บางจาก ทดสอบน้ำมันเกรดพรีเมียม 3 สูตรใหม่ มาตรฐาน EURO5
ข่าวรถวันนี้ : บางจาก ทดสอบน้ำมันเกรดพรีเมียม 3 สูตรใหม่ มาตรฐาน EURO5 เอาใจผู้ใช้รถยนต์ทุกประเภท
ห่างหายไปนานสำหรับการทดสอบน้ำมันของสื่อฯ สายยานยนต์ และต้องออกตัวก่อนเลยว่า การทดสอบน้ำมัน ถ้าเป็นเรื่องของสมรรถนะการใช้งานจะเป็นการทดสอบที่แยกแยะได้ยากสุด ในอดีตเคยมีกิจกรรมการทดสอบน้ำมันเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ก็ทำได้เพียงการจับความรู้สึก และบรรยายออกไปตามที่เราพอจะรู้สึกได้ แต่ปัจจุบัน โลกหมุนไป เทคโนโลยี ก็เข้ามาลองรับการทดสอบมากขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตน้ำมัน ผู้ผลิตน้ำมันแต่ละยี่ห้อต่างก็พยายามคิดค้นสูตรเพื่อจะรองรับกับการเปลี่ยนไปของเทคโนโลยียานยนต์ด้วยเช่นกัน
วันนี้น้ำมันบางจาก โดย บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พาสื่อมวลชนที่เป็นผู้เชียวชาญด้านการทดสอบรถยนต์ และอินฟูเอนเซอร์ แถวหน้า มาพิสูจน์คุณภาพน้ำมันบางจากยุคใหม่ ในงาน Feel The Fuel Today ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูง เทคโนโลยีเฉพาะ ที่ทำให้บางจากมีน้ำมันเกรดพรีเมียม ทั้งเบนซิน แกสโซฮอล์ 97 สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง และรถที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ผ่านมาตรฐาน ยูโร 5 และน้ำมันไฮพรีเมียม ดีเซล เอส บี7 รวมถึงแกสโซฮอล์ อี20 เอส อีโว ซึ่งเป็นน้ำมันสูตรใหม่ล่าสุด มีส่วนผสมของสารที่ช่วยทำความสะอาดหัวฉีดเครื่องยนต์ ป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้ดี ได้รับมาตรฐานยูโร 5 เป็นรายแรกในเอเชีย
น้ำมันทั้ง 3 ชนิด ทาง บางจาก ฯ จะให้สื่อได้ทดสอบในสนามแข่งระดับโลก ที่ช้างอินเนอร์เนชันแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งท้าทายมาก ๆ แต่สำหรับผม สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการขับในสนามแข่งครั้งนี้คือ มีการติดตั้งเครื่องมือทดสอบ PERFORMANCE-BOX ที่ได้มาตรฐาน ในรถทดสอบทุกคัน
กิจกรรมการทดสอบครั้งนี้ ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า บางจากมีนโยบายในการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่มีขายในไทย การพัฒนาเชื้อเพลิงคุณภาพสูง มีคุณสมบัติที่โดดเด่น ดึงสมรรถนะสูงสุดของเครื่องยนต์ มีความคุ้มค่า บนพื้นฐานที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเชื้อเพลิงบางจาก เกิดจากการคัดสรรองค์ประกอบที่ดีที่สุด ผลิตด้วยน้ำมันพื้นฐานที่ได้รับการคัดกรอง มีความบริสุทธิ์สูง ผนวกกับสารเพิ่มคุณภาพของเชื้อเพลิงตามสูตรการคิดค้นของวิศวกรบางจากช่วยชะล้าง ทำให้หัวฉีดเชื้อเพลิงสะอาด เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์
น้ำมันบางจาก ทั้ง 3 ชนิดที่ทำการทดสอบ ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงระดับ EURO5 รองรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ทั้งที่มีและไม่มีระบบอัดอากาศ ช่วยยืดอายุชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยปริมาณของกำมะถันน้อยกว่า 10 ppm ลดการเกิดสารซันเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ทุกผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการทดสอบของบางจากตามมาตรฐาน จนมั่นใจได้ว่า นี่คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดก่อนจัดจำหน่ายสู่ผู้บริโภคในประเทศไทย ได้แก่ Baangchak Hi Premium 97 ค่าออกเทน 97 สูงที่สุดในตลาดน้ำมันเบนซินของไทย Bangchak Hi Premium Diesel S B7 น้ำมันดีเซลที่มีค่าออกเทนสูงที่สุดในกลุ่มดีเซล และ Bangchak E20 S EVO น้ำมันเชื้อเพลิง E20 คุณภาพสูง
Bangchak Hi Premium 97 มาตรฐาน Euro 5 มีค่าออกเทนสูงถึง 97 เป็นน้ำมันเบนซินพรีเมียมแก๊สโซฮอล์ที่ดีที่สุดของบางจาก มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ค่าออกเทน 97 เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมแก๊สโซฮอล์ที่มีค่าออกเทนสูงสุดในประเทศไทย เหมาะกับรถยนต์ที่ต้องการค่าออกเทนสูง เช่น รถซุปเปอร์คาร์ รถ Luxury Car รถที่ต้องใช้งานต่อเนื่องและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
- สารเพิ่มคุณภาพ ทำความสะอาดหัวฉีดทั้งเครื่องยนต์รุ่นเก่าและใหม่ หัวฉีดแบบ GDI และ PFI ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น 3%
Bangchak Hi Premium Diesel S มาตรฐาน Ruro 5 เชื้อเพลิงพรีเมียมดีเซล สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบประสิทธิภาพสูง ผสมองค์ประกอบของน้ำมันคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นพิเศษจากโรงกลั่นของบางจาก ผนวกกับสารเพิ่มคุณภาพ ทำให้มีประสิทธิภาพการให้พลังงานเหนือกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไป
- ค่าซีเทนสูงถึง 70 มาตรฐานกรมธุรกิจพลังงานที่กำหนดค่าซีเทนขั้นต่ำ 50
- ผสมสารเพิ่มคุณภาพช่วยทำความสะอาดหัวฉีดระบบไดเรคอินเจคชันได้ 100% จุดระเบิดและเผาไหม้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ดีเซล
- ประหยัดน้ำมัน 4.3%
Bangchak E20 S EVO มาตรฐาน Euro 5 แก๊สโซฮอล์ E20 คุณภาพสูง สารเพิ่มคุณภาพสูตรพิเศษ ที่เพิ่มปริมาณสูง ทำความสะอาดชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ ช่วยเผาไหม้ได้สมบูรณ์ เครื่องยนต์เดินลื่น
- ทำความสะอาดหัวฉีดเครื่องยนต์ 100% ทำให้เผาไหม้ได้ดีขึ้น ป้องกันหัวฉีดอุดตัน
- อัตราเร่งดีขึ้น ผลจากสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยเพิ่มความลื่น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างลื่นไหล
- ป้องกันสนิมและการกัดกร่อนในระดับ A Rating ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์
- ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.57%
ในช่วงของการทดสอบน้ำมัน เป็นการทดสอบเปรียบเทียบแบบ Blind Test ทางบางจากนำรถยนต์รุ่นเดียวกัน 2 คัน มาทำการทดสอบน้ำมันในเกรดเดียวกัน ระหว่างน้ำมันบางจาก กับ น้ำมันค่ายอื่น ๆ
สำหรับน้ำมันไฮพรีเมียม แกสโซออล์ 97 ที่เราได้ทำการทดสอบเป็นรุ่นแรกจะใช้ BMW 430i Convertible คันแรก เติมน้ำมันเบนซินพรีเมียมเกรดเปรียบเทียบ และคันที่สอง เติมน้ำมันเบนซินแกสโซฮอล Bangchak Hi Premium 97
- รถคันแรก BMW 430i Convertible เติมน้ำมันเชื้อเพลิงเปรียบเทียบ ตัวเลขผ่านเครื่องมือทดสอบ Performance-box วัดอัตราเร่ง 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ใน 6.1 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัดได้ 8.1 วินาที อัตราเร่ง 0-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัดได้ 10.6 วินาที
- รถคันที่สอง BMW 430i Convertible เหมือนกันแต่เติมเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียม Bangchak Hi Premium 97 แทน ตัวเลขสมรรถนะที่วัดได้ อัตราเร่ง 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมงวัดได้ 5.8 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัดได้ 7.8 วินาที อัตราเร่ง 0-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัดได้ 10.3 วินาที
จากความรู้สึกก็พอจะคาดเดาได้ว่ารถคันที่ 2 ที่ได้ให้คะแนนไปรู้สึกว่าจังหวะเร่งออกตัว จังหวะเร่งแซง หรือเร่งต่อเนื่องมันดูไหลลื่น ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลขผลทดสอบผ่านเครื่องมือวัดสมรรถนะ
สำหรับน้ำมันดีเซล เกรดพรีเมียม จะใช้รถ BMW X1 xDrive20d คันที่แรกเติมเชื้อเพลิงดีเซล เกรดพรีเมียม ยี่ห้ออื่น และคันที่สอง เติมเชื้อเพลิง Bangchak Hi Premium Diesel S จากผลการทดสอบพบว่า
- BMW X1 xDrive20d คันที่หนึ่ง เติมเชื้อเพลิงเปรียบเทียบดีเซล มีอัตราเร่ง 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.7 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 9.5 วินาที อัตราเร่ง 0-120 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 13.2 วินาที
- BMW X1 xDrive20d คันที่สองเติม Bangchak Hi Premium Diesel S สามารถทำอัตราเร่ง 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.6 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 9.4 วินาที และ อัตราเร่ง 0-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 13.1 วินาที
ซึ่งก็เป็นไปตามที่เราคาดเดาไว้เช่นกัน แม้ว่าอัตราเร่งจะคู่คี่สูสี ชนิดหายใจรดต้นคอ แต่เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบและให้ความรู้สึกที่ไหลลื่นกว่า ทำให้เราเลือกรถที่เติม Bangchak Hi Premium Diesel S ได้อย่างถูกต้องเช่นกัน ซึ่งบอกเลยว่า เป็นการทำนายที่ค่อนข้างยาก ถ้าจะดูในเรื่องของการตอบสนองการขับขี่เพียงอย่างเดียว
สุดท้ายเป็นการทดสอบน้ำมันเบนซิน แแกสโซฮอล์ อี20 โดยใช้รถยนต์ Mercedes-Benz E-Coupe E300 AMG Dynamic คันแรก เติมน้ำมันเชื้อเพลิง E20 ทั่วไป และคันที่สอง เติมเชื้อเพลิง Bangchak E20 S EVO
- Mercedes-Benz E-Coupe E300 AMG Dynamic คันที่หนึ่ง เติมเชื้อเพลิงเปรียบเทียบ E20 มีอัตราเร่ง 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.4 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร วัดได้ 8.8 วินาที อัตราเร่ง 0-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัดได้ 12.1 วินาที
- Mercedes-Benz E-Coupe E300 AMG Dynamic คันที่สอง เติมเชื้อเพลิง Bangchak E20 S EVO มีอัตราเร่ง 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.3 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 8.7 วินาที อัตราเร่ง 0-120 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 12.0 วินาที
ช่วงการทดสอบน้ำมันเบนซินแกสโซฮอล์ อี20 สำหรับการจับความรู้สึกบอกเลยว่าใกล้เคียงกันมาก ๆ แต่เราก็ยังพอเอาตัวรอดมาได้ เลือกคันที่เติมแกสโซฮอล์ E20 S EVO ได้ถูกเช่นกัน ถึงแม้ว่าดูจากตัวเลขทดสอบ มันทำได้ดีกว่าเพียงเศษเสี้ยววินาทีก็ตาม
บทสรุปจากการทดสอบครั้งนี้ก็พบว่า น้ำมันสูตรใหม่ของบางจาก ทั้ง 3 สูตร ทั้งเบนซินและดีเซลเกรดพรีเมียม รวมทั้งแกสโซฮอล์ E20 S EVO จากตัวเลขพบว่าทำได้ดีกว่าคู่แข่งทุกสูตร รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ทำการวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมาดังนี้
- น้ำมันเบนซิน แกสโซฮอล์ ไฮพรีเมียม 97 ประหยัดกว่าน้ำมันเบนซิน สูตรพรีเมียมค่ายอื่น 3%
- น้ำมันดีเซล ไฮพรีเมียม ประหยัดกว่าน้ำมันคู่แข่ง 4.3%
- น้ำมันเบนซิน แกสโซฮอล์ E20 S EVO ประหยัดกว่าน้ำมันคู่แข่ง 1.6%