“ซูซูกิ แครี่” ยังเป็นผู้นำ “ฟู้ดทรัค” ยอดเติบโตสวนทางตลาด
ข่าวรถวันนี้ : “ซูซูกิ แครี่” ยังเป็นผู้นำ “ฟู้ดทรัค” เติบโตสวนทางตลาด สร้างโอกาสในช่วงวิกฤติ ชูความอเนกประสงค์ครบครัน ตอบโจทย์ธุรกิจที่หลากหลาย ล็อกเป้ายอดขาย 4,200 คัน
ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ชูความอเนกประสงค์ของ ซูซูกิ แครี่ ตอกย้ำบทบาทผู้นำฟู้ดทรัคที่มีส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสและร่วมขับเคลื่อนธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในรูปแบบที่หลากหลาย สร้างอัตราเติบโตให้กับธุรกิจด้านการขนส่ง สอดรับการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์ มั่นใจสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้าเก็บเกี่ยวยอดขาย 4,200 คันในปีนี้
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการผลักดัน ซูซูกิ แครี่ รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ลงสู่ตลาดนับตั้งแต่กลางปี 2549 ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ตอกย้ำความอเนกประสงค์ด้วยสมรรถนะการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งยังสร้างกระแส ฟู้ดทรัค ฟีเวอร์ และมีส่วนสำคัญในการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเจ้าของธุรกิจในทุกระดับ ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของความอเนกประสงค์ สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้ซูซูกิครองตลาดในเซ็กเมนต์ดังกล่าว เก็บเกี่ยวยอดขายได้มากกว่า 50,000 คัน หลังเปิดตัวเจนเนอเรชั่นแรกและทำตลาดในประเทศไทยยาวนานกว่า 13 ปี และเดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2562 ยกระดับด้วยรูปโฉมที่ทันสมัย รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่ครบครันยิ่งขึ้น
ซูซูกิ แครี่ เป็นหนึ่งในกำลังขับเคลื่อนที่ผลักดันให้ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) มียอดขายที่เติบโตขึ้นเป็นลำดับ แม้ในช่วงวิกฤติที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทว่า ซูซูกิ แครี่ ยังสามารถสร้างอัตราเติบโตสวนทิศทางตลาด ด้วยยอดขาย 2,433 คัน ในปี 2563 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า รวมถึงในปีที่ผ่านมาสามารถขยับยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2,886 คัน เติบโตถึง 18.62% จากปีก่อนหน้า ตอกย้ำถึงความนิยมและความสำคัญของ ซูซูกิ แครี่ ในตลาดประเทศไทย
โดยมากกว่า 40% ของลูกค้าซูซูกิ แครี่ จะนำไปปรับโฉมเพื่อรองรับธุรกิจในบทบาทของ “ฟู้ดทรัค” ซึ่งมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20% ก่อนที่การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส 2019 จะสร้างผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิต ไล่เรียงไปจนถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจ ตอกย้ำให้เห็นถึงความอเนกประสงค์และความสำคัญของซูซูกิ แครี่ ที่เป็นมากกว่ายานพาหนะ ทว่ายังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างโอกาสในช่วงเวลาวิกฤติ ผลักดันให้หลากหลายธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่มีปัจจัยด้านความปลอดภัยเป็นตัวแปรสำคัญ
นอกจากจะมีส่วนสำคัญในการสร้างงานสร้างอาชีพภายใต้แนวคิด “เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ซูซูกิ แครี่ ยังร่วมขับเคลื่อนสังคม คลายวิกฤติ ภายใต้บทบาทของ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) หรือ รถตรวจโควิด รวมถึงรถส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา เพื่อแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์และช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโคโรน่า ไวรัส 2019 ซึ่งเป็นสิ่งที่ ซูซูกิ พร้อมให้การสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจ ภายใต้โครงการ “SUZUKI Cause We Care”
ซูซูกิพร้อมตอกย้ำความอเนกประสงค์ของ ซูซูกิ แครี่ ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหาพาหนะที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในเรื่องของ สมรรถนะการใช้งาน รวมถึงงานบริการหลังการขาย ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เลือกใช้ ซูซูกิ แครี่ เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจในทุกระดับ ทั้งในบทบาทของการขนส่ง หรือแปลงโฉมเป็นร้านค้าเคลื่อนที่รองรับธุรกิจในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
โดยคาดการณ์ว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ ซูซูกิ แครี่ ยังคงได้รับความนิยมและเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจด้านการขนส่งที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์ ที่สร้างการขยายตัวของธุรกิจด้านการขนส่งอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา และตั้งเป้าที่จะเก็บเกี่ยวยอดขาย 4,200 คันในปีนี้ เติบโตจากปีก่อนหน้า 45%
สำหรับ ซูซูกิ แครี่ ตอบโจทย์การใช้งานด้วยมิติตัวรถที่มีความยาว 4,195 มม. ความกว้าง 1,765 มม. และความสูง 1,910 มม. มาพร้อมความกว้างและความยาวของพื้นที่บรรทุกอยู่ที่ 1,670 มม. และ 2,450 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 160 มม. เติมเต็มสมรรถนะการใช้งานด้วยกระบะบรรทุกแบบเรียบผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลวาไนซ์ ป้องกันสนิมและการสึกกร่อน สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้านช่วยให้การขนถ่ายสัมภาระทำได้สะดวกยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 945 กิโลกรัม
ตอบสนองการใช้งานภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน K15B ความจุ 1,462 ซี.ซี. ขนาดปากกระบอกสูบ 74.0 มมช่วงชัก 85.0 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10:1 ให้พละกำลังสูงสุด 97 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 173 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E20 เพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ด้วยระบบเบรก ABS ทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบ Engine Drag Control รักษาความเร็วของล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุลกันป้องกันการลื่นไถล ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบคานแข็งพร้อมแหนบ 5 ชั้นวางเหนือเพลา ล้อและยางขนาด 165/80R13 ใช้งานได้อย่างคล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.4 เมตร ตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสารมาในโทนสีเทาดำ ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่และช่องเก็บของ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครัน เบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับสไลด์ได้ พวงมาลัยไฟฟ้าช่วยลดแรงที่ใช้ในการหมุนพวงมาลัย ปรับระดับความหนักตามความเร็วของรถให้เหมาะสมกับการบังคับพวงมาลัย สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับการขับขี่
สำหรับการต่อยอดไอเดียการใช้รถในเชิงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง เรามีที่ปรึกษาการขายพร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและตกแต่ง SUZUKI CARRY นอกจากนั้น ซูซูกิยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเข้ามาร่วมเป็นเอ็กคลูซีฟลีสซิ่งพร้อมทีมงานคอยให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดูแลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-3 เมษายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อได้ที่
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900
ข่าวรถวันนี้ : ซูซูกิ จัดแคมเปญพิเศษ “SUZUKI SUPER SURPRISE DEAL” เลือกรับข้อเสนอขับฟรี 120 วัน ช่วยผ่อนฟรี 10 เดือน ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุดกว่า 50,000 บาท
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของโครงการในแคมเปญพิเศษ SUZUKI MEGA DEAL ในช่วงเดือนปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ SUZUKI ในเดือนมกราคม 2565 ได้จำนวน 1,851 คัน เติบโตเพิ่มมากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซูซูกิจึงตอกย้ำความสำเร็จดังกล่าวด้วยการจัดแคมเปญพิเศษ “SUZUKI SUPER SURPRISE DEAL” เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวของซูซูกิ รวมถึงผลักดันยอดขาย และรองรับกับฤดูการขายรถยนต์ในช่วงต้นปี
สำหรับการจัดแคมเปญพิเศษ “SUZUKI SUPER SURPRISE DEAL” เพื่อผลักดันยอดขาย รวมเพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มอบให้แก่ซูซูกิ และมีความต้องการอยากเป็นเจ้าของรถยนต์สักหนึ่งคันที่มีความคุ้มค่าทั้งในเรื่องของราคาและการใช้งาน เป็นรถที่สามารถเข้าถึงและตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งเราเชื่อว่ารถยนต์จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน
แคมเปญ “SUZUKI SUPER SURPRISE DEAL” มอบให้ลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ซูซูกิทุกท่าน โดยสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษ
- รถยนต์ซูซูกิรุ่น SWIFT ขับฟรี 120 วัน หรือโปรแกรมช่วยผ่อนค่างวดรถ 10 เดือน เดือนละ 4,000 บาท เฉพาะสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการ
- พร้อมรับบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 3,000 บาท สำหรับรถยนต์ซูซูกิรุ่น SWIFT, และ CIAZ
- ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 48 เดือน (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
- อีโคคาร์ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,999 บาท (สำหรับรถยนต์ซูซูกิรุ่น CELERIO GA M/T)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ปีแรก
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี (สำหรับรถยนต์ซูซูกิรุ่น SWIFT, CIAZ, CELERIO, XL7 และ ERTIGA)
ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าว จะมอบให้เฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2565 โดยข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ต้องเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำในความสำเร็จในครั้งนี้และผลักดันยอดขายของรถยนต์ซูซูกิในช่วงฤดูการขายต้นปี รวมถึงการเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่จะมีขึ้นในวันที่ วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ณ อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี อีกทั้ง ซูซูกิมั่นใจว่าจะสามารถมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นได้ตามเป้าหมาย 30,000 คันในปี 2565 โดยแบ่งเป็นรุ่นดังนี้
- SUZUKI SWIFT เป้าหมายจำหน่ายอยู่ที่ 12,000 คัน
- SUZUKI CIAZ เป้าหมายจำหน่ายอยู่ที่ 3,600 คัน
- SUZUKI CELERIO เป้าหมายจำหน่ายอยู่ที่ 3,100 คัน
- SUZUKI XL7 เป้าหมายจำหน่ายอยู่ที่ 5,400 คัน
- SUZUKI ERTIGA เป้าหมายจำหน่ายอยู่ที่ 1,700 คัน
- SUZUKI CARRY เป้าหมายจำหน่ายอยู่ที่ 4,200 คัน
โดยเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่น จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจและหลากหลาย ด้วยเพราะเรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้า และงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็ง ที่พร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน รวมไปจนถึงการมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศเข้ามาช่วยเรื่องการอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลายให้สามารถเข้าถึงการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีออกมาสู่ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ แต่เรายังคงไม่ลืมที่จะเตรียมความพร้อมและพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานให้สามารถรองรับการขยายตัวของสมาชิกของครอบครัวซูซูกิที่กำลังจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยมีการพัฒนาและยกระดับพนักงานให้เข้าถึงช่องทางออนไลน์ปรับพฤติกรรมการขายและการดูแลให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคให้มีความแม่นยำ และโดนใจมากยิ่งขึ้น ด้านงานบริการก็มีแนวทางการพัฒนาไปร่วมกับทางผู้จำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะสร้างคุณค่าให้แก่งานบริการเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง และเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า พร้อมทั้งเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน 130 แห่ง ภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”
ข่าวรถวันนี้ : ‘ซูซูกิ’ จัดแข่งขัน “Best Dealer Award 2020/2021” พร้อมประกาศรายชื่อ 10 ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมแห่งปี มุ่งยกระดับงานบริการลูกค้า สร้างความพึงพอใจสูงสุด
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หนึ่งในแนวทางการบริหารงานอันสำคัญของซูซูกิ ต้องการที่จะดำเนินธุรกิจให้เคียงคู่และดำรงอยู่ด้วยความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทย สิ่งหนึ่งที่เรามุ่งมั่นจะพัฒนามาโดยตลอด คือ การยกระดับงานบริการของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและลูกค้าของซูซูกิว่า ธุรกิจของซูซูกิจะสามารถก้าวไปข้างหน้าและอยู่คู่คนไทยได้อย่างยั่งยืน
โดยในช่วงระยะที่ผ่านมา ‘ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย’ ได้มีการจัดการแข่งขันเพื่อคัดเลือกผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุสำคัญที่ต้องการจะยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานในทุกด้านของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ กระตุ้นให้เกิดการดูแลและการปรับปรุงพัฒนางานบริการและเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจของผู้จำหน่ายในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นผ่านการตอบแทนลูกค้าด้วยความจริงใจในฐานะที่ลูกค้าทุกท่านเป็นผู้ให้การสนับสนุนซูซูกิเป็นอย่างดีเสมอมา
สำหรับในปีนี้ ‘ซูซูกิ’ ยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยการแข่งขันประจำปี 2563/2564 (Best Dealer Award 2020/2021) ได้รับความร่วมมือจากผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขันภายใต้หัวข้อ “การนำหลักการ Suzuki Cause We Care มาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจภายในองค์กรของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในงานบริการอย่างยั่งยืน” “บริษัทฯ และผู้จำหน่ายทุกรายต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ การพัฒนาศักยภาพของตัวบุคคลากร พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดกันระหว่างผู้บริหารและผู้จำหน่าย เพื่อร่วมกันมองหาแนวทางในการนำข้อมูลต่างๆ มาพัฒนาและปรับปรุงการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต”
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม ‘Best Dealer Award 2020/2021’ วัตถุประสงค์สำคัญ คือ การมีส่วนร่วมของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ให้มุ่งเน้นไปที่การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้นโยบายของบริษัท “เหนือกว่าความใส่ใจ คือเข้าใจทุกความต้องการ (Suzuki Cause We Care)” ซึ่งผู้จำหน่ายทุกรายจะมีแสดงให้เห็นถึงทิศทางในการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยทำการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ของกระบวนการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่การดูแลบุคลากรในองค์กร ผู้บริหารให้การสนับสนุนพนักงานรวมถึงเปิดโอกาสและปลูกฝังความรู้สึกเป็นเจ้าของเพื่อให้มีใจรักในการบริการลูกค้าด้วยความยินดีและเต็มใจ มีการพัฒนาทักษะและเพิ่มความรู้ให้บุคลากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมืออาชีพ มีการประสานความร่วมมือในการทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในบริษัท เพื่อผลิตภาพรวมที่ดีให้กับองค์กร ทำให้พนักงานสามารถส่งต่อความรู้สึกและบริการดีๆ ไปให้กับลูกค้า ซึ่งนับเป็นการยืนยันและสร้างความมั่นใจถึงคุณภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นครอบครัวซูซูกิได้เป็นอย่างดี
สำหรับแนวทางในการแข่งขันทางซูซูกิได้ทำการคัดเลือกผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิจากจำนวน 127 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมแห่งปี 2020/2021 จำนวน 10 แห่ง โดยพิจารณาจากคุณสมบัติและผลการดำเนินงานของผู้จำหน่ายในรอบปีที่ผ่านมาตามเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนดก่อนจะทำการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ผ่านการนำเสนอวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินงานของผู้จำหน่ายแต่ละแห่ง แบ่งออกเป็นรางวัล Best of the Best Dealer 2020/2021 จำนวน 1 รางวัล และรางวัล Platinum Dealer 2020/20121 จำนวน 9 รางวัล ซึ่งได้รายชื่อผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมแห่งปีที่ผ่านการแข่งขันและตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ ดังนี้
Best of the Best Dealers 2020/2021
- คุณสมโชค โกฎมณี บริษัท สุพรรณยนตการ เทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดนนทบุรี
Platinum dealers 2020/2021
- คุณสนาวุธ คลังเจริญพงษ์ภา บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด จังหวัดนครราชสีมา
- คุณชยธร อุเทนพัฒนันท์ บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด จังหวัดขอนแก่น
- คุณณัฐพล อุตรนคร บริษัท อารีมิตร ออโต้เซลส์ จำกัด จังหวัดมหาสารคาม
- คุณวรุตม์ กฐินทอง บริษัท นวซูซูกิ ปทุมธานี จำกัด จังหวัดปทุมธานี
- คุณภูเบศ ฐิติกฤตานน บริษัท ดี โฟร์ คาร์ซิตี้ จำกัด กรุงเทพมหานคร
- คุณธนกานต์ สุวรรณแสง บริษัท เอ.เอ็น.เอ็น.ออโต้เซลส์ (2016) จำกัด จังหวัดนราธิวาส
- คุณกิตติพงษ์ สกุลคู บริษัท ซูซูกิเจียงอุดร จำกัด จังหวัดบึงกาฬ
- คุณพีรพัฒน์ สิทธิยานุรักษ์ บริษัท ซูซูกิ หัวหิน (สิทธิภัณฑ์) จำกัด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- คุณสมเกียรติ อรุณวรากรณ์ บริษัท ส.อรุณ เซลส์เซอวิสเซ็นเตอร์ จำกัด จังหวัดพิษณุโลก
นายวัลลภกล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันแต่ละครั้งเราได้สร้างนักบริหารธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณธรรมจริยธรรมในการบริหารกิจการเพื่อที่จะทำให้องค์กรเกิดความก้าวหน้าประสบความสำเร็จและยั่งยืน สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงรวมไปถึงการพัฒนาเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมอบความสุขให้กับลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายให้เกิดความพอใจสูงสุด
ทั้งนี้ ทางบริษัทซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมการแข่งขันในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดีและประทับใจในแบรนด์รถยนต์ซูซูกิ ผ่านการร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้บริหารโชว์รูมและศูนย์บริการทุกแห่ง ที่ต่างพร้อมใจกันให้ความสำคัญต่อการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโชว์รูม ตลอดจนการดูแลบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์รถยนต์ซูซูกิให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป.
ข่าวรถวันนี้ : ซูซูกิ จัดหนักส่งท้ายปีกับแคมเปญ “SUZUKI MEGA DEAL” ฉลองยอดขายอีโคคาร์ 200,000 คัน ขับฟรี 150 วัน* ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุดกว่า 50,000 บาท*
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของโครงการในแคมเปญพิเศษ SUZUKI DEAL D DAY ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้ความไว้วางใจเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวของซูซูกิ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ SUZUKI ในเดือนตุลาคม 2564 ได้จำนวน 2,022 คัน เติบโตเพิ่มมากขึ้น 36% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2564 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SUZUKI SWIFT และ SUZUKI XL7 ซูซูกิจึงสานต่อความสำเร็จดังกล่าวด้วยการจัดแคมเปญยิ่งใหญ่ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2564 ภายใต้โครงการ SUZUKI MEGA DEAL ดีลยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เพื่อเป็นการขอบคุณและเป็นของขวัญปีใหม่แก่ลูกค้า และผลักดันยอดขายรถอีโคคาร์รวมทุกรุ่นเข้าสู่ 200,000 คัน ในเดือนธันวาคม 2564 นี้
จากทิศทางของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยจากการที่ซูซูกิมีจัดทำแคมเปญพิเศษ SUZUKI DEAL D DAY ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้ยอดขายของซูซูกิปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยสรุปยอดจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2564 แบ่งตามรุ่นดังนี้
● SUZUKI SWIFT สปอร์ตอีโคคาร์ยอดนิยม มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 896 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 61 %
● SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 423 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 9 %
● SUZUKI CIAZ พรีเมียมอีโคคาร์ซีดาน มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 130 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 12 %
● SUZUKI ERTIGA รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 66 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 61 %
● SUZUKI XL7 ใหม่ รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 265 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 84 %
● SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์เปิดกระบะท้ายได้ 3 ด้าน มียอดจำหน่าย 242 คัน เพิ่มจากเดือนที่ผ่านมา 1 %
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง กับการที่ลูกค้าคนไทยให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ จึงได้สานต่อยอดความสำเร็จกิจกรรมโดยการจัด แคมเปญพิเศษ “SUZUKI MEGA DEAL ดีลยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี” เพื่อผลักดันยอดขายและเป็นการตอกย้ำว่าจะสามารถสร้างยอดขายรถอีโคคาร์ทุกรุ่นได้เกิน 200,000 คัน ในประเทศไทยตั้งแต่เริ่มการผลิตในปี 2555 เป็นต้นมา มากไปกว่านั้นเพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มอบให้แก่ซูซูกิ รวมถึงเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า และมีความต้องการอยากเป็นเจ้าของรถยนต์สักหนึ่งคันที่มีความคุ้มค่าทั้งในเรื่องของราคาและการใช้งาน เป็นรถที่สามารถเข้าถึงและตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งเราเชื่อว่ารถยนต์จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
แคมเปญ “SUZUKI MEGA DEAL ดีลยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี” มอบให้สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ซูซูกิทุกท่าน
● รับเงื่อนไขพิเศษทันที ขับฟรี 150 วัน สำหรับรถยนต์ซูซูกิรุ่น SWIFT, XL7 และ ERTIGA และเฉพาะสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการ
● พร้อมรับบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 3,000 บาท เพิ่มจากส่วนลดแคมเปญพิเศษจากผู้จำหน่าย (สำหรับรถยนต์ซูซูกิรุ่น SWIFT, XL7 และ ERTIGA)
● ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
● ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 72 เดือน (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
● อีโคคาร์ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,999 บาท (สำหรับรถยนต์ซูซูกิรุ่น CELERIO GA M/T)
● ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ปีแรก
● ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
● ฟรี บัตรชมภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ซีเนม่า จำนวน 2 ที่นั่ง ในทุกการจอง
ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าว จะมอบให้เฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2564 โดยข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ต้องเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำในความสำเร็จในครั้งนี้และผลักดันยอดขายของรถยนต์ซูซูกิในช่วงโค้งสุดท้ายของปี รวมถึงการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ณ อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี ซูซูกิเชื่อมั่นว่าจะสามารถมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายรถอีโคคาร์ทุกรุ่นได้ครบ 200,000 คันภายในปีนี้แน่นอน
โดยเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่น จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจและหลากหลาย ด้วยเพราะเรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้า และงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็ง ที่พร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน รวมไปจนถึงการมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ เข้ามาร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟลีสซิ่ง ช่วยเรื่องการอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลายให้สามารถเข้าถึงการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีออกมาสู่ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ แต่เรายังคงไม่ลืมที่จะเตรียมความพร้อมและพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานให้สามารถรองรับการขยายตัวของสมาชิกของครอบครัวซูซูกิที่กำลังจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยมีการพัฒนาและยกระดับพนักงานให้เข้าถึงช่องทางออนไลน์ปรับพฤติกรรมการขายและการดูแลให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคให้มีความแม่นยำ และโดนใจมากยิ่งขึ้น ด้านงานบริการก็มีแนวทางการพัฒนาไปร่วมกับทางผู้จำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะสร้างคุณค่าให้แก่งานบริการเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ล่าสุดเตรียมที่จะขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน 130 แห่ง ภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”
ข่าวรถวันนี้ : ซูซูกิ ดันยอดขายอีโคคาร์ ก้าวสู่ 2 แสนคัน ย้ำความเชื่อมั่นลูกค้าชาวไทย มอบแคมเปญพิเศษ “SUZUKI DEAL D DAY” ปลดล็อกทุกเงื่อนไข ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า (ขับฟรี 90 วัน) ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,999 บาท เลือกรับดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 72 เดือน หรือ ดาวน์ 0% ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบัตรเติมน้ำมันฟรี 3,000 บาท
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ไปจนถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโตอย่างรุนแรง จนนำมาถึงการปรับตัวไปสู่การดำเนินวิถีชีวิตแบบใหม่ ธุรกิจต่างๆ ก็ต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับเปลี่ยนแปลงจากวิกฤติที่เกิดขึ้น ในส่วนของซูซูกิก็มีการปรับแผนด้านงานขายเพื่อพัฒนาและยกระดับพนักงานให้เข้าถึงช่องทางออนไลน์ปรับพฤติกรรมการขายและการดูแลให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคให้มีความแม่นยำ และโดนใจมากยิ่งขึ้น ด้านงานบริการก็มีแนวทางการพัฒนาไปร่วมกับทางผู้จำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะสร้างคุณค่าให้แก่งานบริการเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ล่าสุดเตรียมที่จะขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” แต่อย่างไรก็ตาม จากทิศทางของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลง และตัวเลขการได้รับวัคซีนของประชนมีตัวเลขที่สูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเริ่มมีการขยับตัวกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง น่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ส่วนของตลาดรถยนต์ก็น่าจะเริ่มกลับมาแข่งขันกันอย่างร้อนแรงมากขึ้น
นอกจากการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในช่วงท้ายของปี ทั้งงานด้านบริการ และการแนะนำ SUZUKI SWIFT GL PLUS รุ่นตกแต่งพิเศษ มาภายใต้แนวคิด “เร้าใจเต็มสปีด สุดขีดสไตล์พลัส” มุ่งหวังที่จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นแล้วนั้น ซูซูกิ เตรียมจัดกิจกรรมพิเศษในไตรมาสที่ 4 SUZUKI DEAL D DAY เพื่อสร้างความสำเร็จการเข้าสู่ยอดขายจำนวน 200,000 คัน ของรถอีโคคาร์ซูซูกิทุกรุ่นในประเทศไทย นับตั้งแต่การเข้ามาดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2555 อีกด้วย
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง กับการที่ลูกค้าคนไทยให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ ซูซูกิ จนสามารถสร้างยอดขายรถอีโคคาร์ได้กว่า 196,266 คันในประเทศไทยตั้งแต่เริ่มการผลิตในปี 2555 เป็นต้นมา จึงจัดกิจกรรมเพื่อผลักดันยอดขายให้บรรลุ 200,000 คัน ที่จะตอบแทนและนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ทั้งด้านการบริหารงานอย่างครบวงจร เพื่อบริการลูกค้าและเจาะตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น สำหรับแคมเปญพิเศษ “SUZUKI DEAL D DAY ปลดล็อกทุกเงื่อนไข ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า” จะจัดขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มอบให้แก่ซูซูกิ และมีความต้องการอยากเป็นเจ้าของรถยนต์สักหนึ่งคันสามารถเข้าถึงและตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วย
แคมเปญ “SUZUKI DEAL D DAY ปลดล็อกทุกเงื่อนไข ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า” จะมอบให้สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ซูซูกิทุกท่าน
- รับเงื่อนไขพิเศษทันที ขับฟรี 90 วัน! ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า
- พร้อมรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท เพิ่มจากส่วนลดแคมเปญพิเศษจากผู้จำหน่าย (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
- ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 72 เดือน (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
- อีโคคาร์ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,999 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1
ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าว จะมอบให้เฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 โดยข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ต้องเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากทิศทางของตลาดรถยนต์ที่ดูจะมีแนวโน้มสดใสขึ้นในช่วงท้ายของในปี 2564 ซูซูกิคาดว่ายอดจำหน่ายรวมจะอยู่ที่ 30,000 คัน โดยเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่น จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจและหลากหลาย ด้วยเพราะเรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้าและงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็ง ที่พร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน รวมไปจนถึงการมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ เข้ามาร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟลีสซิ่ง ช่วยเรื่องการอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติโควิด-19 ให้สามารถเข้าถึงการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกับ ซูซูกิ ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด, ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม ซูซูกิ มีความต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดี และการบริการที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย เราจึงไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต
สำหรับซูซูกิ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคมไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันผ่านโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” โดยที่ผ่านมาได้ร่วมกับหลายหน่วยงานในการเข้าไปสนับสนุนและให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่น ความร่วมมือกับหมอแล็บแพนด้า (ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน) ศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 และศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการสนับสนุนรถ SUZUKI CARRY เพื่อนำไปพัฒนาเป็น SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit (รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ และ SUZUKI Carry to Your Home รถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ติดตั้งระบบความดันลบ ที่จะอำนวยความสะดวกและมอบความปลอดภัยให้แก่ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในการเดินทางกลับไปรักษาตัวยังภูมิลำเนาในต่างจังหวัด
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซูซูกิจะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่สังคมในยามวิกฤติตามแนวทางของโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่นและต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย อีกทั้ง ซูซูกิ มีความตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและห่วงใยลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามีความอุ่นใจ และปลอดภัย จึงมีได้การเพิ่มมาตรการงานบริการภายหลังการซ่อมรถยนต์ ด้วยการพ่นสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารของรถยนต์ซูซูกิทุกจุดสัมผัสที่สำคัญก่อนการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้า รวมถึงสร้างความมั่นใจในขณะที่นำรถเข้ารับบริการและระหว่างนั่งรอในศูนย์บริการ ซูซูกิมีขั้นตอนในการปฎิบัตงานและบริการลูกค้า โดยเมื่อลูกค้าเข้ารับบริการจะมีจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือก่อนเข้าพื้นที่โชว์รูม รวมไปถึงการรักษาความสะอาด โดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นที่ภายในศูนย์บริการด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ตามพื้นที่ต่างๆ บริเวณเคาน์เตอร์มีการเว้นระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่ที่กำลังให้การบริการกับลูกค้า รวมไปถึงการทำความสะอาดรถยนต์ที่จัดแสดงบนโชว์รูม รถยนต์สำหรับให้ลูกค้าขับทดสอบ รถใหม่ที่เตรียมการส่งมอบให้กับลูกค้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้การรับรองมาตรฐานไม่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ภายในตัวรถและผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการดังกล่าว โดยติดต่อนัดหมายล่วงหน้าได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน
ช่องทางการติดต่อ
- www.suzuki.co.th
- www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
- SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900
ข่าวรถวันนี้ (10/08/21) : SUZUKI ผุดโครงการเพื่อสังคมไทย ปรับรถบรรทุกอเนกประสงค์ SUZUKI CARRY TO YOUR HOME เป็นรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิดกลับบ้าน
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทวีความรุนแรงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถรองรับดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้ส่วนหนึ่งของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดต้องการกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ที่มีญาติหรือโรงพยาบาลที่พร้อมจะดูแลและให้การรักษา เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับโรงพยาบาลในที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งให้มีปริมาณผู้ป่วยต้องการกลับไปต่างจังหวัดมีค่อนข้างสูง แต่รถที่ให้บริการขนส่งผู้ป่วยหรือรถพยาบาล ไม่สามารถรองรับและให้บริการได้อย่างเพียงพอในปัจจุบัน
ซูซูกิเล็งเห็นถึงความต้องการและความสำคัญ จึงเกิดแนวคิดให้มีการพัฒนารถ SUZUKI CARRY รถบรรทุกอเนกประสงค์ขนาดย่อมมาปรับเปลี่ยนเป็นรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเพื่อพาผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้าน โครงการ SUZUKI Carry to Your Home จึงได้เกิดขึ้น โดยซูซูกิร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการออกแบบและพัฒนา SUZUKI CARRY ให้เป็นรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ติดตั้งระบบความดันลบ ที่จะอำนวยความสะดวกและมอบความปลอดภัยให้แก่ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในการเดินทางกลับไปรักษาตัวยังภูมิลำเนาในต่างจังหวัด
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด กล่าวถึงการพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงดีเอ็นเอแห่งความเป็นกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับไปใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ แม้ยามต้องเผชิญวิกฤตต่างๆ และไม่ได้มีเพียงภาพจำในฐานะ“ฟู้ดทรัค” ธุรกิจติดล้อที่ใช้การตลาดเชิงรุกในการวิ่งเข้าหาผู้บริโภค จนกลายเป็นขวัญใจผู้ประกอบการยุคใหม่เท่านั้น ที่ผ่านมาทางซูซูกิได้ร่วมมือกับทางพันธมิตรทุกภาคส่วน ในการจัดทำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” (CarryBiosafety) หรือ “รถตรวจโควิด” แบบ SWAB 1 ทาง และ 3 ทาง เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนต่างๆ
จนมาถึงการต่อยอดอีกครั้งด้วยโครงการ SUZUKI Carry to Your Home เป็นอีกหนึ่งผลงานแห่งความภูมิใจ ที่เกิดจากความร่วมมือของหมอแล็บแพนด้า (ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน) ศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 และศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการพัฒนารถส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนาได้อย่างสะดวก และปลอดภัยตลอดการเดินทาง
โดยออกแบบพื้นที่กระบะบรรทุกของ SUZUKI CARRY ขนาดกว้าง 1,670 มิลลิเมตร ยาว 2,450 มิลลิเมตร และรับน้ำหนักได้ 945 กิโลกรัม ให้เป็นห้องปฐมพยาบาลขนาดย่อม สามารถพาผู้ป่วยได้ 4-6 คนต่อเที่ยว ภายในประกอบด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ติดตั้งระบบ HEPA Filter มาตรวัดแรงดันลม ถังออกซิเจน 1.5Q ไปป์ไลน์ เตียงผู้ป่วยแบบปรับนั่งได้ และเบาะนั่ง 3 ที่นั่ง ติดตั้งระบบอินเตอร์คอมสำหรับสื่อสารระหว่างคนขับและคนนั่งด้านหลัง และระบบกระแสไฟฟ้าสำหรับสำรองไฟและการใช้งานตลอดการเดินทาง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจแพร่สู่บุคคลอื่นในระหว่างเดินทาง และคนขับที่ต้องพาผู้ป่วยไปส่งที่ภูมิลำเนาก็ปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ได้มีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์พักคอย เขตคันนายาว โดยมีนายสุรเชษฐ ไชยอุปละ รองคณบดีฝ่ายกลยุทธ์สื่อสารองค์กรและสารสนเทศ ในฐานะตัวแทนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมีตัวแทนจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยนางสาวสุชญา บานเย็น หัวหน้าส่วนการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึง ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน (หมอแล็บแพนด้า) เข้าร่วมในพิธีส่งมอบ
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิด “Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ยังคงเป็นดีเอ็นเอที่ชัดเจนของ SUZUKI CARRY เพราะไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นอย่างไร หรืออยู่ท่ามกลางวิกฤตการณ์แบบไหน SUZUKI CARRY ก็พร้อมจะเป็นยานพาหนะที่อยู่เคียงข้างร่วมฝ่าวิกฤตในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นรถที่ใช้ประกอบอาชีพในรูปแบบของฟู้ดทรัค รถซูซูกิปันสุขที่แบ่งปันรอยยิ้มสู่สังคม ตลอดจนถึงเป็นรถต้นแบบ “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) หรือ “รถตรวจโควิด” ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ นำรถ SUZUKI CARRY ไปทำเป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยจำนวนมากถึง 36 คัน เพื่อออกช่วยเหลือประชาชนและในครั้งนี้ SUZUKI Carry to Your Home ที่พร้อมช่วยเหลือคนในสังคมที่กำลังประสบปัญหา เป็นการตอกย้ำถึงรถ SUZUKI CARRY สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นรถอเนกประสงค์ในรูปแบบอื่นๆ เพื่อตอบสนองสังคมไทยต่อไปอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่นและต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมพร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
ข่าวรถวันนี้ (13/07/2021) : SUZUKI ร่วมมือกับผู้จำหน่ายจัดกิจกรรมประกวดแต่งรถ ”SWIFT POWER YOU UP CONTEST” พร้อมเชิญชวนลูกค้าโหวตผ่านออนไลน์ ชิงรางวัลสุดพิเศษ
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อัดกิจกรรมพิเศษสู้โควิด ภายใต้โครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ประกาศเชิญชวนผู้จำหน่ายทั่วประเทศร่วมประกวดแต่งรถ SUZUKI SWIFT ภายใต้แนวคิด “Swift Power You Up Contest” ฉีกทุกการออกแบบในสไตล์ที่เป็นคุณ ชูความเป็นสปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์ยอดนิยมของคนไทย เน้นเสริมสร้างการรับรู้ และกระตุ้นยอดจำหน่ายช่วงกลางปี พร้อมเชิญชวนลูกค้าร่วมโหวตคะแนนผ่านช่องทางออนไลน์ ลุ้นชิง iPhone 12Pro 256GB มูลค่า 40,900 บาท จำนวน 3 รางวัล และคูปองแทนเงินสดสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ซูซูกิและการใช้บริการหลังการขาย มูลค่า 30,000 บาท จำนวน 20 รางวัล
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกภาคส่วนเป็นอย่างมาก แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยกลับมีตัวเลขยอดขายรวมทั้งหมดอยู่ที่ 377,256 คัน (เดือนมกราคม-มิถุนายน 2564) คิดเป็นอัตราการเติบโตของยอดขาย เพิ่มขึ้นถึง 14.79% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยซูซูกิมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 2.82%
บริษัทฯ จึงได้มองหาแนวทางในการเข้าไปช่วยเหลือและสนับสนุนผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทุกราย โดยได้เดินหน้าจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ และมีส่วนในการช่วยกระตุ้นยอดขายให้ขยับตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้เป็นอย่างดี ด้วยการจัดกิจกรรม “Swift Power You Up Contest” ซึ่งเป็นการชวนให้ผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ร่วมประกวดแต่งรถ NEW SUZUKI SWIFT ในสไตล์ที่แตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงตอกย้ำให้ลูกค้าได้เห็นถึงความโดดเด่นของสปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์รุ่นยอดนิยม แต่ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้เห็นถึงแนวทางการตกแต่งรถยนต์ของตนเองได้ในรูปแบบที่หลากหลายผ่านความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้แนะนำรถยนต์ NEW SUZUKI SWIFT รุ่นล่าสุดไปตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา โดยยังคงความเป็นรถสปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ มีสไตล์ที่แตกต่างเหนือใคร จึงได้จัดกิจกรรม “Swift Power You Up Contest” ฉีกทุกการออกแบบในสไตล์ที่เป็นคุณ ด้วยการเปิดให้ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิสมัครเข้าร่วมการประกวดตกแต่งรถ NEW SUZUKI SWIFT ตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้สัมผัสได้ถึงความสปอร์ตแต่ยังคงไว้ซึ่งความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดี ผ่านการแต่งรถในสไตล์ของแต่ละโชว์รูมเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบในการเติมแต่งรถยนต์ของตัวเองให้สวยงาม รูปแบบการจัดการแข่งขันจะเป็นการประกวดในประเภทสวยงามแบบ Custom Style สามารถนำรถมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยผู้จำหน่ายสนใจส่งรถเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 84 คัน ซึ่งซูซูกิจะดำเนินการคัดเลือกรถจำนวน 8 คัน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจเข้าร่วมลงคะแนนโหวตรถคันที่โดนใจผ่านช่องทางออนไลน์ www.swiftcontest.com ตั้งแต่วันที่ 19-31 กรกฎาคม 2564 และประกาศผลผู้ชนะในวันที่ 6 สิงหาคม 2564
รถยนต์ New Suzuki Swift ที่ชนะเลิศได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-3 ของการประกวดในครั้งนี้ จะถูกนำเข้าไปจัดแสดงเพื่อให้ลูกค้าในชมและสัมผัสตัวรถจริงที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (The 38th Thailand International Motor Expo 2021) ณ อาคารอิมแพค ชาร์เลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564
ทางด้านลูกค้าและผู้ที่สนใจเข้าร่วมโหวตรถที่ตกแต่งได้อย่างโดนใจในครั้งนี้ ได้ง่ายๆ ผ่าน www.swiftcontest.com ยังมีสิทธิ์ได้ร่วมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ iPhone 12Pro 256GB มูลค่า 40,900 บาท จำนวน 3 รางวัล และคูปองแทนเงินสดสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ซูซูกิและการใช้บริการหลังการขาย มูลค่า 30,000 บาท จำนวน 20 รางวัล พร้อมประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ผ่านช่องทางออนไลน์ www.suzuki.co.th www.swiftcontest.com และ Facebook : Suzuki Motor Thailand
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงเข้าไปสนับสนุนผู้จำหน่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงกระแสการตอบรับและความต้องการที่ล้นหลามของ Suzuki Swift แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์และงานบริการหลังการขายระดับคุณภาพของซูซูกิได้เป็นอย่างดี และด้วยแนวคิด Way of Life เราจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และยกระดับงานบริการเพื่อตอบรับในทุกความต้องการของ ผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบแทนทุกความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ซูซูกิ
โดยซูซูกิยังคงยึดมั่นในปรัชญาของซูซูกิคือผลิตสินค้าที่มีคุณค่าเหมือนว่าเราคือผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพงานบริการของโชว์รูมผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งซูซูกิเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้งหมดเป็น 140 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านได้มั่นใจและเป็นครอบครัวเดียวกันกับซูซูกิ
NEW SUZUKI SWIFT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic (ZYH), สีแดง Ablaze Red Pearl (ZTW), สีขาว Pure White Pearl (ZYG), สีเทา Star Silver Metallic (ZTS), สีเทา Mineral Gray Metallic (ZTU) และสีดำ Super Black Pearl (ZTT) มาใน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GL ราคาเริ่มต้น 557,000 บาท และ รุ่น GLX ราคาเริ่มต้น 629,000 บาท
ซูซูกิพร้อมจะมอบสุดยอดความคุ้มค่าให้ผู้ที่สนใจได้เป็นเจ้าของ NEW SUZUKI SWIFT ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับโปรโมชั่นพิเศษ โดยสามารถเลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,333 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุด 20,000 บาท ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
ข่าวรถวันนี้ (14/07/2021) : SUZUKI XL7 ขึ้นแท่นผู้นำรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก กวาดยอดขายไตรมาสแรก ชูความคุ้มค่า คุ้มราคา ของคนชอบแตกต่าง ส่งมอบถึงมือลูกค้าแล้ว 4,117 คัน
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว SUZUKI XL7 เจาะตลาดเซกเมนท์ใหม่ในประเทศไทย ชูความเป็นรถสปอร์ตครอสโอเวอร์ ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า คุ้มราคา นำเสนอแก่ลูกค้าที่นิยมความแตกต่าง ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่รวมไปได้มากกว่า 4,117 คัน พร้อมเดินหน้าสร้างประประสบการณ์ “THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร”
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการแนะนำ ALL NEW SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover ออกสู่ตลาดประเทศไทย นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของซูซูกิที่ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด SUZUKI XL7 ถูกออกแบบและพัฒนา ด้วยแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตคำนึงถึงทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง โดยจุดเด่นสำคัญ คือ เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่สามารถใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่โดยสาร ตัวรถถูกออกแบบให้มีความสูงขึ้นเพื่อให้สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทางเหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นอย่างดี ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานเหนือระดับ ในราคาที่ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่าย
โดยหากดูในช่วงไตรมาสแรก (เดือนมกราคม – มีนาคม) ของปี 2564 ภาพรวมของกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก สร้างตัวเลขยอดขายรวมอยู่ที่ 2,373 คัน สำหรับ SUZUKI XL7 มียอดขายรวมอยู่ที่ 981 คัน ขึ้นแท่นครองอันดับ 1 ในเซกเมนท์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 41.3%
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา SUZUKI XL7 ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ที่มอบความแตกต่าง และเพียบพร้อมไปด้วยความโดดเด่น ทั้งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สปอร์ตเข้ม ดุดัน ทันสมัย ไปจนถึงเรื่องของความคุ้มค่า คุ้มราคา จนสามารถสร้างยอดขายรวมพร้อมส่งมอบนับตั้งแต่เปิดตัว จนถึง เดือนพฤษภาคม 2564 ไปแล้วกว่า 4,117 คัน ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า SUZUKI XL7 สามารถตอบโจทย์ และสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว สิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน คือ เป็นรถที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี จนสามารถสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมามียอดเฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 คันต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวลดลง แต่ความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อ SUZUKI XL7 จึงสามารถสร้างยอดจองเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางบริษัทฯ พร้อมเร่งรัดดำเนินการส่งมอบรถทุกคัน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกรายของซูซูกิ
ทั้งนี้ SUZUKI XL7 ทรงพลังกับเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ปรับตั้งประสิทธิภาพเครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่อย่างลงตัว ผสานกับแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว สนุกสนาน ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ภายในบริเวณคอนโซลด้านหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับการใช้งานอย่างครบครัน อาทิ มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น Driving G-Force อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราแรงบิด กำลังของเครื่องยนต์ และข้อมูลอื่นๆ ที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและสนุกในทุกสภาวะถนน ทั้งยังเชื่อมต่อกับความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล (Digital Sound Processor) เพิ่มมิติและความสุนทรีย์ให้กับเสียงเพลง พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay, Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว
ระบบช่วงล่างได้รับการออกแบบและปรับแต่งอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดี สร้างความมั่นใจในทุกสภาวะถนนกับเหล็กกันโคลงด้านหน้า (Front Stabilizer) ขนาดใหญ่พิเศษลดอาการโคลงของตัวรถและเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง module ในพวงมาลัยที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control), จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether, กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลังได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม Rising Orange Pearl Metallic (ZZY), สีเทา Metallic Magma Gray (ZYZ), สีขาว Pearl Snow White (ZQZ) และสีดำ Cool Black Metallic (ZBD) ซูซูกิพร้อมจะมอบสุดยอดความคุ้มค่าให้ผู้ที่สนใจได้เป็นเจ้าของ SUZUKI XL7 ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับราคา 779,000 บาท (สีขาวเพิ่ม 5,000 บาท) พร้อมแคมเปญพิเศษสุดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2564 นี้ รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 งวด) ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 ปี
ซูซูกิยังคงยึดมั่นในปรัชญาของซูซูกิคือผลิตสินค้าที่มีคุณค่าเหมือนว่าเราคือผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพงานบริการของโชว์รูมผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งซูซูกิเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้งหมดเป็น 140 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านได้มั่นใจและเป็นครอบครัวเดียวกันกับซูซูกิ สอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการที่จะสื่อสารกับลูกค้าทั้งด้านสินค้าและงานบริการได้อย่างทันท่วงทีและมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ในยุคที่การสื่อสารและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและไร้ขีดจำกัด ยังเป็นแนวคิดภายใต้หลักการสำคัญว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตได้หากมีการช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาและความตั้งใจในการเข้าไปสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงที่สังคมกำลังเผชิญปัญหาจากไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ โดยการจัดทำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit อีกทั้งการเชิญชวนลูกค้าเข้ารับบริการทำความสะอาดรถและฆ่าเชื้อโรคฟรีเมื่อนำรถเข้ารับบริการที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ เพื่อมอบความปลอดภัยและความมั่นใจกับลูกค้าซูซูกิ
ซูซูกิจะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่สังคมในยามวิกฤติตามแนวทางของโครงการ “SUZUKI Cause We Care” โดยโครงการนี้ซูซูกิกำหนดให้ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศดำเนินการเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่นและต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย ดังนั้น จะเห็นได้ถึงความตั้งใจจริงของเราว่า ซูซูกิ ไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต.
ข่าวรถวันนี้ (10/05/21) : SUZUKI CARRY โชว์ความอเนกประสงค์จากฟู้ดทรัคสู่รถตรวจโควิด-19 เชิงรุก พร้อมเคียงข้างบุคลากรทางการแพทย์กู้วิกฤติใหญ่
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลให้เกิดความแออัดและรอคิวนานของประชาชนที่กำลังเข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) สำหรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในช่วงวิกฤติดังกล่าวนี้ โดยตู้ชีวนิรภัย (biosafety unit) ถูกออกแบบมาสำหรับติดตั้งอยู่บนกระบะรถ SUZUKI CARRY เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ล่าสุดซูซูกิได้ร่วมพิธีส่งมอบรถ SUZUKI CARRY ในโครงการผลิตรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ที่สามารถ SWAB ได้พร้อมกัน 3 ทาง จึงเก็บตัวอย่างได้ถึง 3 เคส ในครั้งเดียว สามารถตรวจคัดกรองโควิด-19 ได้กว่าวันละ 3,000 ราย โดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร และ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน (หมอแล็บแพนด้า) ณ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา
รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์เพื่อการพาณิชย์ขนาดย่อม SUZUKI CARRY ถึงแม้จะถูกจดจำในฐานะ “ฟู้ดทรัค” ธุรกิจติดล้อที่ใช้การตลาดเชิงรุกในการเข้าหาผู้บริโภค แทนที่การหยุดนิ่งอยู่กับที่ จนกลายเป็นขวัญใจผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ต้องการอิสระในการเดินตามความฝันและต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อีกทั้งความตั้งใจของซูซูกิต้องการให้รถ SUZUKI CARRY เป็นมากกว่ารถขนสินค้าหรือสัมภาระ เปรียบเสมือนดั่งพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่พร้อมจะสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการด้วยความจริงใจ พร้อมเดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
ทว่าเวลานี้ SUZUKI CARRY กำลังตอกย้ำชัดให้เห็นถึงดีเอ็นเอของความเป็นกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ด้วยการปรากฏโฉมในรูปแบบของ “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) หรือ “รถตรวจโควิด” ที่พัฒนาจากรถตรวจโควิดต้นแบบให้สามารถตรวจเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ในจำนวนมากได้ สามารถทำการ SWAB ได้พร้อมกัน 3 ทาง จึงเก็บตัวอย่างได้ถึง 3 เคส ในครั้งเดียว โดยเฉลี่ยสามารถตรวจคัดกรองผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้กว่าวันละ 3,000 ราย นับว่าเป็นรถเก็บตัวอย่างชีวินิรภัยประสิทธิภาพเยี่ยมที่สามารถตรวจเชิงรุกได้อย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ปัจจุบันลุยปูพรมตรวจโควิดเคียงข้างบุคลากรทางการแพทย์ได้แล้วถึง 21 คัน โดยได้ส่งมอบรถคันล่าสุดเสริมทัพทีมแพทย์แล้วอย่างเป็นทางการ
รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) ถือเป็นความภาคภูมิใจของซูซูกิ ที่เกิดจากความร่วมมือของ ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน (หมอแล็บแพนด้า) ศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 และศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการพัฒนารถเก็บตัวอย่างชีวินิรภัยแบบเคลื่อนที่ เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการการตรวจคัดกรองผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในสถานการณ์การระบาดอย่างรุนแรงในขณะนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยงให้เร็วที่สุด โดยออกแบบพื้นที่กระบะบรรทุกของ SUZUKI CARRY ขนาดกว้าง 1,670 มิลลิเมตร ยาว 2,450 มิลลิเมตร และรับน้ำหนักได้ 945 กิโลกรัม ให้เป็น “ตู้ชีวนิรภัย” (Biosafety Unit) ที่เปรียบเสมือนห้องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฯ ซึ่งบรรจุได้ถึง 3 ห้อง สามารถ SWAB ได้ 3 คนในครั้งเดียว ต่อยอดจากรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยต้นแบบคันแรกที่ SWAB ได้เพียงครั้งละ 1 คน ทำให้ตรวจคัดกรองได้มากกว่า 3,000 คนต่อวัน ภายในตู้ชีวนิรภัยสร้างสรรค์ผ่านหลักการ Human-Centered Design ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติงาน ด้วยการติดตั้งระบบปรับและกรองอากาศด้วย HEPA Filter และระบบแรงดันบวก (Positive Pressure) ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้แก่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา นายวัลลภ เป็นผู้แทนซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในการเข้าร่วมในพิธีส่งมอบรถ SUZUKI CARRY ในโครงการผลิตรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร และ หมอแล็บแพนด้า ณ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยมี ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ และนายสุรเชษฐ ไชยอุปละ รองคณบดีฝ่ายกลยุทธ์สื่อสารองค์กรและสารสนเทศ ในฐานะตัวแทนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมด้วย ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ที่ครองใจประชาชนในสังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊คชื่อ “หมอแล็บแพนด้า”
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในขณะนี้ นับว่ามีความรุนแรงสูง การควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการตรวจเชิงรุกจึงเป็นแนวทางที่สำคัญ ซึ่งหากมีรถเก็บตัวอย่างชีวินิรภัยที่มีความคล่องตัวสูง สามารถรุดหน้าไปตรวจเชิงรุกยังพื้นที่ระบาดหรือมีความเสี่ยงได้ในเวลาอันรวดเร็วมาเสริมกำลังกับบุคลากรทางการแพทย์ให้ทำงานแข่งกับเวลาได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังช่วยปกป้องเจ้าหน้าที่ทางการแพทพย์ไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ก็จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อ และสามารถควบคุมการระบาดได้ในที่สุด
รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) ลงถนนปฏิบัติการจริงอย่างเต็มประสิทธิภาพ สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง ด้วยเหตุนี้จึงอยู่ในความสนใจของสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้องค์กรเอกชนหลายภาคส่วนเห็นความสำคัญ ร่วมสนับสนุนการสร้างรถ (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) ในเชิงสาธารณประโยชน์มากขึ้น ปัจจุบันมีรถ (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) ในปฏิบัติการตรวจคัดกรองเชิงรุกถึง 21 คัน และยังเพิ่มจำนวนต่อไปอีกเรื่อยๆ
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า “SUZUKI CARRY Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ยังคงเป็นดีเอ็นเอที่ชัดเจนของ SUZUKI CARRY เพราะไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นอย่างไร หรืออยู่ท่ามกลางวิกฤติการณ์แบบไหน SUZUKI CARRY ก็พร้อมจะเป็นยานพาหนะที่อยู่เคียงข้างร่วมฝ่าวิกฤติในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น รถทำมาหากินในรูปแบบของฟู้ดทรัคกู้เศรษฐกิจของครอบครัว รถปันสุขที่แบ่งปันรอยยิ้มสู่สังคม หรือรอบนี้ที่ SUZUKI CARRY เป็นด่านหน้าร่วมกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติการเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ และเป็นที่แน่นอนว่า เมื่อหมดวิกฤติการณ์นี้ รถ SUZUKI CARRY ก็จะสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นรถอเนกประสงค์ในรูปแบบอื่นๆ เพื่อตอบสนองสังคมไทยต่อไปอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่นและต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)
ข่าวรถวันนี้ : “ซูซูกิ” ร่วมใจต้านภัยโควิด-19 ผสานผู้จำหน่ายทั่วประเทศเชิญชวนลูกค้า นำรถเข้ารับบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ได้แพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยให้ความสำคัญในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และได้ดำเนินการตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ซูซูกิประกาศจับมือผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ เพิ่มมาตรการงานบริการให้กับลูกค้า นำรถเข้ารับการบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ ศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม– 30 มิถุนายน 2564
ที่ผ่านมา ซูซูกิ ได้สนับสนุนรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit (รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย) ให้แก่ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ อีกทั้ง ซูซูกิมีความตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและห่วงใยลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามีความอุ่นใจ และปลอดภัย จึงมีได้การเพิ่มมาตรการงานบริการภายหลังการซ่อมรถยนต์ ด้วยการพ่นสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารของรถยนต์ซูซูกิทุกจุดสัมผัสที่สำคัญก่อนการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้า รวมถึงสร้างความมั่นใจในขณะที่นำรถเข้ารับบริการและระหว่างนั่งรอในศูนย์บริการ ซูซูกิมีขั้นตอนในการปฎิบัตงานและบริการลูกค้า โดยเมื่อลูกค้าเข้ารับบริการจะมีจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือก่อนเข้าพื้นที่โชว์รูม รวมไปถึงการรักษาความสะอาด โดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นที่ภายในศูนย์บริการด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ตามพื้นที่ต่างๆ บริเวณเคาน์เตอร์มีการเว้นระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่ที่กำลังให้การบริการกับลูกค้า รวมไปถึงการทำความสะอาดรถยนต์ที่จัดแสดงบนโชว์รูม รถยนต์สำหรับให้ลูกค้าขับทดสอบ รถใหม่ที่เตรียมการส่งมอบให้กับลูกค้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้การรับรองมาตรฐานไม่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ภายในตัวรถและผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
ซูซูกิไม่เพียงแต่เล็งถึงความสำคัญของลูกค้าเท่านั้น ซูซูกิยังส่งความห่วงใยไปถึงบุคลากรและพนักงานในองค์กรซึ่งถือว่าเป็นคนสำคัญในครอบครัวซูซูกิเช่นกัน โดยการเพิ่มมาตรการในการดูแลตัวเอง และปฎิบัติตามคำแนะนำของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซูซูกิจะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่สังคมในยามวิกฤติตามแนวทางของโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่นและต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการดังกล่าว โดยติดต่อนัดหมายล่วงหน้าได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)
ข่าวรภวันนี้ (30/04/2021) : ซูซูกิ ชี้เป้า 5 บริการไดร์ฟทรูตอบโจทย์ครบ ทุกไลฟ์สไตล์แบบไร้โควิด
ยุคนี้ เชื่อว่าจะออกไปไหนก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ไปหมดว่าจะปลอดภัยหรือไม่แต่ถ้าให้กักตัวเองอยู่บ้านก็ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ดั่งใจ เพราะบางกิจกรรมไม่สามารถทำได้เองผ่านระบบออนไลน์ แต่ในเมื่อชีวิตต้องดำเนินต่อไป บริการไดร์ฟทรู (Drive Thru) ที่ทำให้เราทำธุระโดยไม่ต้องลงจากรถเป็นคำตอบของหลายๆ คน วันนี้ NEW SUZUKI SWIFT สปอร์ตอีโคคาร์ล่าสุดจากซูซูกิ ขอชี้เป้า 5 บริการไดร์ฟทรูที่พร้อม “Power You Up” ไปกับไลฟ์สไตล์วิถีใหม่ในแบบนิวนอร์มอล ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
Drive Thru to sip & eat จะ ‘จิบ’ หรือ ‘กิน’ ก็ฟินได้ในรถ
แม้ว่าบริการไดร์ฟทรูสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะมีมาอยู่บ้างแล้วก่อนโควิดระบาด แต่ต้องยอมรับว่ายิ่งฮอตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันช่างเหมาะกับวิถีชีวิตยุคใหม่จริงๆ เห็นได้จากการที่หลายๆ ร้านทั้งคาว ทั้งหวาน ต่างเข้ามาให้บริการเช่นนี้ไม่ขาด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ผู้ทำบริการนี้มาก่อนกาลอย่าง แมคโดนัลด์ หรือ เคเอฟซี ร้านกาแฟชื่อดัง ‘สตาร์บัคส์’ ก็มีบริการไดรฟ์ทรูหลายสาขา หรือสำหรับคอกาแฟสเปเชียลตี้ ก็มีร้าน ‘Red Diamond’ สาขาโยธินพัฒนา ที่พร้อมบริการกาแฟแก้วโปรดถึงรถทั้งแบบร้อน แบบเย็น หรือจะสั่งกาแฟแบบ Drip Bag ไว้ชงดื่มเองที่บ้านก็ได้ ส่วนใครที่ชอบอาหารรสชาติจัดจ้านก็มีร้าน ‘ปูดองอันยอง’ สาขาพระราม 9 ให้บริการความอร่อยแบบไดรฟ์ทรูเช่นกัน
Drive Thru to stock up ตุนเอาไว้เพื่อใช้ยามต้องอยู่แต่บ้าน
เมื่อสถานการณ์ไม่แน่นอน การเตรียมซื้อสินค้าจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างอาหารแห้ง น้ำดื่ม หรือสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ มาสำรองไว้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอุ่นใจ แม้ซูเปอร์มาร์เก็ตจะยังคงเปิดตามปกติ แต่การจะไปเดินและพบปะผู้คนก็อาจทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย จะสั่งออนไลน์ก็อาจรอนาน หลายๆ ที่จึงมีบริการรับสินค้าแบบไดร์ฟทรู อาทิ ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือบิ๊กซี ที่มีมากมายหลายสาขาทั่วประเทศ เพียงกดสั่งซื้อของทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน ก่อนขับรถไปรับสินค้าอย่างปลอดภัย ตามจุดบริการของสาขาที่เลือกไว้ โดยไม่ต้องลงจากรถ
Drive Thru to test COVID-19 เพื่อชีวิตที่ไม่ต้องกังวลใจ ไร้คำว่า “ฉันติดยังนะ”
ไม่ต้องอยู่กับภาวะที่กังวลอีกต่อไป เพราะช่วงเวลานี้โรงพยาบาลเอกชนหลายๆ ที่ขยายบริการตรวจโควิด-19 ผ่านช่องทางไดร์ฟทรูกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลกลางเมืองอย่างเช่น โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง หรือคนที่อาศัยแถบชานเมืองก็สามารถใช้บริการได้ที่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ และอีกมากมาย ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ลงทะเบียนประวัติให้ชัดเจนพร้อมชำระเงินก่อนขับรถหรือนั่งรถส่วนตัวเข้าจอดในช่องบริการ พร้อมเปิดหน้าต่างเพื่อทำการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกและคอโดยไม่ต้องลงจากรถ เท่านี้ก็ขับรถกลับบ้าน แล้วเตรียมรอฟังผลตรวจได้เลย
หมายเหตุ.-บริการดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ติดต่อสอบถามจุดบริการหรือหน่วยสถานพยาบาลต่างๆ ก่อนเข้ารับบริการ
Drive Thru for better health เมื่อต้องรับยาต่อเนื่องแต่ไม่อยากเข้าโรงพยาบาล
สำหรับใครที่ต้องรับยารักษาโรคประจำตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่อยากเข้าไปใช้บริการที่โรงพยาบาลที่ช่วงนี้ อีกทั้งคิวแน่น คนเยอะ ยิ่งเสี่ยง ดังนั้น การบริการลงทะเบียนเพื่อรับยาโดยไม่ต้องพบแพทย์ในหลายโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ หรือในต่างจังหวัดอย่าง โรงพยาบาลโพธาราม จ.ราชบุรี หรือ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น อาจเป็นคำตอบของคุณได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลก่อนนะว่าโรคที่เป็นนั้นอยู่ภายใต้การรับบริการนี้หรือไม่ ส่วนถ้าใครกลัวเป็นหวัดช่วงเปลี่ยนฤดู ก็สามารถรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบไดร์ฟทรู เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงว่าจะเจ็บป่วยได้อีกด้วย
หมายเหตุ.-บริการดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ติดต่อสอบถามสอบถามกับหน่วยสถานพยาบาลต่างๆ ก่อนเข้ารับบริการ
Drive Thru to contact government agencies งานหลวงไม่ให้ขาด งานราษฎร์ก็ต้องเป๊ะ
ในเมื่อต้องใช้รถบ่อยขนาดนี้ แน่นอนว่าการต่อภาษีรถประจำปีจึงขาดไม่ได้ ซึ่งวันนี้ เราสามารถชำระภาษีแบบ Drive Thru for Tax ได้แล้วตั้งแต่ 7.30 – 15.30 น. ที่กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ โดยไม่จำกัดอายุการใช้งาน และไม่จำกัดพื้นที่ ไม่ว่ารถนั้นจะจดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ตาม สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนง่าย ๆ เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น คู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาส่วนท้ายของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ (พ.ร.บ.) ใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจรถเอกชน (ตรอ.) สำหรับรถที่จดทะเบียนมากกว่า 7 ปีขึ้นไป และหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถสำหรับรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง เป็นต้น จากนี้เราก็สามารถขับรถไปใช้บริการที่กรมการขนส่งทางบกได้ทันที
บริการ Drive Thru ยังมีอีกมากมาย อาทิ ไปรษณีย์ไดร์ฟทรู (DRIVE-THRU POST) รับส่งพัสดุรวดเร็วโดยไม่ต้องลงจากรถ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะขับรถไปรับบริการที่ไหน ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ก็พร้อมอัพพาวเวอร์ให้ชีวิตทุกสถานการณ์ และพาคุณไปทุกที่ได้อย่างสะดวกและคล่องตัว ด้วยเครื่องยนต์เบนซินที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ (DUALJET) ที่แรง และประหยัดน้ำมัน แถมรองรับน้ำมัน E20 ขับขี่มั่นใจด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT รวมถึงยังมีอีกหลากหลายฟีเจอร์ที่ครบครัน อาทิ ระบบครุยส์ คอนโทรล (Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control) ระบบ NVH ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth ภายในห้องโดยสารที่ทันสมัยพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape และอีกมากมาย เรียกว่าครอบคลุมทุกความต้องการและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน
ใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ที่ “แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ” สามารถเยี่ยมชม และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศได้เลย
ข่าวรถวันนี้ (19/04/2021) : “ซูซูกิ” ผนึกกำลังร่วมกับผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ร่วมมือช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยวิกฤติไวรัสโควิด-19
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มจะรุนแรงเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีตัวเลข ผู้ติดเชื้อในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลให้เกิดความแออัดและรอคิวนานของประชาชนที่กำลังเข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนมากในเวลานี้ ไปจนถึงปัญหาเรื่องของเตียงผู้ป่วยที่เริ่มรองรับไม่เพียงพอ ซึ่งทางภาครัฐก็เร่งทยอยสร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อรับมือกับสภาวะวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับทางผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิอาสาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมในช่วงที่กำลังเผชิญวิกฤติจากโรคระบาดร้ายแรงในขณะนี้ ผ่านโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ซึ่งผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิแต่ละแห่งเริ่มเข้าไปสนับสนุนความช่วยเหลือในพื้นที่ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้
โดยล่าสุดทาง หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลพหลหลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี ขอให้นำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ออกให้บริการประชาชนเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่และไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อแบ่งเบาภาระพร้อมลดความแออัดของประชาชนที่เข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 19 -23 เมษายน 2564 ซึ่งผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิโดย บริษัท ซูซูกิกาญจนบุรี จำกัด ได้เข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ตลอดระยะเวลาการให้บริการของหมอแล็บแพนด้า ในพื้นที่ดังกล่าว
ส่วนในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในพื้นที่สำหรับการสร้างโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางบริษัท ซูซูกิหัวหิน (สิทธิภัณฑ์) จำกัด และ บริษัท ซูซูกิเพชรบุรี (สิทธิภัณฑ์) จำกัด อีกหนึ่งผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิพื้นที่ อำเภอหัวหิน และพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ได้ร่วมสมทบทุนแก่มูลนิธิโรงพยาบาลหัวหิน พร้อมทั้งสร้างห้องอาบน้ำ และห้องสุขา ในเขตโรงพยาบาลสนาม อำเภอหัวหิน เพื่อรองรับและให้บริการแก่ผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในสถานที่ดังกล่าวอีกด้วย อีกทั้งผู้จำหน่ายยังให้ความใส่ใจพนักงานในองค์กร ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งในโครงการ “SUZUKI Cause We Care” โดยผู้จำหน่ายบริษัท ซูซูกิหัวหิน (สิทธิภัณฑ์) และ บริษัท ซูซูกิเพชรบุรี (สิทธิภัณฑ์) ยังได้เพิ่มสวัสดิการของพนักงานโดยมอบกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้กับพนักงานทุกท่าน กรณีตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อเป็นของขวัญและเป็นกำลังใจแก่พนักงานให้รู้สึกอุ่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลลูกค้าได้อย่างดีที่สุด อีกทั้งยังมีความห่วงใยในความปลอดภัยด้านสุขภาพของลูกค้าที่เข้ามารับการบริการที่โชว์รูมของผู้จำหนาย โดยผู้จำหน่ายได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 องทางภาครัฐบาลอย่างเคร่งครัด
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซูซูกิและพันธมิตรจะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่สังคมในยามวิกฤติตามแนวทางของโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่นและต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสัง คมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ทั้งนี้ สำหรับหน่วยงานทางการแพทย์ใดที่กำลังต้องการตรวจเชิงรุกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อโรคโควิด-19 สามารถติดต่อเพื่อนำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ไปใช้งานได้ฟรีเพราะถูกออกแบบมาเพื่อนำไปใช้ด้านสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนโดยทั่วไป สามารถติดต่อได้ผ่านทางอีเมลล์ khunpark@gmail.com หรือหมอแล็บ แพนด้า หมายเลขโทรศัพท์ 08-7715-6166
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)
ข่าวรถวันนี้ (10/04/2021) : ‘ซูซูกิ’ ผนึกกำลัง ‘หมอแล็บแพนด้า’ นำ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ออกตรวจเชิงรุกโควิด-19 ฟรี ลดความแออัดจากโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรปราการ
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ซูซูกิร่วมมือกับทาง ศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 ศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” ในการนำ SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่งดัดแปลงให้เป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ ความร่วมมือในครั้งนี้มาจากแนวคิดของซูซูกิที่ต้องการช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการ “SUZUKI Cause We Care” ที่ไม่ใช่เพียงแค่ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในสินค้าและบริการของซูซูกิสู่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
ล่าสุดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มกลับมามีความรุนแรงอีกครั้งในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดในเวลานี้ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” ได้ร่วมมือกับทางโรงพยาบาลศุขเวช และโรงพยาบาลวชิระ นำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit (รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย) ซึ่งเป็นรถต้นแบบที่ได้ถูกนำไปจัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา นำออกไปให้บริการตรวจเชิงรุกแบบเคลื่อนที่แก่กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเขตพื้นที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
“การนำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ออกให้บริการประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าวนับเป็นความตั้งใจจริงจากความร่วมมือที่เกิดขึ้นของทางซูซูกิกับ หมอแล็บแพนด้า ที่ต้องการช่วยเหลือสังคมด้วยการออกให้บริการแก่ประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนในเวลานี้ได้อย่างทันท่วงที ส่วนหนึ่งช่วยลดความแออัดของประชาชนที่กำลังเข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนมากในเวลานี้” นายวัลลภ กล่าว
โดยตู้ชีวนิรภัย (biosafety unit) ที่ติดตั้งอยู่บนกระบะรถ SUZUKI CARRY ถูกออกแบบโดยใช้หลักการ Human-Centered Design ที่คำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ทั้งในด้านดีไซน์และฟังก์ชันใช้สอยที่ตอบรับความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุด มีระบบปรับและกรองอากาศด้วย HEPA Filter ที่มีขนาดหนากว่าปรกติด้วยวัสดุที่ทำจากเทคโนโลยีเส้นใยขั้นสูง มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่สูงกว่าแบบปกติมากยิ่งขึ้น และระบบแรงดันบวก (positive pressure) เพื่อป้องกันแพทย์หรือนักเทคนิคการแพทย์ผู้เก็บตัวอย่างจากภายในรถได้รับอันตรายจากเชื้อโรค ทำให้ลดการติดเชื้อโรคของผู้ปฏิบัติงาน และลดการกระจายเชื้อโรคออกสู่ภายนอกสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย
ทั้งนี้ สำหรับหน่วยงานทางการแพทย์ใดที่กำลังต้องการตรวจเชิงรุกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 สามารถติดต่อเพื่อนำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ไปใช้งานได้ฟรี เพราะเป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อนำไปใช้ด้านสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนโดยทั่วไป โดยสามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางอีเมลล์ khunpark@gmail.com หรือหมอแล็บ แพนด้า หมายเลขโทรศัพท์ 08-7715-6166
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)
ข่าวรถวันนี้ (25/03/2021) : “NEW SUZUKI SWIFT” และ “XL7” ยังร้อนแรง ยอดจองรถยนต์ซูซูกิ ในมอเตอร์โชว์ ทะลุเป้า 2,689 คัน พร้อมคว้ารางวัลยอดเยี่ยมแห่งปี 2021
มร. มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสองมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ภาครัฐเริ่มผ่อนปรนให้มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้มีโอกาสกลับมาฟื้นฟูสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว การเกิดขึ้นของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 หรือ Bangkok International Motor Show 2021 จึงเป็นงานจัดแสดงรถยนต์งานแรกของปีที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นตลาดรถยนต์ และเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก โดยในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก สร้างบรรยากาศของการซื้อ-ขายระหว่างผู้บริโภคและผู้จำหน่ายได้เป็นอย่างดี โดยผู้เข้าร่วมงานก็มีรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมโดยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ทางคณะผู้จัดงานกำหนด ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์ซูซูกิภายในงานครั้งนี้พุ่งสูงทะลุเป้า โดยมียอดจองรวมอยู่ที่ 2,689 คัน
จากกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่อแบรนด์รถยนต์ซูซูกิ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มอบความไว้วางใจและเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน เฉพาะอย่างยิ่งกับ ซึ่ง NEW SUZUKI SWIFT แฮทช์แบ็กอีโคคาร์ ยังเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เข้าไปอยู่ในใจคนไทยและได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ได้จากการที่เป็นรถที่มียอดจองสูงที่สุดของซูซูกิ
ยอดการจองแต่ละรุ่นดังนี้
- NEW SUZUKI SWIFT แฮทช์แบ็กอีโคคาร์ยอดนิยม จำนวน 1,078 คัน
- SUZUKI CIAZ ซีดานอีโคคาร์ จำนวน 257 คัน
- SUZUKI CELERIO อีโคคาร์คุณภาพเกินตัว จำนวน 455 คัน
- SUZUKI CARRY กระบะบรรทุกอเนกประสงค์ จำนวน 198 คัน
- SUZUKI ERTIGA รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง จำนวน 145 คัน
- SUZUKI XL7 สปอร์ตครอสโอเวอร์ จำนวน 556 คัน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์มาโดยตลอด เพราะเป็นหนึ่งในงานจัดแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่มากงานหนึ่งของประเทศไทย ที่มีส่วนในการสร้างบรรยากาศแห่งการซื้อขายรถยนต์ได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงให้ความพิถีพิถันและใส่ใจต่อการออกแบบบูธและการจัดแสดงรถยนต์ทุกรุ่นภายในงานทุกปี รวมไปถึงการออกแบบเครื่องแต่งกายของ SUZUKI Lady ซึ่งเป็นตัวแทนของซูซูกิในการประชาสัมพันธ์รถยนต์ SUZUKI ภายในงาน ส่งผลให้ในปีนี้นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งอีกปีหนึ่ง เมื่อซูซูกิได้รับรางวัล The 42nd BIMS Best Award 2021-Most Gorgeous Costume Design Award จากทางบริษัท กรังซ์ปรีด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดงานครั้งนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแข่งขันที่สูงมากตั้งแต่ต้นปี แต่ด้วยแนวทางการทำตลาดของซูซูกิ ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งเรื่องงานขายและงานบริการ รวมไปจนถึงการผนึกกำลังกับบริษัทผู้ให้สินเชื่อทางการเงินที่แข็งแกร่งและหลากหลาย ช่วยให้มีผู้บริโภคมีโอกาสในการเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ ผนึกเข้ากับความเชื่อมั่นในงานบริการที่ซูซูกิมอบให้ทั้งก่อนและหลังการขาย มีส่วนช่วยสร้างยอดจองได้เหนือความคาดหมายในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ซูซูกิได้เตรียมความพร้อมในการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายทั้งหมดเป็น 140 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อให้รองรับการขยายตัวสมาชิกของครอบครัวซูซูกิที่กำลังจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ด้วยพนักงานและช่างผู้ชำนาญงานที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานของซูซูกิ พร้อมด้วยอะไหล่แท้ราคามาตรฐาน เพื่อสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านที่เป็นสมาชิกในครอบครัวซูซูกิอยู่เสมอ ซึ่งความเชื่อมั่นที่มีให้แก่เรานั้น เป็นแรงผลักดันให้การดำเนินธุรกิจเติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ในช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”
ทั้งนี้เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่มอบให้ การพัฒนาในทุกมิติเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทุกท่าน เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ คุณภาพของงานบริการก่อนและหลังการขาย รวมไปถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ซึ่งทุกอย่างต้องถูกพัฒนาควบคู่ไปกับการช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)
ข่าวรถวันนี้ (2/04/2021) : ซูซูกิเดินหน้าโครงการ SUZUKI Cause We Care พร้อมช่วยเหลือสังคมไทย มอบรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit แก่หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง
ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ส่งมอบรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit (รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย) ให้แก่ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ พร้อมเดินหน้าโครงการ “SUZUKI Cause We Care-เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากการคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีคุ้มค่าในทุกๆ ด้านแล้ว ซูซูกิยังคงเอาใจใส่ในการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งตลอดการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และงานบริการเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าชาวไทยทุกท่าน สิ่งหนึ่งที่ซูซูกิให้ความสำคัญและมุ่งมั่นลงมือทำมาโดยตลอด คือการตอบแทนสังคมไทยผ่านการดำเนินกิจกรรม CSR ต่าง ๆ
นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิผนึกกำลังกับผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิเข้าไปมีส่วนในการปรับปุรงคุณภาพชีวิตของชุมชน ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น โครงการ “รถยนต์ซูซูกิปันสุข” พร้อมตั้งตู้ “ซูซูกิ ปันสุข” เพื่อบรรเทาภาระประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 กิจกรรมเชิญชวนลูกค้านำรถเข้ารับบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งยังรวมไปถึงการสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี อบรมเพิ่มเติมทักษะพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่แล้วให้เกิดความสามารถที่โดดเด่นขึ้นมาทำให้พนักงานทุกระดับสามารถเติบโตในหน้าที่ตามสายงาน ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ อีกทั้งยังมุ่งหวังให้องค์กรและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจดังกล่าว ในปีนี้ ซูซูกิจึงได้เดินหน้าโครงการ “SUZUKI Cause We Care” โดยล่าสุดได้ทำการร่วมมือกับทาง ศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 และศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการนำ SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่งให้เป็นไปได้มากกว่า Food Truck ด้วยการดัดแปลงให้เป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่ โดยตู้ชีวนิรภัย (biosafety unit) ที่ติดตั้งอยู่บนกระบะรถ SUZUKI CARRY ถูกออกแบบโดยใช้หลักการ Human-Centered Design ที่คำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ทั้งในด้านดีไซน์และฟังก์ชันใช้สอยที่ตอบรับความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุด มีระบบปรับและกรองอากาศด้วย HEPA Filter ที่มีขนาดหนากว่าปรกติด้วยวัสดุที่ทำจากเทคโนโลยีเส้นใยขั้นสูง มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่สูงกว่าแบบปกติมากยิ่งขึ้น และระบบแรงดันบวก (positive pressure) เพื่อป้องกันแพทย์หรือนักเทคนิคการแพทย์ผู้เก็บตัวอย่างจากภายในรถได้รับอันตรายจากเชื้อโรค ทำให้ลดการติดเชื้อโรคของผู้ปฏิบัติงาน และลดการกระจายเชื้อโรคออกสู่ภายนอกสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย
SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ยังถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการรองรับการเก็บตัวอย่างได้มากกว่า 300 ตัวอย่างต่อวัน ด้วยสมรรถนะและความคล่องตัวของรถ SUZUKI CARRY ยังสามารถนำไปใช้เก็บตัวอย่างในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก ลดปัญหาความแออัดในสถานพยาบาล และเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเชิงรุกทุกพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โดย SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit คันนี้ ได้ทำการส่งมอบให้แก่ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการออกไปปฏิบัติงานตามสถานที่ต่างๆ และยังอำนวยความสะดวกให้ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่สำหรับเก็บสิ่งส่งตรวจและเพื่อค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกได้ต่อไป
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำรถ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit เป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ SUZUKI Cause We Care เพื่อช่วยเหลือสังคมผ่าน “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” นักเทคนิคการแพทย์ที่ครองใจประชาชนในสังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊คชื่อ “หมอแล็บแพนด้า” ซึ่งซูซูกิเล็งเห็นว่าหมอแล็บแพนด้ามีวิธีการสื่อสารให้ความรู้เกี่ยวกับทางการแพทย์ให้ประชาชนเข้าใจและรับรู้ได้อย่างง่ายดาย สอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการที่จะสื่อสารกับลูกค้าทั้งด้านสินค้าและงานบริการได้อย่างทันท่วงทีและมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ในยุคที่การสื่อสารและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและไร้ขีดจำกัด ยังเป็นแนวคิดภายใต้หลักการสำคัญว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตได้หากมีการช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาและความตั้งใจในการเข้าไปสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงที่สังคมกำลังเผชิญปัญหาจากไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ รวมถึงส่งมอบความประสบการณ์ที่ดีในสินค้าและบริการของซูซูกิสู่ลูกค้าต่อไป โดยโครงการ SUZUKI Cause We Care นี้ซูซูกิกำหนดให้ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศดำเนินการเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ดังนั้น จะเห็นได้ถึงความตั้งใจจริงของเราว่า ซูซูกิ ไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต
ช่องทางการติดต่อ
www.suzuki.co.th
www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)
ข่าวรถวันนี้ (24/03/2021) : SUZUKI พร้อม !! ร่วมงาน Bangkok International Motor Show 2021 อวดโฉมรถซูซูกิ รุ่นตกแต่งสุดพิเศษ เดินหน้าโครงการ Cause we care มอบ SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ให้หมอแล็บ แพนด้า
มร. มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่างานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 หรือ Bangkok International Motor Show 2021 ซึ่งจัดขึ้นที่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 นับเป็นอีกครั้งที่งานแสดงรถยนต์นี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ภายหลังจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในระลอกใหม่เริ่มมีสถานการณ์ดีขึ้น
งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “วิถีชีวิตใหม่ ใจเป็นสุข” หรือ “Shaping the Next Chapter” ซึ่งจากวิกฤตการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีแห่งการดำเนินชีวิต ตลอดไปจนถึงการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ได้เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างปลอดภัย และใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของซูซูกิในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้สถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมจะมีแนวโน้มที่ยากลำบากก็ตาม ยอดขายรถยนต์ในปี 2563 ซูซูกิมีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม 7% ที่ตัวเลขยอดขายจำนวน 25,528 คัน ด้วยกลยุทธ์สำคัญคือ การนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าให้สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ปลอดภัยได้อย่างมีความสุข แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบรับต่อการดำเนินชีวิตในวิถีใหม่ของลูกค้า โดยจากการเข้าร่วมงาน Bangkok International Motor Show 2021 ด้วยสถานการณ์หลายอย่างเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบรรยากาศที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถในช่วงนี้ ซูซูกิคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างยอดจองภายในงานได้ถึง 2,500 คัน เพื่อบรรลุเป้าหมายยอดขายรวมของซูซูกิในปีนี้ที่ 30,000 คัน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงาน Bangkok International Motor Show 2021 ผู้เข้าชมงานทุกท่านจะได้พบกับรถยนต์ของซูซูกิทุกรุ่น พร้อมให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งไฮไลท์รถยนต์ที่นำมาให้ชมในครั้งนี้ นำโดย สปอร์ตอีโคคาร์ NEW SUZUKI SWIFT มาในแนวคิด “Power You Up” แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ อัพพาวเวอร์ให้ออกไปสนุกกับชีวิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มาพร้อมความประหยัดและสมรรถนะเหนือระดับจากเครื่องยนต์ K12M พร้อมด้วยเทคโนโลยี DUALJET และแพลตฟอร์ม HEARTECT สุดแข็งแกร่ง ในราคาเริ่มต้น 557,000 บาท
SUZUKI XL7 รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง เจ้าของรางวัล The Best Petrol SUV Under 1500 c.c.จากงาน Car of the Year 2021 ซึ่งดำเนินการจัดงานโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รถยนต์สำหรับครอบครัว ที่มีมิติรถขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4,450 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร ความสูง 1,710 มิลลิเมตร และความสูงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร มอบวิสัยทัศน์และสมรรถนะในการขับขี่ ทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน ในราคาที่คุ้มค่า 779,000 บาท (สีขาวเพิ่ม 5,000 บาท)
SUZUKI CIAZ สปอร์ตอีโคซีดานที่สมบูรณ์แบบทั้งด้านดีไซน์ และสมรรถนะ ชูความสปอร์ตเร้าใจและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซูซูกินำมาช่วยเสริมทัพรถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์ของซูซูกิให้แข็งแกร่ง วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 523,000 บาท
SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดย เฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา รถยนต์รุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากคุณภาพเกินตัว มีสมรรถนะการขับที่ดีเกินความคาดหมาย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 328,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษและผ่อนสบายเริ่มต้นเพียง 1,999 บาท ต่อเดือน
SUZUKI ERTIGA รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่นับตั้งแต่ถูกแนะนำออกสู่สาธารณะชนก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับครอบครัว และในขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับกลุ่มเพื่อน ด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่กว้างขวาง โปร่งสบายใช้งานได้จริงทุกพื้นที่มอบความคุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ในรถมากมาย เช่น ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบไล่ฝ้าบริเวณกระจกบังลมด้านหลัง จอระบบสัมผัสขนาดใหญ่สะใจ 10 นิ้ว สะดวกในการใช้งานที่มาพร้อมกับระบบรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมด้วยกล้องมองภาพขณะถอยหลัง ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย อาทิ ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 659,000 บาท
SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์เกียร์ธรรมดา กับมิติตัวรถขนาดความยาว 4,195 มม. ความกว้าง 1,765 มม. และความสูง 1,910 มม. กระบะบรรทุกแบบเรียบ ผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลวาไนซ์มีคุณสมบัติป้องกันสนิมและลดการสึกกร่อน เพิ่มพื้นที่บรรทุกความกว้าง 1,670 มม. และความยาวอยู่ที่ 2,450 มม. สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน ขนถ่ายสัมภาระได้สะดวกยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ รับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 945 กิโลกรัม ราคาจำหน่ายเพียง 385,000 บาท
ในโซน Customized ทางซูซูกิยังคงนำรถหลากหลายรุ่นมาร่วมจัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถที่ไม่เหมือนใคร ในครั้งนี้ซูซูกิภูมิใจเสนอ การนำ SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่งให้เป็นไปได้มากกว่า Food Truck ด้วยการดัดแปลงให้เป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย (Biosafety Mobile Unit) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเชิงรุกแบบเคลื่อนที่
สำหรับตู้ชีวนิรภัย (biosafety unit) ได้รับการออกแบบและดัดแปลงรถโดยศูนย์นวัตกรรม KMITL FIGHT FOR COVID-19 และศูนย์วิจัยและออกแบบงานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยตู้ชีวนิรภัย (biosafety unit) ที่ติดตั้งอยู่บนกระบะรถ SUZUKI CARRY ซึ่งออกแบบโดยใช้หลักการ Human-Centered Design โดยคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ มีระบบปรับและกรองอากาศด้วย HEPA Filter และระบบแรงดันบวก (positive pressure) เพื่อป้องกันแพทย์หรือนักเทคนิคการแพทย์ผู้เก็บตัวอย่างจากภายในรถได้รับอันตรายจากเชื้อโรค ทำให้ลดการติดเชื้อโรคของผู้ปฏิบัติงาน และลดการกระจายเชื้อโรคออกสู่ภายนอกสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดการใช้ชุดอุปกรณ์ PPE ชึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit ยังถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการรองรับการเก็บตัวอย่างได้มากกว่า 300 ตัวอย่างต่อวัน ด้วยสมรรถนะและความคล่องตัวของรถยังสามารถนำไปใช้เก็บตัวอย่างในพื้นที่เข้าถึงยาก ลดปัญหาความแออัดในสถานพยาบาล และเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มการตรวจบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ได้
โดย SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit คันนี้จะถูกนำไปส่งมอบบริจาคให้กับ หมอแล็บแพนด้า “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” นักเทคนิคการแพทย์สุดฮาในโลกออนไลน์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนี้ สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ในการออกไปปฏิบัติงานตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บสิ่งส่งตรวจและเพื่อค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกได้ต่อไป โดยซูซูกิเล็งเห็นว่าหมอแล็บแพนด้ามีวิธีการสื่อสารให้ความรู้เกี่ยวกับทางการแพทย์ให้ประชาชนเข้าใจและรับรู้ได้อย่างง่ายดาย สอดคล้องกับความตั้งใจของซูซูกิในการจัดทำโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากแนวคิดที่ว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดีให้ลูกค้าเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดแล้ว ภายใต้หลักการความเชื่อของซูซูกิอีกประการหนึ่งคือธุรกิจจะสามารถเติบโตได้หากมีการช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชนและสังคม โดยซูซูกิผนึกกำลังกับผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิเข้าไปมีส่วนในการปรับปุรงคุณภาพชีวิตของชุมชน ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น โครงการ “รถยนต์ซูซูกิปันสุข” พร้อมตั้งตู้ “ซูซูกิ ปันสุข” เพื่อบรรเทาภาระประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 กิจกรรมเชิญชวนลูกค้านำรถเข้ารับบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นต้น รวมไปถึงการสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี อบรมเพิ่มเติมทักษะพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่แล้วให้เกิดความสามารถที่โดดเด่นขึ้นมาทำให้พนักงานทุกระดับสามารถเติบโตในหน้าที่ตามสายงาน ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ อีกทั้งยังมุ่งหวังให้องค์กรและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
นายวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความพร้อมทางด้านผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจัดแสดงแล้ว ซูซูกิยังได้ร่วมมือกับธนาคารชั้นนำ พร้อมทีมงานคอยให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อแก่ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งก็จะทำให้มีความหลากหลายในด้านของแพ็คเกจสินเชื่อต่างๆ ที่มากขึ้นและเป็นทางเลือกที่ดีในการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับผู้เข้าร่วมงานที่จองรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นภายในงาน รับ ฟรี บัตรชมภาพยนตร์ในเครือ SF จำนวน 2 ที่นั่ง รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ลูกค้าและผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 วันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี รวมถึงโชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน
ซูซูกิยังคงยึดมั่นในปรัชญาของซูซูกิคือผลิดสินค้าที่มีคุณค่าเหมือนว่าเราคือผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพงานบริการของโชว์รูมผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งยังเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้งหมดเป็น 140 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมีนาคม 2565
โปรโมชั่น งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 เมื่อจองรถยนต์ซูซูกิภายในงาน ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 เท่านั้น
SUZUKI XL7
- รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0.77% หนึ่งปีแรก
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
NEW SUZUKI SWIFT
- รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,333 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
- พร้อมรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
SUZUKI CIAZ
- รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท พร้อมรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท
- หรือเลือกรับ ดอกเบี้ย 0%
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
SUZUKI CELERIO
- รับข้อเสนอสุดพิเศษขับฟรี 90 วัน หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท
- พร้อมรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท (เฉพาะรุ่น)
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
SUZUKI ERTIGA
- รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท พร้อมรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท
- หรือเลือกรับ ดอกเบี้ย 1.09%
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
SUZUKI CARRY
- รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน หรือเลือกรับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี
- ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ภายในงานดังกล่าว และโชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้านท่านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- www.suzuki.co.th
- www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
- SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ)