บีอาร์จี เชื่อมั่น ปี 62 คึกคัก พร้อมเดินหน้า ชูจุดขายศูนย์บริการ
“บีอาร์จี กรุ๊ป” มั่นใจปีหมูทอง ตลาดรถหรูคึก พร้อมพัฒนา เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ชูจุดขายศูนย์บริการเป็นหัวใจสำคัญ
แม้ว่าสภาวะตลาดที่ตกต่ำมาตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดรถยนต์นำเข้า ที่ไม่ใช่แค่เรื่องสภาวะตลาดเท่านั้น แต่ยังโดนมรสุมต่างๆ รุมเร้ามากมาย จนทำให้บริษัทรถยนต์นำเข้าต้องปิดตัวไปในหลายๆ ที่ จะมีที่เหลืออยู่ก็แต่บริษัทที่เป็นของจริง ที่มีศักยภาพพอที่จะฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ บีอาร์จี กรุ๊ป บริษัทชั้นนำแห่งวงการรถยนต์นำเข้า ที่อยู่ยงคงกระพันมานับ 40 ปี โดยนายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร บีอาร์จี กรุ๊ป บริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้เปิดมุมมอง และทิศทาง ของตลาดรถนำเข้าในปีหมูทองนี้
ตลอด 3-4 ปี ที่ผ่านมานี้ เกิดอะไรขึ้นกับตลาดรถยนต์นำเข้า
“คือช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ถือว่าตลาดรถนำเข้าต้องเจอกับบททดสอบหนักๆ อยู่หลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งมันมาจุกอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกันด้วย ทั้งเรื่องจากผลกระทบจากภาพรวมของเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายเกี่ยวกับการนำเข้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกณฑ์ภาษีใหม่ โดยใช้ CO2 เป็นตัวกำหนด , เรื่องของภาษีสรรพสามิตแบบใหม่ , รวมถึงเรื่องของขั้นตอนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทรถนำเข้าต้องมีการปรับตัวเป็นอย่างมาก หากใครไม่สามารถปรับตัวได้ ก็จะหายจากไป ส่วนบริษัทที่ปรับตัวได้ทัน และทำได้ตามขั้นตอนของรัฐอย่างถูกต้อง ก็ยังคงอยู่ในตลาดได้ต่อไป แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งขั้นตอนการปฎิบัติต่างๆ ที่เป็นเรื่องใหม่มากๆ ทำให้การนำรถยนต์เข้ามา และนำออกจำหน่ายแต่ละคัน ต้องใช้เวลามากกว่าแต่ก่อนมาก รวมถึงต้องเจอกับภาวะด้านราคา ที่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคารถยนต์ที่จำหน่ายขึ้นทุกรุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างภาษีแบบใหม่ จึงส่งผลทำให้ตลาดรถนำเข้าชะลอตัวลงอย่างมาก ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่ดีด้วย เลยทำให้ยิ่งหนักเข้าไปอีก”
ทาง บีอาร์จี มีการปรับตัวยังไงในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา
“คือ จริงๆ ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่เราทำธุรกิจรถยนต์มา เราต้องเจอกับภาวะปัญหา การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเรื่องการปรับตัวของ บีอาร์จี จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปนัก ถ้าเป็นเรื่องของกฎหมาย เราก็แค่ต้องทำตามกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ ที่รัฐกำหนดไว้ คือทำทุกอย่างให้มันถูกต้องก็จะไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องยอดขายที่ชะลอตัวนั้น เราก็รับมือด้วยการรัดเข็มขัดตัวเองมากขึ้น ตัดอะไรที่ไม่จำเป็นออก แต่เพิ่มเติมในส่วนที่จำเป็น โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์บริการ”
หมายถึง บีอาร์จี มีการเพิ่มงบลงทุนในส่วนของศูนย์บริการ?
“ใช่ครับ คือปัจจัยสำคัญเลยที่ทำให้ บีอาร์จี สามารถดำเนินกิจการในแวดวงรถยนต์ได้จนถึงทุกวันนี้ คือเรื่องของศูนย์บริการ คือไม่ว่าสถานการณ์ด้านอื่นๆ จะเป็นยังไง แต่ศูนย์บริการจะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของรถยนต์นำเข้า ที่ต้องพัฒนาบุคลากร และเครื่องมือให้ทันกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดทุกปีๆ เพราะฉะนั้นถึงแม้ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของงานขายอาจจะชะลอตัว แต่ในส่วนของศูนย์บริการของ บีอาร์จี ไม่เคยชะลอตัวลง มีแต่จะต้องพัฒนาต่อไปในทุกๆ วัน ซึ่งศูนย์บริการของ บีอาร์จี ถือเป็นจุดขายที่สำคัญของเรา ที่ทำให้ลูกค้าในตลาดรถยนต์นำเข้า เกิดความเชื่อมั่นในสินค้า และบริการหลังการขายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เรามีศูนย์บริการที่ครบวงจร ทั้งงานเครื่อง-ช่วงล่าง, งานสี-ตัวถัง, งานเปลี่ยนกระจก, งานประกันภัย รวมถึงมีคลังอะไหล่ขนาดใหญ่สำหรับรถนำเข้ารุ่นต่างๆ และเรายังมีแม้กระทั้งรถยกของเราเอง ที่คอยให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชม ซึ่งในส่วนนี้เอง เราต้องทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และเพื่อความยั่งยืนต่อไป”
ปี 2562 นี้ บีอาร์จี มีแผนพัฒนาศูนย์บริการอย่างไรบ้าง
“ในปี 2562 นี้ ด้านการพัฒนาศูนย์บริการของ บีอาร์จี จะมีอยู่ 3 ส่วนหลักๆ ที่เราทุมงบลงทุนไป หนึ่งคือ การขยายสาขา จากเดิมที่เรามีอยู่แล้วถึง 5 สาขา คือที่ ศรีนครินทร์, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ, สุทธิสาร, และภูเก็ต โดยในปีนี้เราจะดำเนินการเพิ่มสาขาอีกหนึ่งแห่ง คือ ที่ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโชว์รูม และศูนย์บริการ ซึ่งเมื่อสาขาใหม่นี้เสร็จแล้ว จะทำให้เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการ รถยนต์นำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ส่วนที่สองคือการปรับปรุงสถานที่ตัวโชว์รูม และศูนย์บริการ สองแห่ง คือ ศรีนครินทร์ และ รามคำแหง ทั้งในส่วนของห้องรับรองลูกค้า และพื้นที่การทำงานของศูนย์บริการ ที่จะเน้นเรื่องของสะดวกสบายต่อลูกค้า และความทันสมัยของเครื่องมือต่างๆ อีกส่วนหนึ่งคือการที่เราลงทุนไปแล้วกว่าหนึ่งล้านบาท เพื่อทำเว็บไซต์ใหม่ และจัดทำแอพพลิเคชั่นในมือถือ สำหรับรองรับลูกค้ายุคดิจิตอล เพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับ บีอาร์จี ได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น โดยแอพพลิเคชั่นของ บีอาร์จี นั้นจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของ บีอาร์จี ได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านของศูนย์บริการ ซึ่งลูกค้าสามารถทำการนัดหมาย ตรวจสอบเวลาการนำรถยนต์เข้ารับบริการได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะ การซ่อมบำรุงรถยนต์ โดยผ่านทางแอพลิเคชั่นนี้ได้อีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดทำแอพลิเคชั่นนี้ คาดว่าจะมีการเปิดตัว และเปิดใช้งานแอพลิเคชั่นดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ซึ่ง บีอาร์จี ถือเป็นเจ้าแรกในตลาดรถยนต์นำเข้าที่จะมีระบบแอพลิเคชั่นนี้เข้ามาบริการลูกค้า และถือว่าเป็นมิติใหม่ในการให้บริการของวงการรถยนต์ในเมืองไทยเลยทีเดียว”
ปี 2562 สภาพตลาดรถยนต์นำเข้ามีทิศทางอย่างไร
“คือในปี 2562 นี้ ถือว่าเป็นปีดี เป็นปีหมูทอง คือถ้าตามความเชื่อโดยทั่วไป ก็จะคิดว่าปีนี้ทำอะไรก็จะหมูๆ จะง่ายไปหมด แต่ถ้ามองในมุมของธุรกิจตามความเป็นจริง ในปีนี้ ก็จะมีปัจจัยหนุนหลายๆ อย่าง ที่จะเอื้อให้สภาวะตลาดน่าจะกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลของประเทศไทยเราด้วย โดยที่ ในหลวง ร.10 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ให้เป็นที่ชื่นชมยินดีของประชาชน อีกทั้งยังมีการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี ซึ่งหลังจากการเลือกตั้งน่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่น่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ
แล้วประกอบกับภาวะต่างๆ ที่บริษัทรถนำเข้าต้องเผชิญมาตลอด ก็เริ่มจะมีความนิ่งมากขึ้น มีความเข้าใจ และสามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ในปีนี้ ยังจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวอีก ทั้งรถจากฝั่งญี่ปุ่น หรือจากฝั่งยุโรป ซึ่งเป็นรุ่นที่มีกลุ่มลูกค้าเฝ้ารออยู่ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Supra หรือ Porsche 911 จึงคิดว่าในปี 2562 นี้ ตลาดรถยนต์นำเข้าน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หรืออย่างน้อย ก็น่าจะดีกว่าช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นำเข้าโดยรวมน่าจะโตกว่าปีก่อนได้ถึง 10 เปอร์เซนต์”
ช่วงต้นปีหมูทอง บีอาร์จี มีโปรโมชั่นพิเศษอะไรบ้าง
“ในช่วงต้นปีหมูทอง ซึ่งถือเป็นปีที่ดี เราจึงมีแคมเปญพิเศษๆ เพื่อเป็นของขวัญ และเป็นการขอบคุณลูกค้าของเราที่อยู่ด้วยกันมากว่า 40 ปี โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์บริการ ที่เราพร้อมมอบส่วนลดค่าแรงให้สูงสุดถึง 35 เปอร์เซ็นต์เลยมีเดียว อีกทั้งเรายังจัดโปรโมชั่นพิเศษสุด คือ ฟรี ค่าแรกเข้า (จากปกติจะมีค่าแรกเข้าอยู่ที่ 200,000 บาท ต่อคัน) สำหรับรถยนต์หรูทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นรถยุโรปอย่าง Rolls-Royce, Bentley, Porsche, Mercedes-Benz, Jaguar, Land Rover, Volkswagen, Audi, BMW, Mini หรือรถญี่ปุ่น Alphard, Vellfire, Land Cruiser, Prado, Voxy, Harrier เป็นต้น โดยสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ที่ บีอาร์จีทุกสาขา โดยไม่มีค่าแรกเข้า ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2562 นี้เท่านั้น และนอกจากนี้ในส่วนของงานสี-ตัวถัง แล้วเรายังมีบริการรับเคลมประกันภัยให้กับลูกค้าฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ กับบริษัทประกันภัยต่างๆ ทั้ง กรุงเทพประกันภัย, เมืองไทยประกันภัย, ทิพยประกันภัย, เอไอจีประกันภัย, ประกันคุ้มภัย, ประกันภัยไทยวิวัฒน์, นวกิจประกันภัย, แอลเอ็มจีประกันภัย และบริษัทประกันภัยชั้นนำอื่นๆ ทุกบริษัท ซึ่งทั้งหมดนี้ เราตั้งใจที่จะมอบให้เป็นของขวัญพิเศษสำหรับลูกค้า บีอาร์จี ทุกคน”