ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน สปอร์ต ไกลด์
สปอร์ต ไกลด์ เป็นรถรุ่นที่ 9 ที่พัฒนาบนแพลทฟอร์มฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ซอฟเทล® (Softail®) รุ่นใหม่ และนับเป็น 1 ใน 100 รถมอเตอร์ไซค์ที่ทรงอิทธิพลที่ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน วางแผนเปิดตัวภายในปี พ.ศ.2570 สปอร์ต ไกลด์ สะท้อนการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีและสไตล์ที่โดดเด่น
สปอร์ต ไกลด์ ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง แชสชีส์ซอฟเทล รุ่นใหม่ ที่เป็นพื้นฐานของรุ่นสปอร์ต ไกลด์ มอบสมรรถนะการควบคุมและความปราดเปรียว พร้อมกับเครื่องยนต์มิลวอกี-เอต 107 วี-ทวิน (Milwaukee–Eight 107 V–Twin) ที่ติดตั้งอย่างแน่นหนาผลิตแรงบิดมหาศาล เพื่ออัตราเร่งและพลังแห่งการเร่งแซงที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมอุปกรณ์เพื่อการตกแต่งแท้ที่มีให้เลือกหลากหลายจาก ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์
สปอร์ต ไกลด์ จะออกจำหน่ายด้วย 3 สี คือสีดำ Vivid Black สีแดงเชอร์รี่ Twisted Cherry และสีเงิน Silver Fortune ที่ผู้จำหน่ายทุกแห่งในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เป็นต้นไปราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,399,000 บาท
“ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดอาเซียน ด้วยความต้องการรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่จะนำจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพ ความมีเอกลักษณ์ และความเป็นพี่น้องกันมาสู่ผู้ขับขี่ในประเทศไทย พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและมีความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์” มร. โยฮัน ไคลน์ชตอยเบอร์ กรรมการผู้จัดการ ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน กล่าว
“เรามีความตื่นเต้นและยินดีอย่างยิ่งที่สปอร์ต ไกลด์ เดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นครั้งแรก รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เหมาะสำหรับทั้งการเดินทางทั่วไปและการขับขี่ท่องเที่ยวแบบสบายๆ จึงเป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับเมืองไทย” นายธนบดี กุลทล ผู้จัดการประจำประเทศ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทย กล่าว “เราเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของเราในประเทศไทยพร้อมกับนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าและนำแบรนด์ของเราให้ใกล้ชิดกับแฟนๆ ในเมืองไทยมากขึ้น ด้วยผู้จำหน่าย 9 แห่งทั่วประเทศและโรงงานผลิตที่จะเริ่มดำเนินการในอีกไม่ช้า”
กระเป๋าข้างรูปแบบใหม่ที่มีความแน่นหนา (และปิดล็อกได้) มีดีไซน์การเปิดแบบพับประกบที่ดูโฉบเฉี่ยว ง่ายดายต่อการจัดเก็บและหยิบจับสัมภาระภายใน พร้อมกับสามารถเปิดกระเป๋าได้ด้วยมือเดียวโดยที่ผู้ขับขี่นั่งอยู่บนตัวรถ โดยมีระบบหน่วงที่ช่วยให้ฝากระเป๋าเปิดอย่างนุ่มนวล ผู้ขับขี่สามารถถอดกระเป๋าออกได้ในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยกลไกปลดล็อกแบบรวดเร็วโดยที่ไม่มีจุดเชื่อมต่อให้เห็นแต่อย่างใด กระเป๋าข้างมีความจุรวมอยู่ที่ 25.5 ลิตร
ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มความจุกระเป๋าเก็บสัมภาระได้ด้วยอุปกรณ์เสริมพนักพิงเบาะ ชั้นวางกระเป๋าสัมภาระหรือแท่นแขวนด้านท้ายซึ่งทุกชิ้นใช้ระบบล็อกแบบถอดได้ โฮลด์ฟาสต์™ (HoldFast™) รุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อแพลทฟอร์มซอฟเทลโดยเฉพาะ ถ้าผู้ขับขี่ต้องการใช้งานรถสไตล์ครุยเซอร์ สามารถถอดหรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมโฮลด์ฟาสต์ได้ในเวลาไม่กี่วินาทีเหมือนกับกระเป๋าและแฟริ่งของสปอร์ต ไกลด์
เบาะที่นั่งทรงกว้างและที่วางเท้าแบบยื่นไปด้านหน้าช่วยให้ผู้ขับขี่มีท่านั่งที่เหมาะสมสำหรับทุกสรีระ โดยเบาะที่นั่งมีความสูงเพียง 652.7 มม. ไฟหน้าแอลอีดี Daymaker ล้อมกรอบด้วยระบบไฟส่องสว่างวงแหวนแอลอีดี เสริมความสะดุดตาด้วยไฟท้ายแอลอีดีที่สะดุดตา (พร้อมไฟเลี้ยวหลังแอลอีดี) มีพอร์ทชาร์จไฟยูเอสบี ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ใช้กุญแจ และระบบความปลอดภัยสมาร์ท ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม (Harley–Davidson Smart Security System) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โช้คอัพหัวกลับ 43 มม. เพิ่มความมั่นคงที่บริเวณด้านหน้า พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Single Cartridge Damping System เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ มีเสถียรภาพ และประสิทธิภาพการเบรกที่มั่นใจซึ่งเสริมด้วยระบบเบรกเอบีเอส (ABS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สปอร์ต ไกลด์มาพร้อมล้ออลูมิเนียมหล่อ Mantis รุ่นใหม่ขนาด 18 นิ้วที่ล้อหน้าและ 16 นิ้วที่ล้อหลัง พร้อมยางสมรรถนะสูง มิชลิน สกอร์เชอร์ 31 (Michelin Scorcher 31)
สปอร์ต ไกลด์ ยังโดดเด่นด้วยระบบกันสะเทือนหลังแบบโช๊คอัพเดี่ยวของซอฟเทล รุ่นใหม่ล่าสุด การปรับระดับพรีโหลดได้อย่างง่ายดายด้วยการหมุนลูกบิดที่อยู่ใต้ฝาปิดฝั่งขวาภายนอกตัวรถ จึงรองรับทุกสถานการณ์ใช้งานทั้งการบรรทุกน้ำหนักสัมภาระหรือผู้โดยสาร พร้อมรักษาประสิทธิภาพการกันสะเทือนและการบังคับเลี้ยวในระดับสูงสุด
เครื่องยนต์มิลวอกี-เอต 107 (Milwaukee–Eight 107) สีแบล็กเอาท์ดำสนิทยกระดับสมรรถนะและความพิถีพิถันของรถครุยเซอร์ ฮาร์ลีย-เดวิดสัน บิ๊ก ทวิน (Big Twin) รวมถึงสปอร์ต ไกลด์ รุ่นใหม่ให้สูงขึ้นอีกขั้น เคาท์เตอร์บาลานเซอร์ได้รับการปรับแต่งเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนช่วงรอบต่ำและส่งผ่านบุคลิกของเครื่องยนต์มาถึงผู้ขับขี่เมื่อทะยานด้วยความเร็ว เครื่องยนต์รุ่นนี้ติดตั้งอย่างแน่นหนาบนเฟรม ซึ่งทำให้แชสซีส์มีความแข็งแกร่งและช่วยให้ผู้ขับขี่มีความใกล้ชิดกับขุมพลังได้มากขึ้น
ความแม่นยำของระบบหล่อเย็นน้ำมันเครื่องบริเวณฝาสูบซึ่งเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ท่อไอเสียแบบ 2–1 พร้อมเฮดเดอร์หลังแบบราบและท่อไอเสียสีดำเสริมให้มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีความสปอร์ตและตอบสนองต่อการเข้าโค้งได้อย่างเต็มที่ ระบบควบคุมคันเร่งอิเลกโทรนิกทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล อิเลกโทรนิก ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน