NEW MG ES สเตชั่นวากอนไฟฟ้ารุ่นใหม่

ข่าวรถวันนี้ : NEW MG ES สเตชั่นวากอนไฟฟ้ารุ่นใหม่ ราคา  959,000 บาท

ข่าวรถวันนี้ : NEW MG ES สเตชั่นวากอนไฟฟ้ารุ่นใหม่ ราคา  959,000 บาท

 

ข่าวรถวันนี้ : NEW MG ES สเตชั่นวากอนไฟฟ้ารุ่นใหม่ ราคา  959,000 บาท

 

ภายใต้แนวคิด “COMFORTABLE เป็นทุกอย่างเพื่อทุกโมเมนต์” เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยของห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ใช้ได้จริง ด้วยดีไซน์ภายนอกและภายในที่พรีเมียมและมีระดับ ผสานความลงตัวในสไตล์ BRIT DYNAMIC ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่(PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) สู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ของรถไฟฟ้าที่มีดีในทุกด้าน พร้อมความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

 

NEW MG ES มาพร้อมกับ New ERA Design ที่ออกแบบตัวรถใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ดูเรียบหรูผสานความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว

ดีไซน์สเตชันวากอน ที่พรีเมียมและล้ำสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ

• มิติตัวถัง 4,600 x 1,818 x 1,543 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,665 มิลลิเมตร
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มิลลิเมตร
• ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้าย LED โฉมใหม่แบบ Light Curtain Design ที่ดูโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
• ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว
• กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง
• ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า และที่ปิดห้องเก็บสัมภาระท้าย
• ชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม

 

 

ห้องโดยสารที่ เรียบหรู กว้าง พร้อมดีไซน์ ENERGETIC BLUE STRIP พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seats เพื่อรองรับสรีระของผู้นั่ง กับความสามารถในกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร

 

• คอนโซลแบบ DOUBLE LAYER พร้อมพื้นที่ช่องเก็บของรอบคัน และที่วางแก้ว
• เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN กับผิวสัมผัสที่สบายและดูแลรักษาง่าย พร้อมเส้นสายการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE-A และ TYPE- C
• รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
• กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
• ระบบปรับอากาศแบบดิจิตัล พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart key) พร้อมปุ่ม Push Start

 

 

E- PERFORMANCE: สเตชั่นวากอนอีวีแนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ
เต็มประสิทธิภาพทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กับแพลตฟอร์มระบบส่งกำลัง SAIC E1 THREE – ELECTRIC SYSTEM มาพร้อมขุมพลังที่ให้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มาพร้อม ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ที่ให้การทรงตัวที่ดี ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

 

• แพลตฟอร์มระบบส่งกำลังใหม่ SAIC E1 THREE – ELECTRIC SYSTEM
• มอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM)
• แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE)
• พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
• แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
• รัศมีวงเลี้ยว 5.95 เมตร
• ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
• ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)

NEW MG ES มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และมีการติดตั้งระบบ ความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ ได้แก่

 

 

• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK
(Emergency Lane Keeping Assist)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX 2 จุด
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
• กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

COMFORTABLE CHARGING: ไปได้ทุกทิศทั่วไทย สะดวกสบายด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม
NEW MG ES มาพร้อมกับแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ที่ให้สมรรถนะและรองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ ทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge เร็วขึ้น ให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่พร้อมให้บริการแล้วกว่า 129 แห่งทั่วประเทศ ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% – 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 87 kW

• ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ
7 ชั่วโมง 15 นาที* ที่ 6.6 kW รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW
• รองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์
• ปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ใช้งานต่อเนื่องได้ดียิ่งขึ้น และมีน้ำหนักเบาลง 22%
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

 

NEW MG ES มาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite version ตอบสนอง ทุกไลฟ์สไตล์และอำนวยความสะดวกสบายของผู้ใช้งานไปอีกขั้น ให้เข้าถึงระบบการใช้งานรถไฟฟ้า เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

SMART CHECK (ระบบตรวจเช็คอัจฉริยะ)
• ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
• ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
• ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
• ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
• ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
• ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ

 

 

SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ)
• กุญแจดิจิตอล
• ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
• ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
• ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน

 

 

NEW MG ES มาพร้อมสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver) และตกแต่งภายในสไตล์ทูโทนพร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN