ทดสอบวอลโว่ เอ็กซ์ซี 60 เส้นทางจากกรุงเทพ ฯ

วอลโว่ จัดกิจกรรมการทดสอบสมรรถนะรถยนต์รอบพิเศษ เส้นทางจากกรุงเทพฯ ถึงพัทยา เพื่อสาธิตประสิทธิภาพการขับขี่รถยนต์วอลโว่ XC60 ที่มอบประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่รถยนต์อเนกประสงค์ ภายใต้แนวคิด “Arrive Like Never Before” สร้างความคุ้นเคยและให้ผู้ทดสอบได้สัมผัสระบบการทำงานและดีไซน์ที่โดดเด่นของ XC60 ใหม่

ภายนอกเน้นความหรูหรา โดดเด่นด้วยมิติตัวรถยาว 4,688 มม. กว้าง 1,902 มม. และสูง 1,658 มม. ฐานล้อขนาด 2,865 มม. ได้รับการออกแบบใหม่ ใช้แพลตฟอร์ม Scalable Product Architecture หรือ SPA ไฟหน้าแบบ LED ไฟเดย์ไทม์รูปแบบค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์ เอกลักษณ์ของโวลโว่ ยุคนี้ กระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ ไฟท้ายดีไซน์หรู

ส่วนรุ่น R-Design ใน วอลโว่ XC60 T8 Twin Engine AWD ดีไซน์แนวสปอร์ตแตกต่าง โดดเด่นด้วยกระจังหน้า เคลือบสีดำวาว ท่อไอเสียคู่ ครอบกระจกมองข้างสีเงินด้านในสไตล์ ล้ออัลลอยแบบไดมอนด์คัทขนาด 19 นิ้ว พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์สปอร์ต แป้นคันเร่งดีไซน์สปอร์ต และเบาะนั่ง Nappa Bucket Seat

ห้องโดยสารเป็นการผสมผสานระหว่างหนังแท้กับโลหะได้อย่างลงตัว เน้นทั้งความสปอร์ตและพรีเมียม บนหลังคาติดตั้งกระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า บาะนั่งทรงสปอร์ตปรับด้วยไฟฟ้า หัวเกียร์คริสตัล ผลิตด้วยมือจาก Orrefors ปุ่มปรับทิศทางลมตกแต่งด้วยโลห ช่องปรับอากาศแนวตั้ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติกระจายความเย็น 2 โซน แยกซ้าย-ขวาอิสระ และมีระบบกรองอากาศที่ดักจับอนุภาคขนาดเล็ก ที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้ ส่วนฝาท้ายแบบเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า สั่งงานได้ทั้งจากตัวรถและรีโมทคอนโทรล หรือใช้เท้าเตะที่เซ็นเซอร์ใต้กันชนหลัง

มีฟังก์ชั่นการทำงานเพื่อความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารด้วยประสิทธิภาพ ได้แก่ ระบบ Mitigation ที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมพวงมาลัยเพื่อลดปัญหาการปะทะกับรถที่วิ่งสวนมา ระบบ Blind Spot Indication System (BLIS) ของวอลโว่ใช้การทำงานของระบบพวงมาลัยเพื่อลดความเสี่ยงของการชนจากการเปลี่ยนช่องทางเดินรถ

ติดตั้งเทคโนโลยี Sensus Connect เชื่อมต่อสัญญาณและสื่อสารผ่านดาวเทียม นับเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานของ Apple CarPlay และอุปกรณ์ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS อาทิไอโฟน เข้ากับซอฟต์แวร์ของรถยนต์ได้ และติดตั้งปุ่มบังคับบนแกนพวงมาลัย โดยระบบยังรองรับฟังก์ชั่นการควบคุมด้วยเสียง ส่วนจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้วมีดีไซน์ที่ทันสมัย ใช้งานได้สะดวกสบายและปลอดภัย โดย Volvo XC60 R-Design รุ่นใหม่ยังติดตั้ง “Premium Sound by Bowers & Wilkins” มอบระบบเสียงสเตอริโอที่ทำงานได้อย่างราบรื่นและดีที่สุดของโลก ด้วยลำโพงขนาด 1,100 วัตต์ 15 ตัวรอบห้องโดยสาร โดยสามารถปรับการทำงานระบบเสียงได้ 3 โหมดคือ Studio, Individual Stage, และ Gothenburg Concert Hall ประตูท้ายไฟฟ้าสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องใช้มือยก

XC60 ใหม่ใช้ระบบส่งกำลังแบบ Drive-E ทั้งในเครื่องยนต์ดีเซล D4 AWD และเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid

เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1,969 ซีซี ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติและระบบ Geartronic แบบ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ All-wheel Drive

รุ่น Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD R-Design (Plug-In Hybrid) ใหม่ ติดตั้ง Turbocharger และ Supercharger ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 2,200–5,400 รอบ/นาที ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังเครื่อง 87 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร และเมื่อเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานจะได้กำลังรวม 407 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที ปล่อยไอเสียเพียง 50 กรัม โหมดมอเตอร์ไฟฟ้าวิ่งได้ถึง 44.92 กม.

รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ทวินเทอร์โบพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีด i-Art ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที ให้กำลังแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร ปล่อย CO2 เพียง 146 กรัมต่อกิโลเมตร

ทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา คันเร่งตอบสนองดี กำลังเหลือเพราะมีถึง 407 แรงม้า เครื่องยนต์ส่งกำลังขับเคลื่อนเพลาล้อหน้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนที่เพลาหลัง เสียงการทำงานเงียบสมกับเป็นรถหรู

ใช้ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ สามารถเลือกการทำงานจากโหมดต่าง ๆ ได้ดังนี้ Eco/Comfort/Offroad/Dynamic และ Individual แต่ละโหมดจะตอบสนองการทำงานต่างกัน สามรถเลือกได้ตามต้องกรและตามภูมิประเทศ ส่วนของเบรก และระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ มีการตอบสนองที่ต่างกันไป

ระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อมอบการปรับพวงมาลัยอัตโนมัติหรือสนับสนุนการขับขี่แก่นักขับเมื่อจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะที่อาจเกิดขึ้น วอลโว่เชื่อมั่นว่า ฟังก์ชั่นใหม่เหล่านี้จะทำให้วอลโว่ XC60 เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ปลอดภัยมากที่สุดบนท้องถนน

City Safety System ของวอลโว่ XC60 ใหม่ยังได้เพิ่มระบบควบคุมการเลี้ยว (Steering Support) เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชน ระบบรถจะช่วยปรับองศาการเลี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางตรงหน้า ทำให้ระบบ City Safety System ช่วยหลีกเลี่ยงการปะทะกับยานพาหนะคันอื่น คนเดินถนน และสัตว์ขนาดใหญ่ได้ โดยระบบจะช่วยบังคับเลี้ยวหลบ ระบบเริ่มทำงานที่ความเร็ว 50-100 กม./ชม.

XC60 ยังเพิ่มระบบ Oncoming Lane Mitigation ซึ่งช่วยให้ผู้ขับสามารถหลีกเลี่ยงการปะทะกับยานพาหนะอื่นๆ ในช่องทางที่รถวิ่งสวนมา โดยระบบจะทำการเตือนเมื่อนักขับนำรถออกนอกช่องทางไปโดยไม่ตั้งใจ และเริ่มทำการควบคุมพวงมาลัยเพื่อนำรถกลับเข้าสู่ช่องทางที่ถูกต้องและออกจากช่องทางที่รถวิ่งสวนมา ซึ่งระบบจะเริ่มทำงานที่ความเร็ว 60-140 กม./ชม.

ติดตั้ง Steer Assist แจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Information System) ซึ่งคอยทำหน้าที่เตือนนักขับถึงตำแหน่งของรถยนต์ในจุดบอดการมองเห็น ซึ่งระบบได้ผ่านการอัพเดทโดยได้ผสานฟังก์ชั่นควบคุมพวงมาลัยเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถคันอื่นในจุดที่มองไม่เห็น ระบบสามารถหักเลี้ยวรถให้กลับเข้าสู่ช่องทางของตนเองและออกห่างจากจุดอันตรายได้

สรุปได้ว่า ในเซ็กเมนท์นี้ ถ้าเทียบกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี และ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 3 เรื่องของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย วอลโว่ ยังกินขาด แต่ด้วยศูนย์บิรการและชื่อเสียงในอดีตจนถึงปัจุบัน รถหรูจากสวีเดน ยังเป็นรอง คู่แข่งจากเยอรมัน ถ้าใครที่รักแบรนด์นี้ ก็คงตัดสินใจได้ไม่ยาก เพราะจัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัยแถมตั้งราคามาต่ำกว่าคู่แข่งพอสมควร เรียกว่า วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ใหม่ จะทำให้ลูกค้าจากฝั่งเยอรมัน ตัดสินใจยากขึ้น !!

รับประกันฟรี 3 ปีหรือระยะ 100,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงนาน 1 ปีตามแพ็คเกจมาตรฐาน

รุ่นและราคา
T8 Twin Engine AWD R-Design Plug-In Hybrid Benzene Engine 3.59 ล้านบาท
T8 Twin Engine AWD Momentum Plug-In Hybrid Benzene Engine 3.29 ล้านบาท
D4 AWD Momentum Diesel Engine 3.09 ล้านบาท