ฟอร์ด เดินหน้าผลิต “เรนเจอร์ แร็พเตอร์” ส่งมอบลูกค้าสิงหาคม
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดสายการผลิตของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จังหวัดระยอง
หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเปิดรับจองครั้งแรก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงจากโรงงานรุ่นแรกของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก จะพร้อมส่งมอบให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นการผสมผสานดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) และสมรรถนะเหนือชั้นที่สะท้อนนิยาม “เกิดมาแกร่ง” ของฟอร์ด เรนเจอร์ ได้อย่างลงตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือมาตรฐานใหม่ของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง โดดเด่นด้วยโลโก้ฟอร์ดแบบตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์บนกระจังหน้า ซึ่งสื่อถึงความดุดันของรถกระบะสายพันธุ์ใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ผสมผสานดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) เข้ากับนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ ของฟอร์ด เรนเจอร์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง
รูปลักษณ์ภายนอกดุดัน และสมรรถนะที่เหนือชั้นทำให้ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นรถกระบะสายพันธุ์ใหม่แห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก อย่างแท้จริง ไฟหน้าและไฟเดย์ไลท์ รวมทั้งไฟตัดหมอกแบบ LED ทั้งหมด บันไดข้างรถอะลูมิเนียมอัลลอย ติดต้งกันชนหน้าที่ทนทาน สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
และใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17
ห้องโดยสารติดตั้งกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ติดตั้งระบบซิงค์ 3 (SYNC™ 3) หน้าจอทัชสกรีน พร้อมเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi มีระบบแผนที่นำทาง และกุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift
เครื่องยนต์ใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า หรือ 157 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังได้รับการออกแบบให้ช่วงล่างยกสูงขึ้น และมีระยะช่วงล้อที่กว้างกว่าเดิม พร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทก ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการทรงตัวและการควบคุมรถ แม้ในสภาพถนนแบบออฟโรดสุดหฤโหด
เรนเจอร์ แร็พเตอร์มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับโหมดการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงโหมดบาฮา ซึ่งเหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ
ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อค ทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น แม้ในระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
พวงมาลัยของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วตามความต้องการในทุกสภาพถนน
นอกจากนี้ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทก โดยผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) ที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance)
มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) แดงเรซ เร้ด (Race Red) ดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) ขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีใหม่พิเศษเฉพาะเรนเจอร์ แร็พเตอร์อย่าง เทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey)
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ จะผลิตที่โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยในปี 2558 ฟอร์ดได้ประกาศเพิ่มการลงทุน 186 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 6,269 ล้านบาท ที่โรงงานเอฟทีเอ็ม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตฟอร์ด เรนเจอร์ ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว