ลอง !! MITSUBISHI XPANDER รถอเนกประสงค์มาดหรู
Carinner ร่วมกิจกรรมทดลองขับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ (Mitsubishi Xpander) เส้นทาง จาก จ.บุรีรัมย์-นครราชสีมา-ปราจีนบุรี-กรุงเทพ ฯ แบบจัดเต็มทุกสภาพถนน รถยนต์รุ่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อยกระดับบทบาทของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในตลาดรถเอสยูวี และเอ็มพีวีซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในอินโดนีเซีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
‘เอ็กซ์แพนเดอร์’ เป็นรถที่ผสมผสานการใช้งานที่หลากหลายของรถเอ็มพีวี เข้าไว้กับสมรรถนะที่โดดเด่นตามแบบของรถเอสยูวี กลายเป็นนิยามใหม่ ให้กับ มิตซูบิชิ ที่มีความแกร่ง โอ่โถง โดดเด่น สะดวกสบาย มีสไตล์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย หลอมรวมกันเป็น รถยนต์ครอสโอเวอร์ เอ็มพีวี ที่ให้ทั้งความสบายในการขับขี่และดีไซน์ที่ทันสมัย ห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง กว้างขวาง มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่
มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ใหม่ มีดีไซจ์นการออกแบบที่สุดล้ำ มิติตัวรถ ยาว 4,475 มม. , กว้าง 1,750 มม. , สูง 1,700 มม. ระยะช่วงล้อหน้ากว้าง 1,520 มม. ช่วงล้อหลังกว้าง 1,510 มม. ระยะห่างใต้ท้องรถสูงถึง 205 มม. ระยะฐานล้อ 2,275 มม. รุ่นท็อปมีความสูงจากพื้นถนน (Ground Clearance ) อยู่ที่ 205 มม. มากกว่าคู่แข่งในเซกเมนท์เดียวกัน ใช้ล้อและยางขนาด 205/55 R16 ขณะที่รุ่นล่าง ใช้ล้อเล็กกว่า ขนาด 185/65 R15
หน้าตาภายนอกได้รับอิทธิพลจากรถต้นแบบ XM Concept มาพร้อมรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำอนาคต ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced Dynamic Shield กระจังหน้าขนาดใหญ่ มีจุดเด่นตรงที่ดวงไฟหน้าขนาดใหญ่ ส่วนไฟเลี้ยว/ไฟหรี่แบบคริสตัล แอลอีดี ให้ความเท่ แปลกตา กันชนหน้า พร้อมไฟตัดหมอก ส่วนไฟท้ายแบบแอลอีดี L-Illumination Tube โดดเด่นด้วยเส้นสายเรียบหรู พร้อมไฟเบรคแบบแยกส่วน กันชนท้ายมีแผ่นสะท้อนแสงในตัว เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ถัดขึ้นไปบนหลังคาด้านท้าย ติดตั้งสปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบแอลอีดี ให้ความกระจ่างชัดเจนในทุกมุมมอง
ในรุ่นท็อป GT ภายนอกติดตั้งแผงกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลัง, คิ้วด้านข้าง เป็นสีเงิน ส่วนคิ้วขอบกระจกประตู, มือเปิดประตู เป็นวัสดุโครเมี่ยม และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สีทูโทน มาพร้อมยางขนาด 265/55 R16 ส่วนรุ่นรอง GLS-LTD ออกแบบบริเวณแผงกันกระแทกด้านหน้าและหลัง คิ้วด้านข้าง คิ้วขอบกระจกประตูเป็นสีดำ ส่วนมือเปิดประตู เป็นสีเดียวกับตัวรถ และล้ออัลลอยเล็กกว่า ใช้ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/65 R15
ห้องโดยสาร 7 ที่นั่งออกแบบด้วยแนวคิด Flexible Utility Space เน้นความลงตัวในแบบที่ต้องการ ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ กว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะที่มีมาก ทำให้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัด มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ เบาะที่นั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบการใช้งาน คอนโซลหน้าตกแต่งหรู วัสดุผิวสัมผัสดูดี ทันสมัยและสวยงามด้วยแถบสีบรอนซ์ รวมถึงแผงข้างประตู ตรงกลางแผงคอนโซลหน้า ติดตั้งเครื่องเสียง ถัดลงมามีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ
รุ่น GT ใช้กุญแจอัจฉริยะ KOS และมีระบบป้องกันความปลอดภัย อีโมบิไลเซอร์ พร้อมปุ่มสตาร์ทและปิดเครื่องยนต์ ระบบความบันเทิงภายในรถ ติดตั้งเครื่องเสียงแบบ 2 DIN จอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว สามารถเล่นแผ่น DVD รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ ลำโพง 6 ทิศทาง พร้อมระบบกล้องมองภาพขณะถอยจอด ส่วนหน้าจอของมาตรวัด เป็นจอขนาด 4.2 นิ้ว แอลซีดี และแสดงภาพ 3 มิติ พร้อมระบบแจ้งข้อมูลการขับขี่ต่างๆ ครบครัน ส่วนเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ ให้ความกระชับ นุ่มนั่งสบาย พวงมาลัยไฟฟ้า ปรับ 4 ทิศทาง ให้น้ำหนักการบังคับควบคุมที่มั่นใจได้ พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล ระบบแฮนด์ฟรี และออดิโอ คอนโทรล นอกจากนี้ยังติดตั้งวัสดุซับเสียง เพื่อลดการสั่นสะเทือนของรถ และเสียงรบกวนจากภายนอกรถ โดยเฉพาะกระจกบานหน้ายังเพิ่มความหนาเป็น 20 มม. เพื่อให้เสียงรบกวนน้อยลง ติดตั้งช่องเสียบชาร์จไฟ 3 จุด หน้า/กลาง/หลัง รอบคัน
สำหรับในรุ่น GLS-LTD ยังใช้ระบบกุญแจแบบรีโมทแบบธรรมดา ชุดเครื่องเสียงแบบ CD มาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และลำโพง 4 ทิศทาง ส่วนจอหน้าปัดแบบโมโนโทน พร้อมจอแสดงผลการขับขี่ Eco เบาะนั่งแบบผ้าสีดำ และวัสดุที่หุ้มพวงมาลัยและคันเกียร์ เป็นแบบยูรีเธน
เครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC รหัส 4A91 บล็อคใหม่ แบบอลูมิเนียมอัลลอยด์บล็อค มีน้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์ว MIVEC กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที. แรงบิดสูงสุด 14.3 กิโลกรัม-เมตร.ที่ 4,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเลคทรอนิกส์ ECI-MULTI 32 บิท ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) อัตราทดเฟืองท้าย 4.375 และมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร ความจุของถังน้ำมัน 45 ลิตร รองรับน้ำมันเชื้อได้ถึงแกสโซฮอล อี 20 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เคลมไว้ใน Eco Sticker 14.5 กม./ลิตร
ด้านสมรรถนะการขับขี่ ตอนแรกแอดมินยังคิดว่ายุคนี้รถที่นำเข้ามาจากทางอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่เครื่องยนต์และเกียร์ จะถูกปรับเซ็ทให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่แถบนั้นอยู่แล้ว แต่เมื่อขับใช้งานจริงกลับพบว่า เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร และเกียร์ อัตโนมัติ 4 จังหวะทำได้พอตัว แม้จะไม่หวือหวาหรือจัดจ้าน แต่ก็เพียงพอ ขับจากบุรีรัมย์ ผ่านมาด้านหลังเขาแผงม้า จังหวัดนครราชสีมา เพื่อลงมานอนที่ จังหวัดปราจีนบุรี ก็สามารถขับข้ามเนินเขาและพื้นที่สูงชัดได้ไม่ยากเย็น แม้ว่าจะต้องเติมคันเร่งหรือใช้โอเวอร์ไดรฟ์บ้าง โดยขณะทำการขับทดสอบ รถคันนี้นั่ง 4 คนพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ยังมีอัตราเร่งที่ดี จังหวะเร่งออกตัวและเร่งแซง ก็ทำได้พอตัว อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ทำได้ วัดจากมาตรวัดอยู่ที่ 12.5 กม./ลิตร
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำโช้ค ด้านท้ายแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ออกแบบมาเพื่อ เอกซ์แพนเดอร์ โดยเฉพาะ เน้นให้ความนุ่มนวลและสะดวกสบาย โดยเฉพาะการเดินทางและบรรทุกผู้โดยสาร แม้ว่าเอกซ์แพนเดอร์ จะใช้ชุดวาล์วในกระบอกโช้คเป็นของ อีโวลูชั่น 10 หรือ EVO X ก็ตามแต่ก็น่าจะช่วยให้เรืองของการซับแรงกระแทกและความแข็งแรงทนทาน
จาาการทดลองขับพบว่าช่วงล่างของ เอกซ์แพนเดอร์ ใหม่ ถูกเซ็ทมาในสไตล์รถครอบครัว ซึ่งเน้นในเรื่องของความนุ่มนวล นุั่งสบาย การบังคับควบคุมพวงมาลัยทำได้แม่นยำดี ด้วยเพราะเป็นรถขับหน้าที่ให้การตอบสนองต่อวงเลี้ยวได้แม่นยำ อีกทั้งยังติดตั้งพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำให้การบังคับควมคุมรถคันนี้ทำได้ดี เช่นเดียวกับระบบเบรก ซึ่งแม้วาจะเป็ฯระบบเบรกแบหน้าดิสก์เบรกหลังเป็นดรัมแต่ฟีลลิ่งในการเบรก ก็ทำได้ดี อาจะเป็นเพราะรถคันนี้ติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก ABS (Anti Lock Braking System) พร้อม ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก แบบอิเลคทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ทำให้จังหวะการเหยียบเบรกทำได้นุ่มนวลและให้ความรู้สึกมั่นใจดี
ระบบความปลอดภัยจัดมาครบ มีทั้ง ระบบควบคุมการทรงตัว ASC (Active Stability Control), ระบบป้องกันการลื่นไถล TCL (Traction Control System), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist System), ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal System), ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่ง, ระบบ Predestrian Protection ที่ออกแบบตัวถังด้านหน้าช่วยลดความรุนแรง จากแรงกระแทกจากรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนให้น้อยลงหากเกิดอุบัติเหตุ, โครงสร้างตัวถังนิรภัย Rise Body ให้ความปลอดภัยสูงสุดด้วยโครงสร้างตัวถังที่ใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูงมาผลิต เพื่อช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกบริเวณแผงประตู เพื่อลดแรงกระแทกด้านข้างให้กับผู้โดยสาร
ฟันธง! สำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เป็นรถครอบครัวที่มีหน้าตาโดดเด่นโดนใจ โดยเฉพาะดีไซน์ภายนอกที่ถอดรางทรงมาจาก XM CONCEPT รถต้นแบบสุดล้ำ ห้องโดยสารได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความโออ่าและกว้างขวาง เน้นความคุ้มค่าจากการใช้งาน สมรรถนะเครื่องยนต์ให้มาพอตัว เพียงพอกับการใช้งาน จะคุ้มคาน่าใช้มากแค่ไหนก็ต้องรอลุ้นราคาเปิดตัวกันอีกครั้ง
ข้อมูลเทคนิค มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์
มิติตัวรถ (มม.)
ยาว 4,475 มม.
กว้าง 1,750 มม.
สูง 1,700 มม.
ระยะฐานล้อ 2,775 มม.
เครื่องยนต์ รหัส 4A91 เบนซิน DOHC MIVEC 16 วาล์ว
จำนวนลูกสูบ 4
ความจุ(ซีซี) 1,499
กำลังสูงสุดแรงม้า/รอบต่อนาที 105/6,000
แรงบิดสูงสุด นิวตันเมตร/รอบต่อนาที 141/4,000
ระบบส่งกำลัง เกียร์/จังหวะ อัตโนมัติ/4
ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ราคา (บาท)
รุ่น GLS-LTD ราคา 779,000 บาท
รุ่น GT ราคา 849,000 บาท