ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ แรงตั้งแต่ออกตัว!!
รีวิวรถใหม่2020 : Honda City 1.0 ลิตร 3สูบ เทอร์โบ 122 แรงม้า ใหม่ แรงตั้งแต่ออกตัว!! ราคาเริ่มต้น 579,000-739,000 บาท
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พาสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ ในจังหวัดเชียงราย รวมระยะทางกว่า 196 กิโลเมตร โดย ฮอนด้า ออโตโมบิล ใช้เวลาในการพัฒนารถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ (HONDA CITY TURBO) โฉมใหม่ คันนี้ 3 ปี เพื่อให้ได้รถยนต์ซีดาน ขนาดเล็ก ในกลุ่ม B-SEGMENT ซึ่งเป็นซิตี้คาร์ ที่มีความสมบรูณแบบมาก โดยจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของรถยนต์อีโคคาร์ เฟส 2 ตามกฎหมายกำหนดด้วย ในยุคสงครามรถเล็กขายดี รถยนต์อีโคคาร์ มีการคืนภาษีให้ ยุคนั้น ฮอนด้า ส่งบรีโอ และ บรีโอ อเมซ ทำตลาดในรถยนต์ อีโคคาร์ เฟส แรก แต่หน้าตาก็ยังไม่หวือหวาโดนใจ เหมือนคู่แข่งในตลาด กลับกันในยุคนี้ ฮอนด้า ปรับกลยุทธ นำรถยนต์ซิตี้คาร์มาพัฒนาใหม่ ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้มีขนาดเล็กลง ให้ความประหยัดสูง พร้อมกับคายไอเสียมลพิษต่ำ เพื่อมาทำตลาดในกลุ่มรถยนต์ อีโคคาร์ เฟส 2 ได้อย่างเต็มตัว
ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์ซิตี้คาร์ เจเนอเรชันที่ 5 มิติตัวรถ ยาว 4,553 มม. กว้าง 1,748 มม. สูง 1,467 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม.มิติฐานล้อสั้นลงกว่าเดิมเล็กน้อย เช่นเดียวกับความสูงของใต้ท้องรถที่เตี้ยลงกว่าเดิมโดยมีความสูงอยู่ที่ (135 มม.) ในรุ่นท็อป RS หน้าตาภายนอกสปอร์ต ได้ไฟหน้า Full LED , Paddle Shift , Cruise Control , ล้อ 16 นิ้ว และม่านนิรภัย ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานทุกเกรด โคมไฟโปรเจคเตอร์เลนส์ (ยกเว้น RS ได้ LED) , ไฟ DRL , เสาอากาศครีบฉลาม , สวิตช์ Push Start , Idle Stop , ส่วนรุ่นรองท็อป ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED เน้นความสปอร์ตและหรูหราขึ้น และล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ส่วนรุ่นถัดลงมาจะเป็นล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว ทั้งหมดรวมถึงรุ่น โมดูโล ด้วย
ห้องโดยสารจะกว้างขวางขึ้น ย้ำความสำเร็จของ ฮอนด้า ซิตี้ ตลอด 4 เจเนอเรชั่นที่ผ่านมา ด้วยการสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS ภายในยังดูกว้างขวางทั้งด้านหน้าและหลังด้วยการออกแบบตัวถังใหม่ทั้งหมด ผมลงเปลี่ยนมานั่งด้านหลังดู แล้วขยับเบาะหน้าถอยมาสุด พบว่าในตำแหน่งคนนั่งด้านหลังยังสามารถวางขาได้อย่างสบาย รวมถึงพื้นที่เหนือศรีษะก็มีเพียงพอ ไม่อึดอัด อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างพร้อม รวมถึงช่องเสียบไฟแบบ USB หน้า/หลัง ที่วางแก้วน้ำ ที่เท้าแขนเบาะนั่ง รวมถึงการจัดวางตำแหน่งของ เบาะรองนั่งที่ดูสู. ให้มุมมองจากด้านหลังดี แถมยังนั่งได้สบายไม่เมื่อยล้า ต้องยกเครดิตการออกแบบที่นั่งด้านหลังให้กับฮอนด้า
ฮอนด้า ซิตี้ ในรุ่น อาร์เอส ยังติดตั้งระบบเชื่อมต่อที่ทันสมัย (Honda CONNECT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมคุณและรถยนต์เข้าไว้ ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ตโฟน และ TCU (Telematics Control Unit) ที่ติดตั้งในรถยนต์ ให้คุณสามารถ ตรวจสอบสถานะความพร้อมของรถยนต์ ตำแหน่งรถยนต์ รวมถึงแสดง ข้อมูลลักษณะการขับขี่ได้แบบเรียลไทม์ และยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ ในกรณีเหตุฉุกเฉินต่างๆ
ขุมพลังบล็อกใหม่ ลดขนาดลงมาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร (988ซีซี) VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร (17.6 กก.-ม.)ที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ ซีวีที 7 จังหวะ เคลมอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ประหยัดมากถึง 23.8 กม./ลิตร.ดีขึ้นถึง 33% แต่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20
จุดเด่นของเทคโนโลยี เครื่องยนต์บล็อคใหม่ มีดังนี้
- ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct Injection) เป็นระบบฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ส่งผลให้ได้พลังงานที่เกิดจากการเผาไหม้ที่รุนแรง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบเรียบและต่อเนื่อง
- Dual VTC ระบบแคมชาฟท์ ที่สามารถเพิ่มหรือลดองศาของแคมชาฟท์ในการเปิดปิดวาล์วไอดีและไอเสีย เพื่อเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ และให้การขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองการขับขี่ได้รวดเร็ว ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร และแรงม้า 122 แรงม้า
- ระบบแปรผันระยะยกของวาล์ว VTEC เป็นการแปรผันระยะยกของวาล์วไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประจุไอดีจำนวนมากเข้าสู่ห้องเผาไหม้ โดยจะแปรผันการทำงาน เพื่อให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองการขับขี่ได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ VTEC
- อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ (Water-Cooled Type Intercooler) เป็นการระบายความร้อนอากาศที่มาจากการบูสท์ของเทอร์โบด้วยน้ำที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ 1.0L VTEC TURBO ช่วยให้การระบายความร้อนเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และยังลดระยะทางในการประจุไอดีให้สั้นลง ส่งผลให้การตอบสนองของเครื่องยนต์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- เทอร์โบชาร์จเจอร์ และวาล์วเวสเกตไฟฟ้า เทอร์โบชาร์จทำหน้าที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น โดยมีวาล์วเวสเกตไฟฟ้าควบคุมการทำงานได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งนำพลังงานไอเสียส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากขับทดสอบแล้ว เราพบว่าอัตราเร่งจัดจ้านกว่า เบนซิน 1.8 ลิตร แบบ N/A มาก เครื่องยนต์เบนซิน ที่ Dowsizing ลดขนาดลงมา จากเดิม เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ มาเป็น 3 สูบ 1.0 ลิตร (988ซีซี) วาล์วแปรผัน 2 ฝั่ง VTEC TURBO แบบจ่ายน้ำมันแบบฉีดตรงเจ้าห้องเผาไหม้ 122 แรงม้า 173 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ เคลมอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 23.8 กม./ลิตร.ตามมาตรฐานของ อีโคคาร์เฟส 2 ประหยัดขึ้นถึง 33% อัตราเร่งจากมาตรวัดเรือนไมล์ เท่าที่ลองวัดดู 0-100 กม./ชม. ประมาณ 10 วินาที และ 0-160 กม./ชม. ประมาณ 25-26 วินาที ส่วนความเร็วปลาย ทะลุ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาประมาณ 1 นาที เมื่อดูจากมาตรวัดเรือนไมล์
ด้านระบบความปลอดภัยพื้นฐานใน ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ ที่ติดตั้งมาให้ในทุกเกรด ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างแถวหน้า , ระบบป้องกันล้อล็อก ABS , EBD , VSA , HSA , ESS ,และกุญแจ Immobilizer รวมทั้งระบบล็อกประตูเมื่อรถออกตัว
ช่วงล่าง เซ็ทมาได้ลงตัวประทับใจทุกย่านความเร็ว รถวิ่งได้นิ่งดีแม้จะใช้ความเร็วสูง ซับแรงสะเทือนทำได้ประทับใจ เหมาะกับผู้บริโภคทั้งวัยทำงาน คนรุ่นใหม่ รวมถึงคนมีครอบครัว ทั้งจังหวะยืดยุบของโช้คอัพ จังหวะขึ้นและลงคอสะพาน ใช้ความเร็วสูงในโค้ง ช่วงล่างและพวงมาลัยไฟฟ้าทำหน้าที่ได้อย่างสัมพันธ์และดูลงตัวมาก ฮอนด้ามีการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงมากขึ้น ทำให้ระดับเสียงภายในห้องโดยสารเงียบลงกว่าเดิม เมื่อขับแซงผ่านรถข้าง ๆ เสียงเครื่องยนต์ของรถคันข้าง ๆ เข้ามาน้อยมาก มีเพียงเสียงของหน้ายางที่วิ่งบดไปกับถนนให้ได้ยินบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
พวงมาลัย อาจจะไม่ถึงกับคมมากเหมือนรถสปอร์ต แต่ก็ควบคุมได้ดั่งใจ เบามือ ให้การขับขี่เป็นเรื่องสบาย ปุ่มต่างๆ ที่อยู่บนพวงมาลัยนั้นใช้งานง่ายสะดวกดี ทัศนวิสัยชัดเจนทุกมุมมอง ซึ่งเป็นผลมากจากการออกแบบให้คนขับนั้นอยู่ในตำแหน่งที่นั่งเป็นแนวเส้นตรง
สรุป ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ โฉมใหม่ คันนี้ มีจุดเด่นหลายด้าน ทั้งหน้าตาที่ได้รับการตกแต่งแยกรุ่นชัดเจน รุ่น RS มีระบยบเชื่อมต่อทันสมัย เบาะนั่ง นั่งได้สบายทุกตำหน่งจริง ๆ เสียงห้องโดยสารเงียบ เครื่องยนต์แรงมาก แรงเกินคาด เซ็ทมาได้เป็นหน่งเดียวกับช่วงล่างและการบังคับควมคุม ทำให้ขับได้ดีทุกสภาพถนนและทุกย่านความเร็ว จนน่าประทับใจ ฟันธงได้เลยว่า ยุคนี้หาตัวจับยากเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ ช่วงล่างและการบังคับตวบคุม
พบกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/city โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive
ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น S ราคา 579,500 บาท
- รุ่น V ราคา 609,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
- รุ่น RS ราคา 739,000บาท