นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่
รีวิวทดสอบ : นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ปิคอัพมาดสปอร์ตโฉมใหม่ ที่ตกแต่งเร้าใจกว่าเดิม มาพร้อม เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบาย
การกลับมาทำตลาดอีกครั้งสำหรับ นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความนิยม และความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบปิคอัพ ตกแต่งแบบครบเครื่องจากโรงงาน เพราะได้ชุดแต่งโรงงานที่มีมาตรฐาน และส่วนใหญ่ รุ่นที่ตกแต่งมาจากโรงงานจะเป็นรุ่นพิเศษ ที่ผลิตในจำนวนจำกัด หรือผลิตในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เท่านั้น
พูดถึง นาวารา โฉมล่าสุด ปัจจุบันยังไม่มีรุ่น แบล็ค อิดิชั่น หรือรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง คาลิเบอร์ ทำตลาดเหมือนในอดีต ก่อนหน้านี้ใครอยากได้รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ตกแต่งพิเศษ จะมีในเกรด หรือ รุ่น โปรซีรีส์ (PRO2X ) เท่านั้น การกลับมาลุยตลาดแบล็ค อิดิชั่น ครั้งนี้ ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ชอบปิคอัพตกแต่งมาดสปอร์ตมากขึ้น
ครั้งนี้ แอดมิน มีโอกาสร่วมทริปขับทดสอบ นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ในรุ่น 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ซึ่งจุดเด่นของรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ในแบล็ค อิดิชั่น ก็คือ เครื่องยนต์ ดีเซล คอมมอนเรล ไบเทอร์โบ หรือ เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังมากถึง 190 ม้า เรียกได้ว่า ในเซกเมนท์เดียวกัน หรือราคาพอ ๆ กัน ยังไม่มีใครจัดเต็ม เครื่องยนต์ตัวท็อป ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้ยังติดตั้งใน นาวารา โปรซีรีส์ ทั้ง PRO4X และ PRO2X รวมถึง PPV หรูอย่าง Terra ด้วย ซึ่ง คุ้มมาก!!
เส้นทางการทดสอบวันนี้ นิสสัน ปักหมุดไว้ที่ริมทะเล สัตหีบ กับระยะทางการขับเกือบ 300 กิโลเมตร แน่นอนว่า ได้ขับกันเต็มที่จุใจสายทดสอบแน่นอน ไม่ใช้ให้ขับกันแบบตดไม่หายเหม็น แล้วก็กลับ เชียร์ ๆ อวย ๆ แบบไร้จินตนาการ ซึ่งต้องขอบคุณ ทีมประชาสัมสัมพันธ์ค่ายนิสสัน ที่เข้าใจการทำงานอย่างสื่อ และทำงานร่วมกับกับสื่อมวลชน อย่างมืออาชีพ
ก่อนออกเดินทาง มาดูการตกแต่งภายนอกของ นาวารา แบล็ค อิดิชั่น กับชุดแต่งสีดำดุดัน ตั้งแต่กระจังหน้า แบบ interlock กระจกข้าง มือจับประตู กันชนหน้าด้านล่าง มือจับประตูท้าย และซุ้มล้อ นอกจากนี้ ยังติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลามที่ดูทันสมัย และที่ขาดไ่ม่ได้ใน แบล็ค อิดิชั่น คือการคาดลายสติ๊กเกอร์ตกแต่งสีดำ รวมถึง ล้ออัลลอยสีดำ ลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ใหญ่ขึ้นกว่า คาลิเบอร์ ในรุ่นมาตรฐานที่เป็นล้อขนาด 17 นิ้ว ภาพรวมก็คือการอัพเกรดการตกแต่งให้ดูพิเศษ ดูสปอร์ต ดุดันขึ้นกว่าเดิม สร้างความแตกต่างมากขึ้นนั้นเอง ในลายละเอียดของสติ๊กเกอร์ ก็จะดูแตกต่างกันไปจาก แบล็ค อิดิชั่น ในอีดต ทั้งลวดลายและตำแหน่งที่ติดตั้งบางจุด
ด้านห้องโดยสารของ นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ ได้รับการตกแต่งให้รับกับรูปลักษณ์สปอร์ต เน้นโทนสีดำ อาทิ ช่องแอร์ มือจับประตู ที่วางแก้ว ฐานเกียร์ ที่พักแขนที่ประตู และขอบประตู มาตรวัดเรือนไมล์ขนาดใหญ่ มาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบหน้าจอสี แต่ที่ดูจะถูกใจแอดมินก็คือ พวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ทรงสปอร์ต ที่ทันสมัย เสียแค่ปรับได้เพียง 2 ทิศทาง รวมถึงชุดเครื่องเสียงที่เพิ่ม กล้อง 360 องศา หรือ กล้อง รอบทิศทางมาให้ นอกจากรายละเอียดของภาพที่ชัดเจนแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยขณะถอยจอดในพื้นที่แคบ ๆ หรือขับขี่ในพื้นที่ ๆ มีความเสียงกับการเฉี่ยวชน หรือเบียดฟุตบาท ตกหลุม นั่นเอง รวมถึงเซ็นเซอร์ MOD เตือนวัตถุเคลื่อนไหวผ่านรอบรถ อีกหนึ่งฟีเจอร์ ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ หน้าจอเครื่องเสียงขนาด 8 นิ้ว ในนาวาราแบล็ค อิดิชั่น ใหม่ ยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ด้วย มีช่องชาร์จไฟและช่องเชื่อมต่อทั้งแบบ USB และ Power Outlet 12 โวลต์ รวมถึงระบบปรับอากาศ เป็นชุดควบคุมแอร์แบบปรับอุณหภูมิแยกส่วนซ้าย/ขวา
ส่วนเบาะนั่ง ก็ถือเป็นจุดเด่น แม้ว่าจะเป็นเบาะที่หุ้มด้วยผ้าสีดำ และยังไม่ได้ปรับความคุมด้วยระบบไฟฟ้า แต่เรื่องของความนุ่มแน่นของตัวเบาะ ขนาดความยาวของเบาะรองนั่ง และส่วนเว้าโค้งของพนักพิงรวมถึงปีกเบาะที่โอบกระชับลำตัว ทำให้การขับเดินทางในทริปนี้ของแอดมิน สัมผัสได้ถึงความสบาย ไม่เมื่อยล้า ถ้าใครเคยใช้ เคยนั่งรถยนต์นิสสัน ก็จะพบว่าการออกแบบเบาะนั่ง เป็นจุดเด่นมาโดยตลอดอยู่แล้ว สำหรับห้องโดยสารด้านหลัง รายละเอียดด้านการออกแบบของเบาะนั่ง เหมือนกับเบาะคู่หน้าทุกอย่าง รองรับผู้โดยสาร 3 คน มาพร้อมกับหัวหมอน 3 ตำแหน่งปรับสูง/ต่ำ ได้ พร้อม Isofix สำหรับติดตั้งคาร์ซีท 2 ตำแหน่ง ส่วนคอนโซลกลางด้านหลัง ติดตั้งช่องแรงลมแอร์ ให้ความเร็วได้เร็วและทั่วถึง มาพร้อมกับ ช่องเสียบชาร์จไฟด้านหลัง แบบ USB 1 ตำแหน่ง เสียดายที่ร่องหรือรางที่ติดตั้งใต้ช่องแอร์หลัง ไม่สามารถใช้เป็นที่วางโทรศัพท์ได้
ขุมพลังที่ให้มา ต้องบอกว่า ปังปุริเย มาก ๆ สำหรับเครื่องยนต์ YS23DDTT แบบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร DOHC เทอร์โบคู่ บล็อคนี้ เพราะคู่แข่งในตลาด ส่วนใหญ่จะนำเครื่องเล็ก ความจุและกำลังน้อยกว่า มาทำตลาดในกลุ่ม กระบะขับ 2 ยกสูง โดยเครื่องบล็อกนี้ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร (Nm) ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 7 จังหวะ พร้อมแมนนวลโหมด (M mode) เพื่อความเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ควบคุมได้ดังใจ สามารถรองรับน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ B7, B10 และ B20 หรือทุกแบบ
การทดสอบของเราครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่เราได้ทดสอบในสภาพถนนที่มีความหลากหลาย เพราะเป็นจังหวะที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก มีน้ำท่วมขังหลายจุด ซึ่งแอดมินเอง ก็มีโอกาสได้วาดลวดลายหลังพวงมาลัย ท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง สิ่งที่พอให้เราอุ่นใจอีกอย่างคือ ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวที่ติดตั้งมาให้ ซึ่งผมเองต้องตรวจเช็คให้มั่นใจว่าระบบมันเปิดอยู่ ฝนหนักถนนลื่นแบบนี้ ความพร้อมของรถ ประสบการณ์ ทักษะของผู้ขับ พร้อมกับการขับที่ไม่ประมาท ก็จะทำให้เราทดสอบรถคันนี้ได้เต็มขีดความสามารถมากที่สุด
ด้านอัตราเร่งที่ทำได้ ต้องใช้คำว่าเหลือเฟือ ไม่ต้องไปลดโหลดของเครื่องยนต์ด้วยการติดตั้งพัดลมไฟฟ้า หรือ ปรุงแต่งอะไรให้มาก กดคันเร่งออกไปรถก็พุ่งทะยานตามรอบของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็ว รู้สึกถึงความหนักแน่น ทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไป ความเร็วปลายทะลุ 160 กม./ชม. สบาย ๆ
การออกแบบแหนบใต้เพลา ของ นาวารา ก็ทำให้แอดมินเองได้เห็นจุดเด่น ชัด ๆ ในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขับลุยฝนที่ต้องเจอกับแรงลมเข้ามาปะทะตัวรถพอสมควร รวมถึงการขับขึ้นไปบนถนนลอยฟ้าบูรพาวิถี ช่วงที่ใช้ความเร็วสูงเจอลมกันโชคแรง ๆ รถก็ยังทำได้ค่อนข้างนิ่ง ทำให้คนขับไม่รู้สึกเป็นกังวล อาการส่ายเมื่อเจอแรงลมปะทะ แทบไม่มีให้เห็น
จังหวะบั๊มหรือรีบาวด์ สำหรับอาการยืดยุบของตัวรถ ก็ถือว่าให้ตัวได้ดี เหมือนกับปิคอัพยุคใหม่ ที่เซทมาให้บรรทุกก็ได้ ท่องเที่ยวก็ดี มีความเอนกประสงค์มากขึ้น
สำหรับในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ทั้งใน King Cab และ Double Cab แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง Calibre จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDT 2.3 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VGS พร้อมเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ซึ่งในรุ่นนี้แอดมิน ยังไม่ได้ขับ จึงไม่ได้นำมาถ่ายทอดความรู้สึกให้กับเพื่อน ๆ ทราบ
ด้านความแข็งแกร่ง นาวารา ใช้โครงสร้างแบบ โมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน หรือ (Fully Boxed Frame) ที่มีชื่อเสียงของนิสสัน มีพื้นที่บรรทุกเยอะ กระบะท้ายขนได้สะดวกขึ้นมีการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์งานบรรทุกทั้งใหญ่และเล็ก ได้ดีขึ้น
สรุปได้ว่า นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ เป็นปิคอัพที่ตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่างมากอย่างครบเครื่อง หล่อตั้งแต่ล้อหมุนออกจากโชว์รูม ที่สำคัญสุดคือ เครื่องยนต์ทรงพลัง ตอบสนองดีมาก สำคัญสุดคือไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจ เป็นเครื่องยนต์อีกบล็อคที่มีความเสถียรและใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ดี เพราะส่วนตัวผมเองมองว่า เครื่องยนต์ดีเซลยุคนี้ ควรอยู่ที่ประมาณ 2.3-2.5 ลิตร จะลงตัวมาก ไม่ต้องอาศัยบูสต์หรือแรงอัดเทอร์โบที่หนักจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ สึกหรอหรือเสียหาย ได้เร็วกว่า ส่วนฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่ให้มาก ดูแล้วครบตามความต้องการด้านการใช้งาน ส่วนระบบความปลอดภัยชั้นสูง แม้ว่ายังไม่มี ซึ่งไม่ต่างกับเพื่อน ๆ ในตลาดกลุ่มนี้
ราคาจำหน่ายของ นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ ใหม่ รุ่นปี 2022 ในราคาเริ่มต้นของแต่ละรุ่น
- Double Cab Black Edition Double cab 7AT ราคา 934,000 บาท
- Double Cab Black Edition Kingcab 6MT ราคา 884,000 บาท
- King Cab Black Edition Doublecab 7AT ราคา 849,000 บาท
- King Cab Black Edition Kingcab 6MT ราคา 799,000 บาท
นาวารา Double Cab และ King Cab มาพร้อมการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 ก.ม.**
- นิสสัน นาวารา 2022 PRO-4X และ PRO-2X รับข้อเสนอดอกเบี้ย 0.79% นาน 48 เดือน
- นิสสัน นาวารา 2022 Double Cab, King Cab Calibre, และ Black Edition: รับข้อเสนอดอกเบี้ย 0%
- นิสสัน นาวารา 2022 King Cab: ดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 21,900 บาท หรือ ผ่อนชำระในอัตรา 6,299 บาทต่อเดือน
- นิสสัน นาวารา 2022 Single Cab: ดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 21,900 บาท หรือ ผ่อนชำระในอัตรา 5,799 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ผู้จำหน่ายนิสสัน 177 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์บริการลูกค้านิสสัน โทร. 02 401 9600 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย