MAZDA CX-5 เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
All-New CX-5 เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย เดือน พฤศจิกายน นี้
Mazda CX-5 โฉมแรกเปิดตัวแนะนำสู่สาธารณะชนครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 ได้รับออกแบบภายใต้ KODO Design มาพร้อมกับ SKYACTIV TECHNOLOGY จัดเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง และเป็นโมเดลหลักที่สำคัญของมาสด้า
ส่วน All-New Mazda CX-5 โฉมใหม่ ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงทุกๆ ด้านของเทคโนโลยีและรวมทั้งการออกแบบ และการพัฒนาโมเดลใหม่ทั้งหมด ด้วยสโลแกนที่ว่า “ความแข็งแกร่งอันปราณีต” หรือ “Refined Toughness” พร้อมยกระดับแนวคิดการออกแบบภายใต้ KODO Design ให้ก้าวไปอยู่ในระดับที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้สีตัวถัง Soul Red Crystal ใหม่ ยังช่วยเสริมให้การออกแบบของ CX-5 ใหม่ โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
รูปทรงดูต่ำลงในแนวระนาบ จากการปรับให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ตลอดจนการปรับระยะห่างของล้อคู่หน้าและระยะห่างของล้อคู่หลังให้กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร ทำให้สัดส่วนรูปทรงของ All-New CX-5 เกิดมุมมองที่ทรงพลังมากขึ้น ทำให้ตำแหน่งโคมไฟหน้าต่ำลงแต่ดูเพรียวยาวทันสมัยขึ้น ออกแบบกระจังหน้าที่เน้นให้เห็นความกว้างผ่านเส้นสาย ที่สอดรับกับโคมไฟหน้าอย่างมีเอกลักษณ์ เน้นมิติในการมอง และการถ่ายทอดเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกระจังหน้า เพื่อให้ดูโดดเด่น เสริมภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ตำแหน่งเสา A ถูกปรับตำแหน่งไปยังด้านหลังประมาณ 35 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และตำแหน่งของเพลาหน้าและเสาเอก็ถูกปรับให้สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม ออกแบบเส้นสายที่ทอดยาวจากด้านข้างจรดด้านท้ายของตัวรถ รวมไปถึงกระจังหน้ารูปทรง สี่เหลี่ยมคางหมู ที่ขยายออกจากประตูท้ายลงไปสู่ล้อคู่หลังทั้ง 2 ข้าง
ห้องโดยสาร ออกแบบให้สอดคล้องกับสโลแกน “ความแข็งแกร่งอันปราณีต” หรือ “Refined Toughness” โดยเน้นไปที่ “บรรยากาศ (ambience)” “รูปแบบ (form)” และ “ผิวสัมผัส (texture)” เพื่อมุ่งไปสู่บรรยากาศที่คำนึงถึงผู้โดยสารเป็นหลัก มาตรวัดทั้งหมดด้านหน้าของคนขับจะอยู่ตรงศูนย์กลางของพวงมาลัย ติดตั้งช่องแอร์หน้า/หลัง ที่ออกแบบให้มีมิติความลึกเพื่อแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของรถ SUV ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพอันเป็นดีเลิศ เบาะหนังสีดำ นุ่มและเรียบเนียน เลือกเย็บตะเข็บด้ายสีน้ำตาล เพื่อให้เข้ากับวัสดุและสีของเบาะ
ภายในฝั่งคนขับ (Cockpit Zone) ประกอบไปด้วยปุ่มควบคุมต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับการขับขี่ในอุดมคติโดยคำนึงถึงการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติของมือและเท้าของผู้ขับขี่ในการใช้งาน นอกจากนี้คอนโซลกลางและคันเกียร์ถูกปรับให้มีตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 60 มิลลิเมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
และเมื่อตำแหน่งเสาเอ ลาดเอียงมากขึ้น ใช้กระจกมองข้างขนาดเล็กลง จึงช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยขณะเลี้ยวรถ ลดเส้นขอบหน้าต่างให้ต่ำลงกว่ารุ่นปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้กระจกหน้าต่างบานประตูหลังแบบบานเดียว
พนักพิงเบาะหน้าได้รับการปรับปรุงให้มีชิ้นส่วนรองรับและโครงสร้างแข็งแรงมากขึ้น เบาะรองนั่งที่มีส่วนประกอบของยูรีเทนโฟมซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้อย่างดีเยี่ยม ติดตั้งพนักพิงเบาะหลังแบบปรับเอนได้ 2 ระดับ อีกทั้งยังปรับระดับความสูงของเบาะรองนั่งให้ต่ำลง และออกแบบรูปทรงของเบาะรองนั่งให้เป็นรูปทรง 3 มิติ เพื่อให้สามารถสอดรับกับสรีระของร่างกายส่วนล่างของผู้โดยสาร พร้อมทั้งเพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง บริเวณคอนโซลกลาง เพื่อความสะดวกสบาย
ที่วางแก้วแบบปรับได้ 2 ตำแหน่ง บริเวณคอนโซลกลาง พื้นที่เก็บสัมภาระมีขนาดความจุ 505 ลิตร (ตามมาตรฐาน DIN พร้อมบริเวณเก็บของขนาดเล็ก) ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันที่มีขนาดความจุ 500 ลิตร
มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่ด้านขวามือของชุดมาตรวัดเลือกใช้หน้าจอสีที่มีความละเอียดสูงแบบ TFT LCD ขนาด 4.6 นิ้ว All-New CX-5 ใช้จอแสดงข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display ที่สามารถแสดงข้อมูลจากระบบนำทางผ่านดาวเทียมบนกระจกหน้ารถ หน้าจอแสดงผลกลางขนาด 7 นิ้ว ย้ายขึ้นไปอยู่ตำแหน่งบนสุดของแผงคอนโซลหน้าเพื่อลดการละสายตาของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มาสด้าใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อจอ LCD กับแผงสัมผัสแบบ Optical Bonding ซึ่งจะช่วยลดแสงสะท้อนทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น MZD CONNECT
ติดตั้งระบบ MZD CONNECT ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อในรถยนต์สมัยใหม่ที่ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์มือถืออื่นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต และเข้าถึงบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์และฟังก์ชันการสื่อสารอื่น ๆ
ระบบ MZD CONNECT ประกอบไปด้วย ระบบเครื่องเสียง, การใช้งานโทรศัพท์แบบไร้สาย, ระบบติดต่อสื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่น Aha™ by HARMAN รวมไปถึงระบบนำทางผ่านดาวเทียมซึ่งใช้ข้อมูลจากเอสดีการ์ด ติดตั้งลำโพง Bose® 10 ตัว ที่ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกันระหว่างมาสด้าและ Bose ประกอบด้วยระบบชดเชยเสียงรอบทิศทาง AudioPilot™2 และระบบเสียงเซอร์ราวด์ Centrepoint®2 ระบบเสียงถูกปรับแต่งอย่างเหมาะสมเพื่อให้เข้ากับลักษณะของรถ SUV ด้วยเสียงที่คมชัดระดับไฮเอนด์พร้อมกับเสียงเบสที่หนักแน่นขึ้น ระบบเสียงใหม่ยังเพิ่มลำโพงทวีตเตอร์ที่ติดตั้งตรงบริเวณเสาเอ การวางลำโพงเสียงให้ใกล้กับโสตสัมผัสของผู้โดยสารจะทำให้เสียงชัดเจนขึ้น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ห้องโดยสารพัฒนาให้เงียบขึ้น โดยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนนในย่านความถี่ต่ำ ซึ่งจะได้ยินเมื่อเดินทางบนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ รวมไปถึงเสียงลมและเสียงยางที่มีความถี่สูงเมื่อเดินทางด้วยความเร็วที่สูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถลดเสียงรบกวนลงได้ประมาณ 1.3 เดซิเบล
เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินแบบฉีดตรง SKYACTIV-G 2.0 ลิตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 จังหวะ ระบบส่งกำลังทั้งหมดนี้จะมอบอัตราเร่งที่ทรงพลังและตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD ของมาสด้า ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหน้าลื่นไถล ระบบนี้ใช้น้ำมันสังเคราะห์เพื่อลดการสูญเสียพลังงานตลอดช่วงอุณหภูมิในการทำงานด้วยการรักษาความหนืดให้ต่ำแม้ในอุณหภูมิที่เย็นจัด อีกทั้งยังลดความต้านทานโดยใช้บอลแบริ่งสำหรับชุดส่งกำลังในขณะออกตัวและชุดเฟืองท้ายด้านหลังทั้งหมด ใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้าชนิดติดตั้งที่แกนพวงมาลัย ช่วยเพิ่มการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติ
ระบบช่วงล่างของ All-New CX-5 ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ส่วนระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ มีเส้นผ่านศูนย์กลางของลูกสูบในช็อคอัฟซอฟเบอร์คู่หน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น และใช้บูชลูกยางที่มีของเหลวภายใน สำหรับช่วงล่างด้านหน้า เพื่อลดความรู้สึกว่าหน้าลอยตัวที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ และลดการสั่นสะเทือนอันไม่พึงประสงค์ที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกได้เมื่อรถเกิดอาการโคลง
ติดตั้งระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-VECTORING CONTROL หรือ GVC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ระบบแรกในอนุกรม SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ของมาสด้า ระบบจะทำงานโดยการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองต่อการทำงานของพวงมาลัย ซึ่งเป็นการควบคุมแบบผสมผสานระหว่างแรงเร่งจากด้านข้างและด้านตามยาวของตัวรถ และปรับโหลดในแนวดิ่งที่กระทำลงบนล้อแต่ละล้อให้เหมาะสม GVC มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ SUV ช่วยให้ทั้งการตอบสนองและความมั่นคงของตัวรถดีขึ้น ในขณะที่ยังช่วยลดการโยกตัวออกไปด้านข้างของตัวผู้โดยสารและช่วยให้นั่งสบาย
โครงสร้างตัวรถ มีความแข็งแรงต่อแรงบิดตัวเพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ช่วยลดการให้ตัวซึ่งอาจทำให้การตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวของผู้ขับขี่ช้าลง ใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงพิเศษเพิ่มขึ้น ทั้งบริเวณเสาเอซึ่งใช้เหล็กกล้า 1,180 MPa และบริเวณเสาบี ส่วนด้านข้างซึ่งใช้เหล็กกล้า 980 MPa
ระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงสถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ยกระดับอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยขณะเกิดเหตุ โดยการปรับปรุงโครงสร้าง SKYACTIV-BODY ระบบ i-ACTIVSENSE จึงเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยสมัยใหม่ที่ประกอบด้วยระบบที่ครอบคลุม โดยใช้อุปกรณ์ตรวจจับ เช่น ชุดเรดาร์คลื่นสั้นระดับมิลลิเมตรและกล้องต่างๆ รอบคัน
ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อนที่ด้านหน้าและดิสก์เบรกไม่มีช่องระบายความร้อนในด้านหลัง นอกจากนี้ All-New CX-5 ยังเพิ่มฟังก์ชัน Auto-Hold ซึ่งจะช่วยให้ทำรถหยุดนิ่งอยู่กับที่แม้กระทั่งหลังจากที่ผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นเบรก
มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ใหม่ ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control, MRCC) ซึ่งจะปรับเปลี่ยนและรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อลดภาระบางส่วนของผู้ขับขี่ ขณะเดินทางในระยะไกล
สีภายนอก Soul Red Crystal เพิ่มแรงดึงดูดใจ พัฒนาลักษณะจำเพาะของสี Soul Red Crystal ซึ่งเป็นสีสันสดใสที่รวมจุดเด่นและความลึกที่บริสุทธิ์ไว้ รู้สึกได้ถึงความสดชื่นยิ่งขึ้น และมากกว่านั้นคือ ระดับความโปร่งใสที่สดชื่นยิ่งขึ้น
ข้อมูลจำเพาะ All-New CX-5
ประเภทของตัวถัง รถอเนกประสงค์
จำนวนที่นั่ง 5 ที่นั่ง
ความยาว 4,550 mm
ความกว้าง 1,840 mm
ความสูง ทั้งหมด 1,680 mm (ล้ออัลลอยขนาด 19”) 1,675 mm (ล้ออัลลอยขนาด 17”)
ระยะฐานล้อ 2,700 mm
เครื่องยนต์ SKYACTIV-D 2.2 (เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล)
SKYACTIV-G 2.0 (เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน)
ระบบส่งกำลัง SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท
ระบบกันสะเทือนหลัง อิสระมัลติลิงค์
ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน
ระบบเบรก (หน้า / หลัง) ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน / ดิสก์เบรก
ขนาดยาง 225/55 R19 และ 225/65 R17