NEW MG EP รถไฟฟ้า 100% เปิดตัวแล้ว
ข่าวรถวันนี้ : NEW MG EP รถไฟฟ้า 100% เป็นรถ Station Wagon ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ของเอ็มจี ในยุโรปจะทำตลาดในนาม MG5 Station Wagon ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% เหมือนกัน อาจจะต่างกันตรงที่แร็คหลังคาและอุปกรณ์ตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
MG EP มีทุกสิ่ง ครบครันทุกอย่าง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของทุกคน ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ให้ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) พร้อมสำหรับทุกรูปแบบการใช้งาน ขับเคลื่อนได้ไกล ประหยัดได้มากกว่า มีต้นทุนการบำรุงรักษา และต้นทุนการเป็นเจ้าของ (COST OF OWNERSHIP) ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ในสไตล์ Station Wagon ที่มีพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระ ที่กว้างขวาง เพื่อสามารถรองรับการใช้งานในจุดประสงค์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบโดยเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ทำให้มีพื้นที่ความจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ Suspended Wing Grille ที่ตกแต่งด้วยโครเมียมและ Piano Black ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design และไฟเบรก ดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยด์ดีไซน์แบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุผิวสัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ดีไซน์เส้นสายแบบ CARBOXNYXE แสดงให้เห็นถึงความประณีตในทุกรายละเอียด เบาะคู่หน้าออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Anti-Curved Surface Design) ซึ่งโอบรับกับเส้นสายสรีระได้เป็นอย่างดี นั่งสบายตลอดเส้นทาง อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก อาทิ หน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล (Digital Multi-Function Display) ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงผลได้อย่างสวยงามและชัดเจน พร้อมระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล กระจกมองหลังตัดแสง กระจกไฟฟ้าแบบ One Touch Up-Down ด้านคนขับ ที่จะทำให้การใช้งาน มีความง่ายมากยิ่งขึ้น
MG EP มาพร้อมการติดตั้งเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ครบครันตามมาตรฐาน โดยแต่ละระบบจะมีการทำงานผสานกัน ทำให้เกิดความปลอดภัยและมีความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System)
• ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) จุดยึดเบาะ ISOFIX เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
MG EP ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion มีความจุรวมถึง 50.3 kWh ทำให้สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ระยะทางไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC) นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของ NEW MG EP ยังได้รับการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น ระดับ IP67 พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ภายใต้สภาวะต่างๆ
ในด้านของสมรรถนะ NEW MG EP ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมแรงบิด 260 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ไฟฟ้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 8.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport
NEW MG EP สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ Quick Charge แบบ DC ผ่านหัวชาร์จประเภท CCS Combo 2 โดยชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 80% ในระยะเวลาประมาณ 40 นาที และ Normal Charge แบบ AC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 100% ผ่าน MG Home Charger ที่เป็นหัวชาร์จ TYPE II ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จนั้น จะขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) ด้วย KERS Mode (Kinetic Energy Recovery System) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ
ช่วงลางหรือระบบกันสะเทือน แบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีมทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน
NEW MG EP มาพร้อมกับการดูแลรักษาที่ง่าย และมีค่าใช้จ่ายต่ำ ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ได้จากการชาร์จผ่าน MG Home Charger ง่ายๆที่บ้าน โดยสามารถชาร์จจาก 0%-100% และมีค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 200 บาท*ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทางตลอดระยะเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน จะมีค่าใช้จ่ายรวมไม่เกิน 8,000 บาท อีกทั้งการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ในระยะยาว MG ยังนำเทคโนโลยีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ Module มาใช้ ในกรณีหากจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษานั้น สามารถแยกเปลี่ยนเฉพาะ Module นั้นๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งชุด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้
สำหรับในตลาดเมืองไทย MG5 EV ก็จะมีคู่แข่งหลัก ๆ เพียง Nissan Leaf และก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับค่าย MG ในตลาดบ้านเราเพราะลำพัง MG ZS EV ก็มียอดขายมากกว่า Nissan Leaf ซึ่งอาจเป็นเพราะ ราคาจำหน่ายที่สูงกว่า ประกอบกับ 10 กว่าปีมานี้ ค่ายนิสสัน สร้างมีการตลาดยุคใหม่ ที่ไม่ค่อยจะเข้าใจความต้องการและไม่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากมายเหมือนในอดีต
ข่าวรถวันนี้ :New MG EP
มิติตัวรถ
- ยาว 4,540 มม.
- กว้าง 1,820 มม
- สูง 1,540 มม.
- ระยะฐานล้อโดยประมาณ 2,670 มม.
- ความจุแบตเตอรี่ 52.5 kWh
- พละกำลังมอเตอร์: 154 แรงม้า
- อัตราเร่ง 0-100 ใน 7.7 วินาที
- มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 5.7 kWh/กิโลเมตร