ซิตี้แบงก์ มอบ เมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 2 ล้านบาทให้ผู้โชคดี

ข่าวรถวันนี้ :  ซิตี้แบงก์ และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉลอง 2 ปี แห่งความสัมพันธ์ ส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทแก่ผู้โชคดี

ข่าวรถวันนี้ :  ซิตี้แบงก์ และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉลอง 2 ปี แห่งความสัมพันธ์ ส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทแก่ผู้โชคดี

กิติมา เหลืองศรีทอง (ขวาสุด) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์ ร่วมกับ มร. บีเยิร์น ย๊อร์มคิม กุซเทรา (ซ้ายสุด) รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยส่งมอบรถยนต์ Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic มูลค่า 2,399,000 บาท แก่พูนชัย ชัยมิตรวัฒนา (กลาง) สมาชิกบัตรฯ ผู้โชคดีจากแคมเปญเฉลิมฉลองความสำเร็จในโอกาสครบ 2 ปีของ “บัตรเครดิตซิตี้ เมอร์เซเดส” (Citi Mercedes Credit Card) ที่สองพันธมิตรระดับโลก ซิตี้แบงก์ และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมกันจัดขึ้นแทนคำขอบคุณให้แก่สมาชิกบัตรฯ โดยพิธีส่งมอบจัดขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เบนซ์ สตาร์แฟลก ถนนวิภาวดีรังสิต

สัมผัส “ความเหนือระดับที่พร้อมไปกับคุณทุกที่” ด้วยบัตรเครดิตซิตี้ เมอร์เซเดส ได้แล้ววันนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ “Mercedes-Benz Limitless Offers” จัดเต็มกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ด้วยทัพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ “Mercedes-Benz Limitless Offers” จัดเต็มกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ด้วยทัพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งโปรแรงกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 กับแคมเปญ “Mercedes-Benz Limitless Offers” มอบข้อเสนอที่พลาดไม่ได้สำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลากหลายรุ่น พร้อมสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สำหรับรถยนต์คอมแพ็คทุกรุ่น ได้แก่ รุ่น A-Class, GLA และ GLB รวมทั้งรุ่น CLS 220 d และ Mercedes-AMG GLC 43 Coupé รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 3 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน*

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ “Mercedes-Benz Limitless Offers” จัดเต็มกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ด้วยทัพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น

 

  • รุ่น C-Class, C-Coupe และ GLC-SUV ทุกรุ่น รวมถึง E 220 d เลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ฟรี “MBSP” แพ็กเกจ Advance โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หรือเลือกรับส่วนลดเงินดาวน์สูงสุด 5% เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ* หรือ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 4 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน*
  • รุ่น GLC 220 d Coupé และ GLC 300 e Coupé เลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ฟรี “MBSP” แพ็กเกจ Advance โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หรือเลือกรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 4 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน*
  • รุ่น E 300 e และ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 4 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน*
  • รุ่น GLE 350 de และ GLS 350 d รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 1 ปี

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ “Mercedes-Benz Limitless Offers” จัดเต็มกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ด้วยทัพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น

 

เพิ่มเติมพิเศษ รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาทฟรี เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ, สัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน*

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยแคมเปญพิเศษนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น

*สิทธิพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อ รับมอบรถยนต์ และเริ่มต้นสัญญาทางการเงินกับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564 เท่านั้น ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำความพร้อมในการมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวในประเทศไทยหนุนด้วยกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการขายใหม่ด้วยบริการที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น เตรียมส่ง 2 รุ่นหรู “Mercedes-Maybach GLS” อีกระดับของรถยนต์เอสยูวีระดับลักชัวรี และ “The new EQS” ยานยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกที่ผลิตในประเทศไทย ลุยตลาดครึ่งปีหลัง ยกระดับบริการหลังการขายต่อเนื่อง พร้อมจัดแคมเปญ StarFest 2021: Season of the ultimate offers มอบสิทธิประโยชน์มากมายให้ผู้ซื้อเมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ถึง 30 กันยายนนี้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในประเทศไทยภายในทศวรรษนี้ตามนโยบายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ทั้งการเตรียมความพร้อมในสายการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานแบตเตอรี่ ต่อยอดจากการเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ PHEV ระดับลักชัวรีด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลายที่สุด หนุนด้วยกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการขายใหม่ (New Retail Optimization Strategy) ด้วยบริการที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นและสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจให้กับแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในระยะยาว พร้อมเตรียมส่ง 2 รถยนต์หรู “Mercedes-Maybach GLS” อีกระดับของรถยนต์เอสยูวีระดับลักชัวรีที่มอบความหรูหราและความสะดวกสบายสูงสุดในทุกรายละเอียด และ “The new EQS” ยานยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกที่ผลิตในประเทศไทยที่ช่วยตอกย้ำการเดินหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ลุยตลาดรถยนต์ไทยครึ่งปีหลัง เสริมทัพด้วยการยกระดับบริการหลังการขายต่อเนื่อง ทั้งโปรแกรมบำรุงรักษาและการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ MBSP, อะไหล่ StarParts และ REMAN Part พร้อมย้ำแคมเปญ “StarFest 2021: Season of the ultimate offers” มอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับผู้ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ถึง 30 กันยายนนี้

 

 

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตามที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีได้มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลกภายในทศวรรษนี้ โดยเริ่มจากการเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบในปี 2568 ได้แก่ MB.EA, AMG.EA และ VAN.EA ซึ่งในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในสายการผลิตให้สอดคล้องกับกลยุทธ์นี้ไว้ก่อนแล้ว ทั้งการเตรียมความพร้อมในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย และการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562 ต่อยอดจากการที่เราเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ PHEV ระดับลักชัวรีด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในแต่ละเซกเมนต์ที่สุด โดยก่อนหน้านี้ เรายังมีการประกาศกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพในการขายใหม่ โดยใช้ศูนย์บริการเป็น “พื้นที่สร้างประสบการณ์” เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสารเพื่อสื่อภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ลักชัวรีด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจของเราในระยะยาว ทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่พร้อมก้าวไปข้างหน้าทั้งในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป”

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยการแนะนำ 2 รถยนต์ลักชัวรีรุ่นใหม่ที่จะสะกดทุกสายตาด้วยรายละเอียดที่เป้นที่สุดของความหรูหราและความทันสมัย ได้แก่ Mercedes-Maybach GLS ยนตรกรรมที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นอีกระดับของความเป็นรถยนต์เอสยูวีระดับลักชัวรี ที่มอบความหรูหราและความสะดวกสบายสูงสุดในทุกรายละเอียด และ The new EQS รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกที่ผลิตในประเทศไทยโดยพัฒนาขึ้นมาจากแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับ Executive Class ที่หลอมรวมทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อที่มอบความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเตรียมผลิตและจำหน่ายรถยนต์รุ่น S-Class ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในเวอร์ชัน PHEV ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน The IAA MOBILITY 2021 ในวันที่ 5 กันยายนนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จะอัปเดตอีกครั้งว่ารถยนต์แต่ละรุ่นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในช่วงเวลาใด

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำความพร้อมในการมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวในประเทศไทยหนุนด้วยกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการขายใหม่ด้วยบริการที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น

 

ขณะเดียวกัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีแผนการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เป็น sub-brand ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้ง Mercedes-EQ และ Mercedes-Maybach โดยล่าสุดได้มีการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach อย่างเป็นทางการแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ทีทีซี, สตาร์แฟลกไพรมัส และ บีเคเค

นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังพร้อมยกระดับบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ และพนักงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกคนด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยในส่วนของบริการหลังการขาย เมอร์เซเดส-เบนซ์ย้ำความพิเศษของโปรแกรมบำรุงรักษาและการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ MBSP ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจไม่รู้จบให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ ด้วยแพ็คเกจที่หลากหลายให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ Compact, Advance, Extra และ Excellent พร้อมทั้งมอบความยืดหยุ่นแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งในเรื่องการบำรุงรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ และการขยายการรับประกันคุณภาพโดยไม่จำกัดระยะทาง พร้อมทั้งขยายความคุ้มครองได้สูงสุดถึง 8 ปี

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำความพร้อมในการมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวในประเทศไทยหนุนด้วยกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการขายใหม่ด้วยบริการที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น

 

 

ในด้านความหลากหลายของอะไหล่ เมอร์เซเดส-เบนซ์มีทั้ง StarParts อะไหล่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ได้มาตรฐานในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 55% เพื่อการบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อายุ 5 ปีขึ้นไป ครอบคลุมทั้งรถยนต์คอมแพ็ค รถยนต์นั่งระดับกลาง รถยนต์เอสยูวี และรถยนต์สปอร์ต และ REMAN part ซึ่งเป็นอะไหล่แท้ที่ผ่านกระบวนการ Remanufacturing ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์คิดค้นขึ้นเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและแรงงานในขั้นตอนการผลิตอะไหล่แท้ชิ้นใหม่ โดยมีการฟื้นฟูสภาพ ตรวจสอบ และทดสอบคุณภาพตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้อะไหล่ในกลุ่มนี้มีราคาย่อมเยาขึ้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี โดยอะไหล่ REMAN จะมีทั้งในชุดอุปกรณ์หลัก ชิ้นส่วนสำหรับกลไก ระบบหัวฉีดและการบำบัดไอเสีย ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบขับเคลื่อน โดยลูกค้าผู้ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์หลายรุ่นสามารถเข้ารับบริการและเลือกใช้อะไหล่ REMAN ได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำความพร้อมในการมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวในประเทศไทยหนุนด้วยกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการขายใหม่ด้วยบริการที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น

 

นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดแคมเปญ StarFest 2021: Season of the ultimate offers เพื่อมอบข้อเสนอสุดเร้าใจของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในกลุ่ม Compact car, Contemporary Luxury, Dream Cars รวมถึงแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” ให้ลูกค้ารับข้อเสนอไปแบบเต็มพิกัด ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ทุกรุ่น แคมเปญต่าง ๆ และรายละเอียดเกี่ยวกับบริการหลังการขายได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ StarFest 2021 : Season of the ultimate offers ยกทัพเมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี มอบสิทธิประโยชน์มากมาย 1 กรกฎาคม – 30 กันยายนนี้เท่านั้น

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ StarFest 2021

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งโปรแรง “Season of the ultimate offers” มอบข้อเสนอสุดเร้าใจของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในกลุ่ม Compact car, Contemporary Luxury, Dream Cars รวมถึงแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” ให้ลูกค้ารับข้อเสนอไปแบบเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น

  • รับฟรี “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิสพลัส” โปรแกรมการบำรุงรักษารถยนต์ตามข้อกำหนด MBSP Compact เป็นเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ทั้งนี้เฉพาะรถยนต์ใหม่รุ่นที่ร่วมรายการ ได้แก่ รุ่น C-Class, C Coupé, E-Class, GLC, GLC Coupé, V-Class, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé และ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+
  • รับสิทธิส่วนลด เพื่อซื้อ Mercedes-Benz Collection ชุดสินค้าบำรุงรักษารถยนต์ (Car Care) หรือกล้องติดรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มูลค่า 10,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG ทุกรุ่น โดยไม่รวมรถในโปรแกรมฟลีท
  • พิเศษรับเพิ่ม! สำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง*
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 2 ปี เมื่อทำสัญญามายสตาร์ หรือสัญญาเช่าทางการเงิน ทั้งนี้เฉพาะรถยนต์ใหม่รุ่นที่ร่วมรายการ ได้แก่ รุ่น C-Class, C Coupé, E-Class, GLC และ GLC Coupé

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแคมเปญ StarFest 2021

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และผู้จำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยแคมเปญพิเศษนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้เท่านั้น

*สิทธิพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่รับมอบรถยนต์ และเริ่มต้นสัญญาทางการเงินกับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 – 30 กันยายน 2564 เท่านั้น ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข่าวรถวันนี้ (23/07/2021) : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยรถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไปจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น

  • รถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไปจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
  • ในปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบ
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวปลายทศวรรษนี้ ในช่วงเวลาที่สภาวะตลาดเอื้ออำนวย
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมผลิตแบตเตอรี่ความจุมากกว่า 200 กิกะวัตต์ชั่วโมงร่วมกับพันธมิตร พร้อมวางแผนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ 8 แห่ง
  • จับมือพันธมิตรใหม่เพื่อพัฒนาและผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในยุโรป
  • พัฒนาประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าผ่านการบูรณาการในแนวดิ่งและการเข้าซื้อกิจการของ YASA ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมอเตอร์แกนฟลักซ์ที่มีประสิทธิภาพสูงพิเศษ
  • Plug & Charge เตรียมแนะนำการชาร์จที่ราบรื่นโดยไม่ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการตรวจสอบและการชำระเงิน Mercedes me Charge จะมีจุดชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับและกระแสตรงมากกว่า 530,000 จุดทั่วโลก
  • การเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการจัดสรรเงินลงทุน
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำกำไร พร้อมกับเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

 

 ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยรถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปี 2568 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์เตรียมความพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวภายในทศวรรษนี้ ในช่วงเวลาที่สภาวะตลาดเอื้ออำนวย โดยปรับกลยุทธ์จาก “รถยนต์ไฟฟ้านำ” (electric-first) เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น” (electric-only) โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะบริษัทรถยนต์ระดับลักชัวรีแถวหน้าของโลก พร้อมเดินหน้าสู่โลกที่ปราศจากการปล่อยมลพิษและอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ ภายในปี 2565 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะมีรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (BEV) ในทุกเซกเมนต์รถยนต์ของบริษัท และนับตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาทั้งหมดจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยลูกค้าจะสามารถเลือกรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ทุกรุ่นที่บริษัทผลิตขึ้น ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มีความตั้งใจที่จะเร่งความเร็วในการปรับกลยุทธ์โดยยังคงเป้าหมายเดิมในการทำกำไร

“ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเซกเมนต์รถยนต์ระดับลักชัวรีที่มีเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้นำ จุดเปลี่ยนกำลังใกล้เข้ามาและเรามีความพร้อมที่จะตอบรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดโดยการมุ่งสู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่านั้นภายในสิ้นทศวรรษนี้” มร.โอลา คัลเลเนียส ประธานบริหาร เดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี กล่าว “การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังหมายรวมถึงการจัดสรรเงินลงทุนใหม่ ภายใต้การจัดการการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรักษาเป้าหมายในการทำกำไรของเราตามเดิม เพื่อการันตีความสำเร็จที่ยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณพนักงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์และความมุ่งมั่น ช่วยให้เรามั่นใจว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์จะประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นของวงการรถยนต์ในอนาคต”

และเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เปิดเผยแผนกลยุทธ์ที่มีความครอบคลุม โดยหมายรวมถึงการเร่งรัดการทำวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง โดยสำหรับการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ระหว่างปี 2565 ถึง 2573 จะมีมูลค่ามากกว่า 40,000 ล้านยูโร การเร่งรัดและพัฒนาแผนพอร์ตโฟลิโอของรถยนต์ไฟฟ้ายังนับเป็นจุดเปลี่ยนของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่แท้จริง

 

 ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยรถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปี 2568 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น

แผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี

โครงสร้างรถยนต์: ในปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบ ได้แก่:

  1. MB.EA ครอบคลุมรถยนต์นั่งขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ทั้งหมด โดยสร้างระบบโมดูลาร์ที่ปรับขนาดได้เพื่อเป็นแกนหลักไฟฟ้าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ในอนาคต
  2. AMG.EA จะเป็นแพลตฟอร์มของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงสำหรับลูกค้า Mercedes-AMG ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องเทคโนโลยีและสมรรถนะ
  3. VAN.EA เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของรถตู้ไฟฟ้าและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขนส่งและเมืองที่ปลอดมลพิษในอนาคต

การบูรณาการในแนวดิ่ง: หลังการปรับระบบส่งกำลังใหม่เพื่อให้การวางแผน การพัฒนา การจัดซื้อ และการผลิตสอดคล้องในระนาบเดียวกัน เมอร์เซเดส-เบนซ์จะยกระดับการบูรณาการในแนวดิ่งในด้านการผลิตและการพัฒนา ตลอดจนเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่ผลิตเองภายใน ขั้นตอนนี้หมายรวมถึงการเข้าซื้อกิจการบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่จากสหราชอาณาจักรอย่าง YASA ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีมอเตอร์ฟลักซ์แนวแกนที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษเจเนอเรชันต่อไป แบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ผลิตภายใน อาทิ eATS 2.0 เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์นี้ที่มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพและต้นทุนโดยรวมของระบบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงอินเวอร์เตอร์และซอฟต์แวร์ ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ตั้งของบริษัทและซัพพลายเออร์หลายร้อยแห่งที่เชี่ยวชาญด้านส่วนประกอบรถยนต์ EV และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเร่งกลยุทธ์การมุ่งสู่การสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์

แบตเตอรี่: เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่มากกว่า 200 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยวางแผนที่จะตั้งโรงงาน Gigafactory จำนวน 8 แห่งเพื่อผลิตแบตเตอรี่ร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาจากเครือข่ายของโรงงานผลิตระบบแบตเตอรี่ 9 แห่งที่ได้วางแผนไว้ก่อนแล้ว แบตเตอรี่เจเนอเรชันต่อไปจะมีมาตรฐานสูงและเหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์และรถตู้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 90% มอบความยืดหยุ่นที่มากพอต่อการนำเสนอโซลูชั่นเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าทุกคน ในส่วนของการผลิตแบตเตอรี่ เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ในยุโรปเพื่อพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่และโมดูลในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำให้มั่นใจว่า ยุโรปยังคงเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อไปในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่ยังช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์มีโอกาสได้ปรับเปลี่ยนเครือข่ายการผลิตระบบส่งกำลังที่มีอยู่เดิม และด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ล้ำหน้าที่สุดในรถยนต์และรถตู้ที่พัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงตั้งเป้าหมายที่จะขยายระยะการใช้งานของวงจรชีวิตในการผลิตแบตเตอรี่แต่ละรุ่น ซึ่งสำหรับแบตเตอรี่เจเนอเรชันต่อไป เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง SilaNano เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานต่อไปโดยใช้คอมโพสิตซิลิกอนคาร์บอนในแอโนด ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาในการใช้งานที่นานขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ใช้เวลาในการชาร์จสั้นลง สำหรับเทคโนโลยีโซลิดสเตต เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเจรจากับพันธมิตรเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นของพลังงานและความปลอดภัยที่สูงขึ้น

การชาร์จ: เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเริ่มต้นกำหนดมาตรฐานใหม่ในการชาร์จที่เรียกว่า “Plug & Charge” ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเสียบปลั๊ก ชาร์จ และถอดปลั๊กโดยไม่ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการตรวจสอบและการชำระเงิน Plug & Charge จะเปิดตัวพร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่น EQS ในปีนี้ ทั้งนี้ Mercedes me Charge เป็นหนึ่งในเครือข่ายการชาร์จที่ใหญ่ที่สุดในโลก และปัจจุบันประกอบด้วยจุดชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับและกระแสตรงมากกว่า 530,000 จุดทั่วโลก นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังทำงานร่วมกับบริษัทเชลล์ในการขยายเครือข่ายการชาร์จ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงเครือข่ายการชาร์จแบตเตอรี่ของเชลล์ได้ดียิ่งขึ้นผ่านจุดชาร์จมากกว่า 30,000 จุดภายในปี 2568 ทั้งในยุโรป จีน และอเมริกาเหนือ รวมถึงจุดชาร์จพลังงานสูงกว่า 10,000 จุดทั่วโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังวางแผนที่จะเปิดตัวสถานที่ชาร์จระดับพรีเมียมหลายแห่งในยุโรป เพื่อมอบประสบการณ์การชาร์จแบบเฉพาะตัวด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่สุด

VISION EQXX: เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา Vision EQXX รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้จริงด้วยระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตรโดยกำหนดเป้าหมายเป็นตัวเลขหลักเดียวสำหรับกิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อ 100 กิโลเมตร (มากกว่า 6 ไมล์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง) ที่ความเร็วปกติในการขับขี่บนทางหลวง ทีมงานจากหลากหลายสาขา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากแผนก F1 High Performance Powertrain (HPP) ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กำลังทำงานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความมุ่งมั่นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่มีความทะเยอทะยานของโครงการ ซึ่งพร้อมจะเปิดตัวให้ได้ชมกันทั่วโลกในปี 2565 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน Vision EQXX จะถูกดัดแปลงและนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้งานในโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ

 

 ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยรถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปี 2568 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น

แผนการผลิต

เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเตรียมเครือข่ายการผลิตทั่วโลกสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น (electric-only) ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ซึ่งด้วยการลงทุนในระยะเริ่มต้นในการผลิตที่มีความยืดหยุ่นและระบบการผลิต MO360 ที่ทันสมัย ​​ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถผลิตรถยนต์ BEV จำนวนมากได้แล้วในวันนี้ และไม่เกินปีหน้า รถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ 8 รุ่นจะถูกผลิตจากโรงงาน ผลิต 7 แห่งใน 3 ทวีป นอกจากนี้ โรงงานประกอบรถยนต์และแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ดำเนินการโดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี จะเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตที่ปราศจากคาร์บอนภายในปี 2565 และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ผนึกกำลังกับ GROB ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตแบตเตอรี่และระบบอัตโนมัติของเยอรมนี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทั้งในเรื่ององค์ความรู้และกำลังการผลิตแบตเตอรี่ ความร่วมมือครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การประกอบโมดูลแบตเตอรี่และการประกอบแพ็ค นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีแผนที่จะเพิ่มโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่แห่งใหม่ในเมืองคุปเปนไฮม์ ประเทศเยอรมนี เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และรักษาความสามารถในการรีไซเคิล โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2566 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่มีแนวโน้มในทางบวก

 

 ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยรถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปี 2568 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น

แผนกำลังคน

การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความพร้อมและกำลังดำเนินการอยู่ ภายใต้การทำงานร่วมกันกับตัวแทนพนักงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเดินหน้าเปลี่ยนแปลงด้านกำลังคนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แผนการปรับทักษะใหม่ที่มีความครอบคลุม การเกษียณอายุก่อนกำหนด และการเข้าซื้อกิจการ TechAcademies จะเสนอการฝึกอบรมเพื่อนร่วมงานสำหรับคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับอนาคต ทั้งนี้ในปี 2564 เพียงปีเดียว พนักงานประมาณ 20,000 คนในเยอรมนีได้รับการฝึกอบรมด้านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (e-mobility) เพื่อให้เป็นไปตามแผนสำหรับการพัฒนาระบบปฏิบัติการ MB.OS ที่จะมีการสร้างงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ใหม่กว่า 3,000 ตำแหน่งทั่วโลก

 

 ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยรถยนต์รุ่นที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปี 2568 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น

แผนการเงิน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมายในการทำกำไรที่กำหนดไว้ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2563 เป้าหมายของปีที่แล้วอิงจากการสันนิษฐานว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์จะสามารถขายรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วน 25% ภายในปี 2568 ส่วนการปรับแผนในวันนี้จะอิงจากส่วนแบ่งของยอดขาย xEV ที่สันนิษฐานว่าจะสูงสุดถึง 50% ภายในปี 2568 รวมถึงสถานการณ์ในตลาดสำหรับการขายรถยนต์ใหม่ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ สิ่งที่สำคัญคือการเพิ่มรายได้สุทธิต่อหน่วยโดยการเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เช่น Mercedes-Maybach และ Mercedes-AMG ในขณะเดียวกันกับที่เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถควบคุมราคาและการขายได้โดยตรงมากขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการด้านดิจิทัลจะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์นี้ต่อไป เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมุ่งหน้าลดต้นทุนทั้งต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ต่อไป พร้อมทั้งลดส่วนแบ่งการลงทุนของเงินลงทุน แพลตฟอร์มแบตเตอรี่ทั่วไปและโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ปรับขนาดได้ รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ จะช่วยให้เกิดมาตรฐานที่สูงขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง สัดส่วนต้นทุนแบตเตอรี่ภายในรถคาดว่าจะลดลงอย่างมาก การจัดสรรเงินทุนจะถูกปรับจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านำ (EV-first) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น (EV-only) ส่วนการลงทุนในเครื่องยนต์สันดาปและเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด จะลดลง 80% นับจากปี 2562 ถึง 2569 ซึ่งภายใต้แนวความคิดทั้งหมดนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์คาดการณ์อัตรากำไรของบริษัทในยุคของรถยนต์ BEV จะอยู่ในอัตราเดียวกันกับยุคของเครื่องยนต์สันดาป

“หน้าที่หลักของเราในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการโน้มน้าวให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถยนต์รุ่นแฟลกชิปที่บุกเบิกตลาดอย่าง EQS จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการก้าวสู่ยุคใหม่ของวงการยานยนต์ในอนาคต” มร.โอลา คัลเลเนียส กล่าว

ข่าวรถวันนี้ 8/07/2021 : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย ภายใต้รูปแบบการขายและการบริการใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น ด้วยเป้าหมายความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว

เมอร์เซเดส-เบนซ์ปรับทิศทางธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการขายและการบริการ ภายใต้เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจในอนาคต
กลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย (retail optimization strategy) ใหม่ มุ่งเน้นการเพิ่มจุดขายและบริการ โดยใช้ศูนย์บริการเป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสารเพื่อสื่อภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ลักชัวรีด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

 

ข่าวรถวันนี้ 8/07/2021 : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย ภายใต้รูปแบบการขายและการบริการใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น ด้วยเป้าหมายความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพในการขาย (retail optimization strategy) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมให้ศูนย์บริการสำหรับการกำหนดกลยุทธ์ใหม่รับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะให้บริการผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอซับแบรนด์ที่หลากหลายให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการผสานช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและให้การสนับสนุนด้านกลยุทธ์แก่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศผ่านกลยุทธ์ใหม่นี้

 

ข่าวรถวันนี้ 8/07/2021 : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย ภายใต้รูปแบบการขายและการบริการใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น ด้วยเป้าหมายความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว

 

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไม่ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 หรือไม่ ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทุกวันนี้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ทุกอย่างได้ทางออนไลน์ นี่จึงเป็นที่มาให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ตัดสินใจประกาศจุดยืนเพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับทิศทางการทำธุรกิจในรูปแบบของการเพิ่มความหลากหลายทางการขายและการบริการ เมอร์เซเดส-เบนซ์สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคและขั้นตอนการซื้อรถยนต์ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จากการวิจัยของเรา ลูกค้ามากถึง 97% เลือกค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนมาที่โชว์รูม และลูกค้าจำนวน 50% ยังเลือกสำรวจรายละเอียดของรถยนต์แบบดิจิทัล (digital navigation) ก่อนมาชมรถยนต์คันจริง นั่นหมายความว่า การสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนที่จะเชื่อมต่อลูกค้ามายังศูนย์บริการเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งด้วยแรงผลักดันจากความเปลี่ยนแปลงในเรื่องพฤติกรรมของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล และการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงวางเป้าหมายที่จะรีเซ็ตเครือข่ายของเราเพื่อรองรับการขายในรูปแบบใหม่ และเพราะความกล้าในการก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของเมอร์เซเดส-เบนซ์มาตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนิน กลยุทธ์การขายใหม่ในครั้งนี้”

 

ข่าวรถวันนี้ 8/07/2021 : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย ภายใต้รูปแบบการขายและการบริการใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น ด้วยเป้าหมายความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเป้าเพิ่มความหลากหลายของการขายและการบริการภายใต้หลักการของความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนวิธีการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ใน 5 ส่วน ได้แก่

  • การคิดและทำในสไตล์แบรนด์ลักชัวรี – ด้วยพฤติกรรมการซื้อและการเป็นเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงพร้อมเสนอแนวทางใหม่ในการทำธุรกิจเพื่อตอบรับความคาดหวังของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น
  • มุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างมีกำไร – ด้วยความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ทั้งในส่วนของการขาย การวางแผนการผลิต และการจัดการด้านลอจิสติกส์ ช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมสำหรับแผนการเติบโตรูปแบบใหม่
  • ขยายฐานลูกค้าด้วยการขยายซับแบรนด์ – ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในพอร์ตโฟลิโอของเรา โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งรุ่น EV และ PHEV เมอร์เซเดส-เบนซ์จะโฟกัสไปที่การสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และเตรียมทั้งผลิตภัณฑ์และอะไหล่ไว้รองรับความต้องการให้เพียงพอ
  • รักษาฐานลูกค้าพร้อมเพิ่มรายได้ – การสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังพร้อมสานต่อการขายและการบริการสู่ช่องทางออฟไลน์ที่ศูนย์บริการได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
  • รับฐานต้นทุนให้ต่ำลงแต่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ – ซึ่งนำไปสู่นโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายของโชว์รูมพร้อมมาตรการสนับสนุน

ภายใต้กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการขายและการบริการแบบใหม่ สิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเป้าหมายไว้คือการเพิ่มปริมาณการขายต่อจุดขายและบุคลากร ตลอดจนการเพิ่มการเติบโตของธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับการเติบโตของศูนย์บริการ เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเพิ่มความหลากหลายในรูปแบบการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มศูนย์บริการเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายรถยนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์ยืนยันว่า โชว์รูมและศูนย์บริการจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ แต่เราต้องปรับบทบาทใหม่ โดยเปลี่ยนโชว์รูมให้กลาย touchpoint ที่ช่วย “เติมเต็มประสบการณ์” และให้ลูกค้า “สามารถกำหนดทุกอย่างได้ตามความต้องการ” ซึ่งภายใต้ทิศทางใหม่นี้ ลูกค้าจะสามารถเชื่อมต่อกับแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ก่อนผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนที่แบรนด์จะพาลูกค้าเชื่อมต่อไปยังช่องทางออฟไลน์ที่โชว์รูมและศูนย์บริการได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งนี่คือวิธีการที่เมอร์เซเดส-เบนซ์สามารถบริหารงานได้อย่างมีความยืดหยุ่นและสะดวกขึ้นสำหรับลูกค้า ทั้งยังเป็นการบริหารงานที่มีความยั่งยืนมากขึ้นสำหรับพันธมิตรในระยะยาว

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวสติกเกอร์ไลน์ใหม่ งานออกแบบของศิลปินดัง “Tuna Dunn” ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่ Mercedes-Benz TH Line Official Account

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวสติกเกอร์ไลน์ใหม่ งานออกแบบของศิลปินดัง “Tuna Dunn” ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่ Mercedes-Benz TH Line Official Account

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งสติกเกอร์ไลน์ชุดพิเศษในชื่อ “Here, There and Everywhere” โดยเลือก Tuna Dunn หรือ ตุล-ตุลยา ตุลย์วัฒนจิต ศิลปินและ illustrator เจ้าของลายเส้นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการบอกเล่าเรื่องราวที่ดูเรียบง่ายแต่โดนใจมาเป็นผู้ออกแบบ โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยพร้อมให้ทุกคนที่ ‘add friend’ กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ “Mercedes-Benz TH” แล้วลงทะเบียนกับเราผ่านทางแอพพลิเคชัน Line สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ทันที โดยสติกเกอร์ไลน์ชุดนี้ นำเสนอออกมาในคอนเซ็ปต์ของการบอกเล่าเรื่องราวผ่านความสัมพันธ์ของชายหนุ่มและหญิงสาวที่สื่อสารกันด้วยคำพูดที่ทุกคนสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้ลายเส้นที่เรียบง่าย ให้ทุกคนได้สนุกกับสีสันใหม่จากเมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมนำไปใช้พูดคุยกับเพื่อน ๆ และคนใกล้ชิดได้อย่างเต็มที่

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวสติกเกอร์ไลน์ใหม่ งานออกแบบของศิลปินดัง “Tuna Dunn” ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่ Mercedes-Benz TH Line Official Account

 

แฟน ๆ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถดาวน์โหลดสติกเกอร์ชุดนี้ได้โดยการเข้าไปที่แท็บ “Official Accounts” ในหน้า Home ของแอพพลิเคชัน Line จากนั้นกดค้นหา “Mercedes-Benz TH” แล้วเพิ่มเป็นเพื่อน จากนั้นลงทะเบียนกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ แล้วดาวน์โหลดสติกเกอร์ชุดนี้ได้ทันที หรือหากเป็นเพื่อนกับ “Mercedes-Benz TH” ก็สามารถลงทะเบียนและกดเข้าไปดาวน์โหลดได้เลย ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม เป็นต้นไป.

ข่าวรถวันนี้ (16/04/2021) : เมอร์เซเดส-เบนซ์ แชมป์ยอดขายรถยนต์ ไตรมาสที่ 1 ส่งมอบรถ 590,999 คันทั่วโลก เติบโตกว่า 20%

  • รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ xEV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ครองส่วนแบ่งในตลาดโลก 10% และในยุโรปกว่า 25%
  • ยอดขายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วโลกในไตรมาสแรกเติบโตถึง 21.8% (581,270 คัน)
  • ยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในจีนทำสถิติ 222,520 คัน สูงสุดของสถิติไตรมาสแรก (เพิ่มขึ้น 60.1%)
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ครองแชมป์ตลาดรถยนต์หรูในไตรมาสแรกด้วยจำนวนรถยนต์จดทะเบียนรวม 3,178 คัน
  • ยอดจอง EQA พลังไฟฟ้าทั่วโลกสูงถึง 20,000 คัน ( ใช้พลังงานไฟฟ้ารวม 15.7 กิโลวัตต์ / 100กิโลเมตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 0 กรัม/กม.)

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ แชมป์ยอดขายรถยนต์ ไตรมาสที่ 1 ส่งมอบรถ 590,999 คันทั่วโลก เติบโตกว่า 20%

 

“เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขายทั่วโลก 590,999 คัน (เพิ่มขึ้น 22.3%)ในไตรมาสแรกของปี 2564 อันเป็นผลมาจากยอดขายในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงความต้องการที่สูงขึ้นอย่างมากในกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ ในยุโรปยอดขายรถยนต์ 1 ใน 4 ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์และแบรนด์สมาร์ท เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (xEV) สำหรับในตลาดโลก รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีสัดส่วน 10% ของยอดขายทั้งหมด หรือประมาณ 59,000 คัน ในจำนวนนี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำนวน 16,000 คัน โดยรถยนต์รุ่น EQA ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าด้วยยอดจองประมาณ 20,000 คัน นับเป็นสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้นปีสำหรับแบรนด์ Mercedes-EQ ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับปี 2564” มร.บริตตา ซีเกอร์ กรรมการในคณะกรรมการบริหารเดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการตลาดและการขาย กล่าว ทั้งนี้รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQA มีกำหนดส่งมอบปลายเดือนมีนาคม 2564

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ แชมป์ยอดขายรถยนต์ ไตรมาสที่ 1 ส่งมอบรถ 590,999 คันทั่วโลก เติบโตกว่า 20%

 

“นอกเหนือจากรถยนต์รุ่น EQS, EQB และEQE เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในปี 2564 โดยเปิดตัวรถในกลุ่มรถไฟฟ้าใหม่อีก 3 รุ่น รวมเป็น 6 รุ่น และล่าสุดเราได้นำเสนอรถยนต์ EQS ในฐานะรถยนต์รุ่นแฟลกชิพของเรา ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะเป็นรถยนต์ที่ผู้ใช้ทั่วโลกจะชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง และจะเป็นรุ่นที่พลิกประสบการณ์การขับขี่ รวมถึงเรื่องการเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น” มร.บริตตา ซีเกอร์ กล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จะยังคงขยายการเติบโตและสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าด้วยการนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่หลากหลายรวมแล้วราว 30 รุ่นจนถึงสิ้นปีนี้

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ แชมป์ยอดขายรถยนต์ ไตรมาสที่ 1 ส่งมอบรถ 590,999 คันทั่วโลก เติบโตกว่า 20%

 

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ลักชัวรีในไทย โดยในไตรมาสแรกของปี 2564 ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในเรื่องนวัตกรรม บริการที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ รวมถึงเครือข่ายดิจิทัลของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายรถยนต์ที่จดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกแล้วทั้งสิ้นถึง 3,178 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี ทั้งนี้ยังเป็นผลมาจากการที่เราสามารถเพิ่มปริมาณรถยนต์ให้เพียงพอต่อการส่งมอบในเดือนมีนาคม โดยยังรวมถึงการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาได้อย่างหลากหลายรุ่นมากที่สุดในตลาดรถยนต์ไทย โดยรถที่ได้ความนิยมสูงอยู่ในกลุ่มรถยนต์ Mercedes-AMG รถยนต์เอสยูวี และกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ทั้งนี้ ยอดขายในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ยังไม่รวมยอดจองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา

เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดจองเป็นอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์ลักชัวรีด้วยเช่นกัน และเช่นเดียวกับในตลาดโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จะยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมและตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเรามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 15 รุ่น ซึ่งรวมถึงรถยนต์รุ่นปลั๊กอินไฮบริดอีกหลายรุ่นด้วย เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจในปีนี้”

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ แชมป์ยอดขายรถยนต์ ไตรมาสที่ 1 ส่งมอบรถ 590,999 คันทั่วโลก เติบโตกว่า 20%

ยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในภูมิภาคและรายตลาดเป็นดังนี้

ยอดขายในตลาดเอเชีย-แปซิฟิกเพิ่มขึ้น 46.6% เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนที่มีการส่งมอบรถยนต์ 222,520 คันในไตรมาสที่ 1 คิดเป็นการเติบโตถึง 60.1% เฉพาะในเดือนมกราคมที่ผ่านมาสร้างสถิติยอดขายถึงเกือบ 100,000 ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ขณะที่ในยุโรป ท่ามกลางการมาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องในช่วงต้นปีนี้ เราสามารถทำยอดขายได้สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วคือเพิ่มขึ้น 1.8%

ในเยอรมนี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขาย 54,446 คัน (ลดลง 15.4%) ตลาดอเมริกาเหนือมียอดขายรวม 88,318 คัน (เพิ่มขึ้น 12.5%) ในจำนวนนี้ 78,256 คัน เป็นรถยนต์ที่ส่งมอบในตลาดสหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้น 15.5%) นอกจากนี้ ในตลาดสหรัฐอเมริกา เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเป็นแชมป์ยอดขายสูงสุดของตลาดรถยนต์ลักชัวรีในไตรมาสแรกอีกด้วย

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

สรุปจำนวนยอดขายรถยนต์นั่งและรถตู้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในตลาดโลก

จำนวนยอดขายทั่วโลก 581,270 คัน เพิ่มขึ้น 21.8% ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม

โดยยอดขายของรถยนต์ New S-Class ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยสถิติยอดจองมากกว่า 50,000 คัน นอกจากนี้ การเติบโตของยอดขายของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ยังแบ่งออกได้ดังนี้ รถยนต์รุ่น S-Class เพิ่มขึ้น 17% กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ SUV เพิ่มขึ้น 54.3% รถยนต์รุ่น E-Class ทั้งแบบรถยนต์นั่ง 4 ประตูและแบบเอสเตท เพิ่มขึ้น 23.9% ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของอัตราการเติบโตของยอดรถยนต์ส่งมอบยังแข็งแกร่งในระดับเลขสองหลัก สำหรับกลุ่มไฟฟ้าขนาดเล็กแบรนด์สมาร์ท (Smart) มียอดขายทั้งรถแบบ 2 ประตูและ 4 ประตูรวม 9,729 คัน มีอัตราการเติบโตรวมสูงถึง 65.9% จากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในเยอรมนี

จากสถานการณ์ที่หลายประเทศในยุโรปยังมีการล็อกดาวน์ กลุ่มรถตู้เพื่อการพาณิชย์มีอัตราเติบโต 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ยอดขายรวมของรถตู้สปรินเตอร์ วีโต้ วีโต้ทัวเรอร์ และ ซีตัน มีจำนวน 76,328 คัน

ในสหรัฐอเมริกาและในยุโรปทำยอดขายรถตู้เพื่อการพาณิชย์ได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในยุโรปรถตู้ไฟฟ้าสปรินเตอร์ โดยรถยนต์รุ่น eSprinterและeVito ถือเป็นรุ่นที่ช่วยเพิ่มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

“ยอดขายรถตู้ไฟฟ้า 1,200 คันในไตรมาสแรกนับว่าได้สร้างสถิติใหม่ของอัตราการเติบโตที่สูงถึง 150%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการตอกย้ำเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่จะผลักดันการรถใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัวรถตู้รุ่นซีตัน (Citan) ใหม่ โดยจะมีรุ่นที่เป็นรถไฟฟ้าตามมาในปีหน้า นั่นหมายความว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มี รถตู้ไฟฟ้าในทุกเซกเมนต์” มร. มาร์คุส ไบรท์ชแวท หัวหน้ากลุ่มรถยนต์ตู้กล่าวแสดงความมั่นใจ

ตารางแสดงภาพรวม ยอดขายรถยนต์และรถตู้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไตรมาสที่1 ปี2021

  • เมอร์เซเดส-เบนซ์* 581,270 เปลี่ยนแปลง +21.8%
  • smart 9,729 เปลี่ยนแปลง +65.9%
  • รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 590,999 เปลี่ยนแปลง +22.3%
  • รถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ (เพื่อการพาณิชย์) 76,328 เปลี่ยนแปลง +18.2%
  • รถยนต์และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ 667,327 เปลี่ยนแปลง +21.8%

รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยอดขายแบ่งตามภูมิภาคและตลาด

  • ยุโรป 192,302 เปลี่ยนแปลง +1.8%
  • ยอดขายในเยอรมนี 54,446 เปลี่ยนแปลง -15.4%
  • เอเชียแปซิฟิก 291,578 เปลี่ยนแปลง +46.6%
  • ยอดขายในประเทศจีน 222,520 เปลี่ยนแปลง +60.1%
  • อเมริกาเหนือ 88,318 เปลี่ยนแปลง +12.5%
  • ยอดขายในสหรัฐอเมริกา 78,256 เปลี่ยนแปลง +15.5%

*หมายรวมถึงรถยนต์รุ่น V-Class และ X-Class

ข่าวรถวันนี้ (24/03/2021) : เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉีกทุกกฎเกณฑ์โชว์วิสัยทัศน์แห่งอนาคต เผยโฉมบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์แนวใหม่มอบ “ประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำลึก” ให้ผู้ชม ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 4 เมษายนนี้

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ โชว์วิสัยทัศน์แห่งอนาคต นำเสนอ “ประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำลึก” ให้ผู้ชมที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42
เมอร์เซเดส-เบนซ์ย้ำความมุ่งมั่นในการก้าวข้ามทุกขีดจำกัดเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด ด้วยการเชื่อมต่อประสบการณ์แบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
จัดเต็มไฮไลต์ 5 รุ่นได้แก่  Mercedes-Benz E-Class Coupé และ Mercedes-Benz E-Class Cabriolet โฉมใหม่ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์นำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในไทย พร้อมด้วย Mercedes-Benz The new E-Class, Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC และ Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ โชว์วิสัยทัศน์แห่งอนาคต ย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้รถยนต์ในไทย ที่งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42” ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี ด้วยการสร้างสรรค์บูธรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์โฉมใหม่ที่จะเซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วย “ประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำลึก” พร้อมโชว์ไฮไลต์เด็ดของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์หรูอย่างต่อเนื่อง 5 รุ่นได้แก่ Mercedes-Benz E-Class Coupé และ Mercedes-Benz E-Class Cabriolet สองยนตรกรรมสปอร์ตโฉมใหม่ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์นำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในไทย พร้อมด้วย Mercedes-Benz The new E-Class, Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC และ Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังพร้อมมอบแคมเปญพิเศษ รับเลยทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 25,150 บาท (มูลค่า ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564) สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ซื้อและรับมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รุ่นที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 15 เมษายน 2564 ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

 

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การก้าวข้ามขีดจำกัดคือสิ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และในปี 2564 จะยังเป็นปีของการเดินทางต่อไปบนเส้นทางที่เราพร้อมพาลูกค้าไปพบกับความพิเศษ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และนวัตกรรมที่บรรจุไว้ภายในรถยนต์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน นี่คือที่มาของการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ในวันนี้ ให้ฉีกทุกกฎเกณฑ์ไปจากที่เราได้เคยได้ทำมา ทั้งเพื่อเว้นระยะห่างและสร้างความปลอดภัยภายใต้สถานการณ์โควิด-19 พร้อมทั้งเซอร์ไพรส์ผู้ชมทุกคนด้วยวิสัยทัศน์แห่งอนาคตจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยเราเลือกตีความอนาคตให้กลายเป็นความจริงใหม่ในยุคปัจจุบัน นำเสนอออกมาเป็น “ประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำลึก” ที่เชื่อมโยงทุกคนให้สามารถเข้าถึงทุกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ทุกรุ่นที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษที่ทุกคนรอคอยตลอดช่วงเวลาของการจัดงาน ทั้งที่งานมอเตอร์โชว์และที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ”

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

 

ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเชื่อมต่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ด้วยการพลิกโฉมหน้าการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายในงานใหม่ทั้งหมด ทั้งในเรื่องของการนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ และประสบการณ์การพูดคุยกับ “ดิจิทัลไกด์” ที่ครอบคลุมและครบครันตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะการนำเสนอรถยนต์ที่ผสานเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดภายใต้กลยุทธ์ “Electric First” พร้อมทั้งพาผู้เข้าร่วมงานไปสัมผัสกับนวัตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่าน “ประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำลึก” (Immersive Digital Experience) ที่จะฉีกทุกกฎการเข้าชมงานมอเตอร์โชว์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

ไฮไลต์รถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42

“Mercedes-Benz E 200 Coupé AMG Dynamic” ยนตรกรรมที่รังสรรค์ขึ้นอย่างชาญฉลาด ด้วยการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sensual Purity” ที่ผนวกความเป็นสปอร์ตคูเป้เข้ากับความหรูหราได้อย่างน่าทึ่ง โดยมาพร้อมขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบขนาด 1,991 ซีซี พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า พร้อมให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 7.6 วินาที มอบความเร็วสูงสุดที่ 237 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Mercedes-Benz E 200 Coupé AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 4,550,000 บาท

“Mercedes-Benz E 200 Cabriolet AMG Dynamic” ยนตรกรรมสปอร์ตเปิดประทุนสุดหรูหราที่พร้อมเผยความสง่างามให้โลกได้เห็น และถ่ายทอดความสปอร์ตได้อย่างเหนือชั้นในทุกมุมมอง โดยมาพร้อมขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบขนาด 1,991 ซีซี พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า พร้อมให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 7.9 วินาที มอบความเร็วสูงสุดที่ 234 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Mercedes-Benz E 200 Cabriolet AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 5,140,000 บาท

“Mercedes-Benz The new E-Class” รถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์กับดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยวที่พร้อมมอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ และสะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยว โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบขนาด 1,991 ซีซี ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีแบบปลั๊กอินไฮบริด เจเนอเรชันที่ 3 ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.7 วินาที อีกหนึ่งทางเลือกคือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 1,950 ซีซีพร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐาน EURO6 ให้พละกำลัง 194 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7.3 วินาที ถ่ายทอดพลังจากเครื่องยนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 6.5%

 

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

Mercedes-Benz The new E-Class มีวางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่

  1. Mercedes-Benz E 300 e Avantgarde ราคา 3,190,000 บาท
  2. Mercedes-Benz E 220 d AMG Sport ราคา 3,540,000 บาท
  3. Mercedes-Benz E 300 e AMG Dynamic ราคา 3,770,000 บาท

“Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC” ยนตรกรรมคอมแพ็คเอสยูวีสายพันธุ์แรงที่มาพร้อมความอเนกประสงค์และดีไซน์สปอร์ตตามปรัชญาของ Mercedes-AMG ในทุกรายละเอียด โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1,991 ซีซี พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 306 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที จึงมอบอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.1 วินาที

Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC วางจำหน่ายในราคา 3,190,000 บาท

“Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive” ที่สุดแห่งยนตรกรรมเอสยูวีรุ่นแรกในไทยที่ผสานเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเข้ากับความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์ดีเซล พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชันที่ 3 พร้อมมอบพละกำลังสูงสุดถึง 320 แรงม้า ให้อัตราเร่งที่พุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่พร้อมทลายทุกข้อจำกัดในทุกเส้นทางและตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive วางจำหน่ายในราคา 4,699,000 บาท

นอกจากนี้ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังร่วมมือกับหอการค้าเยอรมัน-ไทยและบริษัทชั้นนำจากประเทศเยอรมนีที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ประกาศเปิดโครงการ “Clean Air Initiative” อย่างเป็นทางการ ด้วยจุดมุ่งหมายในการผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ ผลิตสินค้าและบริการที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์ โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์จะนำโครงการ “Charge to Change” ที่ได้ริเริ่มขึ้นในปีที่แล้วและได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมในการช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วประเทศไทยหันมาชาร์จเพื่อเปลี่ยนโลกร่วมกัน มารวมอยู่ในโครงการ “Clean Air Initiative” ในครั้งนี้ด้วย

ข่าวรถวันนี้ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉมบูธแนวดิจิทัลสุดล้ำใน มอเตอร์โชว์2021

ผู้สนใจสามารถเข้าชมบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น ได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ.