โตโยต้าไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ดับเบิ้ลแค็บ 4×4 โฉมใหม่ มีดีอะไรบ้าง

ทดลองขับ : โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ดับเบิ้ลแค็บ  ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,239,000 บาท

เว็บไซต์ คาร์อินเนอร์ ร่วมกิจกรรมทดลองขับ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ (Toyota Hilux Revo Rocco) รุ่นท็อปสุด แบบ 4 ประตู ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ TOYOTA Driving Experience Park ในการทดสอบระยะสั้น ๆ ซึ่งเป็น การขับครั้งแรกของเรา สำหรับไฮลักซ์  รีโว่ 2020 ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ล่าสุด ทั้งในแบบออฟโรดและออนโรด

โดยมี นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นประธานเปิดกิจกรรมขับรถทดสอบโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ พร้อมการจัดแสดงรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ณ TOYOTA Driving Experience Park

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ ร็อคโค่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีดีไซน์โดดเด่น ชุดตกแต่งมาดลุย ดุดัน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมในยามว่างและมีงานอดิเรก ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัย ลูกค้าจึงมีความต้องการรถที่มีสมรรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบายดีเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง ไฮลักซ์ รีโว่ ROCCO ดับเบิ้ลแค็บ มีการออกแบบภายนอกใหม่ ไฟหน้า BI – Beam LED รูปทรงใหม่ส่องสว่างกว้างและไกลขึ้น ทั้งไฟ สูง/ต่ำ ส่งผลให้ทัศนวิสัยยามค่ำคืนดีมาก กันชนหน้าและกระจังหน้าออกแบบพิเศษ เพิ่มความดุดันและโดเด่นในสไตล์ ร็อคโค่ แม้ว่าจะไม่เข้มดุดันเหมือน ร็อคโค่เดิม แต่ก็เป็นการผสมผสานความหรูหราและความดุดันลงไป ให้ดูต่างจากเดิม ที่เน้นดุดันเป็นหลัก

ห้องโดยสาร ครบเครื่องมากขึ้น คอนโซลหน้าตกแต่งทูโทน ติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ใหม่ แสดงข้อมูลครบถ้วน คมชัด สวยงาม  ด้านเครื่องเสียงรองรับทุกความบันเทิง  สามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay  พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน กุญแจรีโมทใหม่ ดีไซน์พิเศษเฉพาะ  ร็อคโค่ ติดตั้ง ระบบ Push Start  มาให้ สำหรับเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ ควบคุมด้วยระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง  นอกจากนี้ยังมีช่องต่อไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V…เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง   กระจกไฟฟ้าปรับขึ้น/ลง อัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ  รวมถึงอุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงเปิด/ปิด ฝาท้ายกระบะ แม้จะไม่หนืดหรือชะลออย่างที่คิด แคต่ช่วงปิด ก็สะดวกรวดเร็วดี

รีโว่ ใหม่ทุกรุ่น จะได้รับการติดตั้ง แอปพลิเคชัน T-Connect by Toyota เพื่อติดตามสถานะการส่งมอบรถของท่านผ่านโทรศัพท์มือถือ และเพิ่มความอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลด้วย ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) หรือ การติดตามการโจรกรรม การแสดงข้อมูลการขับขี่ Trip Report การเช็กตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอดเวลาในทุกเส้นทาง Toyota Tube ที่จะเป็นสื่อแนะนำการใช้รถยนต์ในรูปแบบวีดีโอบนโทรศัพท์มือถืออีกด้วย โดยในช่วงนี้ ยังไม่มีค่าใช้จ่ายรายด้วยอีกด้วย

เครื่องยนต์ GD เจเนเรชั่น 2 หรือเรียกว่า “GD Super POWER”  ให้แรงบิดสูงในรอบกว้าง / ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น / ไอเสียต่ำ / เครื่องยนต์เงียบ เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร บล็อคนี้ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า หรือ (150 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ / นาที โดยมีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน – เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ / นาที นอกจากนี้ยังพัฒนาบาลานซ์ชาร์ป ใหม่ ให้มีการทำงานที่นุ่มนวลขึ้น ช่วยลดอาการสั่นของเครื่องยนต์ลง จากการติดตั้งเทอร์โบแปรผัน ลูกใหม่แบบบอลแบริ่ง ขนาดใหญ่ขึ้น จาก 48 มม. เป็น 58 มม.  ช่วยให้อัดอากาศได้มากขึ้น ทำให้ได้ความแรงที่ต่อเนื่องและตอบสนองดีเยี่ยม เทคโนโลยี i-ART ควบคุมการฉีดน้ำมัน ใช้ระบบเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมแต่ละหัวฉีดอย่างอิสระ แม่นยำ ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรลที่มีแรงดันสูงขึ้นจากเดิม 220 MPa เป็น 250 MPa ช่วยให้น้ำมันเป็นละอองฝอยละเอียด ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันขึ้นกว่าเดิม เครื่องยนยต์บล็อคนี้ยังสามารถรองรับน้ำมัน B10 และ B20 ได้ด้วย

เครื่องยนต์บล็อกนี้ แม้จะไม่กระชากจนหลังติดเบาะ แต่มันก็ทำให้รู้สึกว่า เป็นเครื่องยนตที่มีกำลังแรงม้าแรงบิดมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน น่าจะส่งผลในเร่องของการขับขี่ การเร่งแซง และการเร่งออกตัวได้ดี รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เราได้รับข้อมูลมาว่า ประหยัดขึ้นอีก 7% อีกด้วย ด้านระบบขับเคลื่อน หรือชุดส่งกำลัง ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะแบบเดิม แต่ได้รับการพัฒนา ช่วงการทำงานของล็อคอัพ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ในชุดเกียร์ใหม่ ให้กว้างขึ้น ทำให้จังหวะการตัดต่อของเกียร์รวดเร็วและนุ่มนวลขึ้นอย่างชัดเจน ทันทีที่ปรับระบบขับเคลื่อน 4  ล้อ ก็พบว่า ร็อคโค่ ที่อัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่ ยังพัฒนาระบบต่าง ๆ หลายจุด  เริ่มจากลดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ จากเดิม 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที รวมถึงยังพัฒนาระบบดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็น

• ระบบ Acceleration Characteristic ลดอาการกระชากเมื่อออกตัว
• รอบเดินเบาลดลง ลุยเส้นทางออฟโรดได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด
• ระบบ Auto Limited Slip Differential แก้ปัญหารถติดหล่ม และล้อหมุนฟรี
• ระบบแสดงทิศทางล้อ มั่นใจทุกสภาวะ ลุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบช่วงล่างใหม่ ที่เรียกว่า SUPERFLEX SUSPENSION ให้ความนุ่มสบาย  โดยโช้คอัพปรับจูนใหม่ พร้อมแหนบกันสะเทือน วัสดุ High – Tensile Steel ที่เพิ่มความนุ่มนวล และยังรองรับการบรรทุกหนักได้ดีเยี่ยม โดยแหนบปรับเปลี่ยนเป็ฯแบบ 3 แผ่น ทดแทนแหนบ 5 แผ่นเดิมเพื่อลดอาการสะเทือน ซี่งหลังจากทดลองขับในสนาม พบว่า แหนบหลังที่ปรับเปลี่ยนมาใหม่ มีความนุ่มนวลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังยึดเกาะถนนได้ดี ควบคมควงมาลัยได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะการเลี้ยวเข้าโค้ง การขับแบบสลาลอมเปลี่ยนเลนกระทันหัน และยังให้ตัวจากการยืดยุบของช่วง ในสนามทดสอบออฟโรด ได้อย่างดีด้วยอีกด้วย นอกจากนี้ระบบควบคุมพวงมาลัย VFC (Variable Flow Control)   ช่วยให้น้ำหนักพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็วช่วยให้ควบคุมได้อย่างมั่นใจ ลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่  ได้ลองแล้ว หลังจากเร่งออกตัว พวงมาลัยก็เบาลงชัดเจน และยังแปรผันตามความเร้ซของรถ ช่วยให้ขับสบาย ใช้งานในเมืองคล่องตัวและนอกเมืองแขน ไม่เมื่อยล้าอีกด้วย

ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นสูง Toyota Safety Sense มาใช้ในรถกระบะ โตโยต้าในประเทศไทย ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจและปลอดภัยทุกเส้นทาง  อาทิ

• Pre-Collision System…ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
• Land Departure Alert…ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
• Dynamic Radar Cruise Control…ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานเอาไว้ครบ ได้แก่

• ระบบความปลอดภัย SAFETY
• ระบบป้องกัน ACTIVE SAFETY
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti – lock Braking System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake – force Distribution) กระจายแรงเบรกให้สมดุลขณะป้องกันอาการท้ายสะบัด
• กล้องมองหลัง ถอยจอดมั่นใจ ปลอดภัยยิ่งขึ้น
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill – start Assist Control) ช่วยเพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4  เพื่อป้องกันการลื่นไถลลงเนินชันหรือทางลื่นชั่วขณะ ขณะถอนเท้าออกจากเบรก
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) ลงเนินชันมั่นใจ ด้วยความเร็วสม่ำเสมอโดยไม่ต้องแตะเบรก
• ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ชวยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติในสภาวะฉุกเฉิน
• ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ป้องกันรถเสียการทรงตัว เมื่อใช้งานลากจูงหรือเผชิญลมพัดรุนแรง

ระบบปกป้อง PASSIVE SAFETY

• ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง รอบคัน ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง / ม่าน 2 ตำแหน่ง / เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
• โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ช่วยดูดซับแรงกระแทกรอบด้านได้ดีเยี่ยม

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ใหม่ มี 4 รุ่นย่อย

•  Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 Rocco AT ราคา 949,000 บาท
• Smart Cab 4×4 2.8 Rocco AT ราคา 1,079,000 บาท
• Double Cab Prerunner 2×4 2.4 Rocco AT ราคา 1,079,000 บาท
• Double Cab 4×4 2.8 Rocco AT ราคา 1,239,000 บาท

• ลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ทุกคัน จะได้รับแคมเปญช่วงแนะนำ และแพ็คเกจการรับประกันคุณภาพ เพิ่มเติมเป็น 5 ปี 150,000 กม.  พร้อมค่าแรงเช็กระยะฟรีไปจนถึง 100,000 กม. รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท เพิ่มเติมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้ากับ Toyota Privilege More

สรุปภาพรวม ของ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ในรุ่นดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ พบว่า หน้าตาโดดเด่นทันสมัยมากขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัย มีมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควร เครื่องยนต์ทรงพลัง ตอบสนองดีขึ้นชัดเจน เช่นเดียวกับระบบรองรับที่นุ่มนวล ขับและนั่งได้สบาย สมกับเป็นรถปิคอัพรุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น จริง ๆ