ อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น และในระดับความเร็วที่สูงกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สปอยเลอร์หลังคาจะ ปรับมุมการทำงานไปที่ +1 องศาหรือตำแหน่ง “Performance” โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและยึดเกาะ ในแนวราบ ทั้งนี้ในกรณีที่เลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ “Sport” และ “Sport Plus” สปอยเลอร์หลังคาจะได้รับ การปรับตั้งมายังตำแหน่งนี้ที่ระดับความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือสูงกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ระบบ PAA ยังสามารถทำหน้าที่ได้ด้วยการปรับตำแหน่งไปที่ 26 องศา ในกรณีที่เปิดหลังคาพาโนรามิก ขณะวิ่งด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรหรือสูงกว่า สปอยเลอร์หลังคาจะช่วยลดเสียงรบกวนจากอากาศภายนอกให้เหลือน้อยที่สุด
ห้องโดยสารตอนหลัง เป็นไปด้วยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้เป็นอย่างมาก อรรถประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเติมจากบาน ฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ซึ่งสามารถเปิดกว้างด้วยระบบไฟฟ้าและขอบของพื้นที่บรรทุกที่วางตัวสูงจากพื้นเพียง 628 มิลลิเมตร อีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเติมในพานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) คือเบาะนั่งตอนหลังที่สามารถใช้งานในแบบ 2+1 นั่นเอง และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ พานาเมร่า รุ่นใหม่ (the new Panamera) คันนี้ กลายเป็นยนตกรรม 4+1 ที่นั่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Sport Turismo) สามารถเลือกสั่งติดตั้งเบาะนั่งคู่หลังแบบแยกอิสระ ปรับระดับด้วยไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์พิเศษ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของซาลูนสุดแรง 4 ที่นั่งได้ตามต้องการ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) มีปริมาตรความจุห้อง เก็บสัมภาระ ท้ายที่ 425 ลิตร เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับราบลงกับพื้นอย่างสมบูรณ์หรือแยกพับในสัดส่วน 40:20:40 ผ่านสวิทช์ ปลดล็อคระบบไฟฟ้าภายในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เมื่อคิดจากพื้นรถจรดแนวหลังคา ปริมาตราความจุเพิ่มขึ้นสูงสุด ถึง1,295 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/ 100 กิโลวัตต์) ประสิทธิภาพสูง ผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันของ 2 ระบบขับเคลื่อน ให้พละกำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า (500 กิโลวัตต์) ทันทีที่เข็มวัดตวัดขึ้นจากรอบเดินเบา แรงบิดระดับมหาศาลกว่า 850 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบการทำงานเพียง 1,400 รอบต่อนาที ของพานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ก็พร้อมตอบสนองอย่างเต็มสมรรถนะ ทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นหมายถึงอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง ไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ที่ 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 3.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร สามารถวิ่งโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ถึง 49 กิโลเมตร มีอุปกรณ์ decoupler ติดตั้งรวมอยู่กับ hybrid module ทำงานด้วยระบบ electromechanically ตัดต่อกำลังผ่านชุดคลัทช์ ไฟฟ้า หรือ Electric Clutch Actuator ให้อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและนุ่มนวลยิ่งขึ้นอีกขั้น ระบบเกียร์อัตโนมัติ อัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ Porsche Doppelkupplung (PDK)
เร่งต่อเนื่องไปแตะหลักความเร็วที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงแม้ยานยนต์ plug-in ไฮบริด คนนี้จะเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ เหนือระดับ แต่ผลการทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื่อเพลิงตามมาตราฐาน New European Driving Cycle กลับให้ ความประหยัดที่ไม่น่าเชื่อด้วยตัวเลขเพียง 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 3.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร และมีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 17.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo) ยอดเยี่ยมด้วยพิสัยการเดินทางสูงสุดถึง 49 กิโลเมตรพร้อมความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว หรืออาจกล่าวได้ว่าในสภาวะดังกล่าว นี่คือยานยนต์ไร้มลภาวะอย่างแท้จริง แบตเตอรี่ชนิด lithium-ion ศักยภาพสูง สามารถบรรจุพลังงานได้ถึง 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง และชาร์จคืนกลับจนเต็มภายในระยะเวลาตั้งแต่ 2.4 ถึง 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชุดอุปกรณ์เชื่อมต่อ
ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใน พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera Turbo S E-Hybrid Sport Turismo)ถ่ายทอดจากรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder)
ช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติเทคโนโลยีล่าสุด adaptive three-chamber air suspension พร้อมระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ส่วนผสมอันสุดแสนลงตัวระหว่างสมรรถนะการบังคับควบคุมสไตล์ สปอร์ตและความนุ่มนวลสะดวกสบายในการโดยสารตลอดการเดินทาง ติดตั้งระบบเบรกเซรามิก มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วย อิเล็กทรอนิกส์ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC Sport) ระบบ roll stabilisation พร้อมระบบควบคุม แรงบิด Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ชุดเฟืองท้ายแบบ differential lock, ระบบเบรกเซรามิก สมรรถนะสูง Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB), ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ลาย 911 turbo, ระบบ พวงมาลัย Power Steering Plus, ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะสปอร์ต โครโน (Sport Chono Package) และระบบปรับ อากาศ auxiliary air conditioning