นิสสัน เชิดชูเกียรติพนักงาน 217 คน อายุงานกว่า 5,500 ปี

ข่าวรถวันนี้ : นิสสัน เชิดชูเกียรติพนักงาน 217 คน อายุงานกว่า 5,500 ปี

นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดงานแสดงความขอบคุณแก่พนักงานเกษียณอายุที่มีอายุครบ 60 ปี จำนวน 28 ท่าน และพนักงานที่มีอายุงานตั้งแต่ 10 – 40 ปีที่ร่วมทำงานเคียงข้าง นิสสัน ประเทศไทย มาอย่างยาวนาน จำนวน 189 ท่าน รวมอายุงานทั้งสิ้นกว่า 5,500 ปี ภายในพิธีเกษียณอายุและพิธีประกาศเกียรติคุณพนักงาน ปี 2562

แนวความคิดในการจัดงานในปีนี้ ได้แก่ ธีม The Diamond หรือ “เพชรแท้” เพื่อเป็นการเชิดชูความภักดีต่อองค์กร ตลอดจนความทุ่มเทของเหล่าพนักงานนิสสัน ทั้ง 217 ท่าน ที่ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่นิสสันในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

นิสสันจัดงานดังกล่าวขึ้นทุกปีเพื่อเชิดชูเกียรติพนักงานที่มีอายุงานตั้งแต่ 10 – 40 ปี จำนวน 189 ท่าน และพนักงานที่เกษียณอายุที่มีอายุครบ 60 ปี จำนวน 28 ท่าน รวมอายุงานทั้งสิ้นกว่า 5,500 ปี ที่ได้ร่วมทำงานเคียงข้างกับ นิสสัน ประเทศไทย

ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ความเข้มแข็งที่แท้จริงของบริษัทเกิดจากความทุ่มเทของเหล่าพนักงาน ซึ่งพวกเราทุกคนได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงจากความมุ่งมั่นและความหลงใหลของพนักงานที่ช่วยผลักดันให้องค์กรของเราก้าวหน้าและเติบโต”

หนึ่งในความสำเร็จของนิสสัน ประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา คือ ยอดขายของนิสสัน นาวารา ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 11 ปี รวมถึงยอดขายของนิสสัน อัลเมร่า และนิสสัน มาร์ช ที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ถึงแม้จะเป็นช่วงที่สถานการณ์ตลาดมีการแข่งขันสูงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ความสำเร็จเหล่านี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากปราศจากความทุ่มเทและความจงรักภักดีของพนักงานนิสสันทุกคนที่เป็นหัวใจสำคัญขององค์กร

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ตอกย้ำความสำคัญของเหล่าพนักงานของนิสสัน ประเทศไทย ได้เป็นอย่างดี คือการเปิดตัวรถยนต์ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ เครื่อง 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยว ซึ่งผลิตขึ้นจากฐานการผลิตของนิสสัน บนถนนบางนา-ตราด ที่พร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าชาวไทยแล้ววันนี้ และลูกค้าในภูมิภาคในเร็ว ๆ นี้

นิสสันจะยังคงเดินหน้าลงทุนในการพัฒนาทักษะของพนักงาน ผ่านโครงการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานในการบริการลูกค้าชาวไทยอย่างมืออาชีพ ไปพร้อมกับธุรกิจที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง นาราสิมัน กล่าวทิ้งท้าย