ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ครั้งแรกของโลก
ข่าวรถวันนี้ : ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่
ราคา
• รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
• รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
• รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ภายใต้ ซิตี้ ซีรีส์ พัฒนาต่อยอดมาจาก ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชัน ที่ 5 นับเป็นครั้งแรกของโลกที่ฮอนด้า ซิตี้ มาพร้อมดีไซน์ตัวถังแบบ แฮทช์แบ็ก โดดเด่นด้วยความสปอร์ตหรูหราของดีไซน์ภายนอก พร้อมตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มาพร้อมเบาะนั่งอัลตรา ซีท (ULTR) ที่สามารถปรับพับเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบการใช้งาน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย
ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Energetic Hatchback” ด้วยการวางเส้นสายที่เฉียบคมต่อเนื่องรอบคัน สะท้อนความสปอร์ต ปราดเปรียว ยิ่งขึ้น ในสไตล์แฮทช์แบ็ก มาพร้อมไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED รับกับฝากระโปรงท้าย เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่น RS) และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (รุ่น SV และ S+)
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Ambitious Beauty” เน้นความเรียบง่าย ทันสมัย แฝงความสวยงามประณีตทุกรายละเอียด ควบคู่ไปกับการใช้งานที่ดีเยี่ยม เสริมด้วยการใช้เส้นสายในแนวนอน เพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกโปรงโล่งและความสะดวกสบายในการขับขี่ วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Piano Black และมีการใช้วัสดุที่มีพื้นสัมผัสนุ่ม ให้ความรู้สึกพรีเมียม พื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่กว้างสบาย ภายในหรูหราและสวยงามในโทนสีดำ เบาะหนังสีดำ (เฉพาะรุ่น SV) และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยแถบสีแดงในรุ่น RS รองรับไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองด้วยเบาะนั่งอัลตรา ซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า ได้แก่
- Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
- Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
- Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
- Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด
ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ รุ่น RS ยกระดับซิตี้คาร์สไตล์แฮทช์แบ็ก ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RSรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกันชนหลังสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังตกแต่งสีดำแบบสปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยแถบสีแดง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (Multi-Information Display) พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอก สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS เท่านั้นมูฟไปข้างหน้าอย่างมีแพชชั่น
เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 จังหวะ (Paddle Shift) (เฉพาะรุ่น RS) สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) (เฉพาะรุ่น RS) โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20
สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าของเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลักๆ ดังนี้
- ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct Injection) เป็นระบบฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ส่งผลให้ได้พลังงานที่เกิดจากการเผาไหม้ที่รุนแรง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบเรียบและต่อเนื่อง
- Dual VTC ระบบแคมชาฟท์ ที่สามารถเพิ่มหรือลดองศาของแคมชาฟท์ในการเปิดปิดวาล์วไอดีและไอเสีย เพื่อเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ และให้การขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองการขับขี่ได้รวดเร็ว ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร และแรงม้า 122 แรงม้า
- ระบบแปรผันระยะยกของวาล์ว VTEC เป็นการแปรผันระยะยกของวาล์วไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประจุไอดีจำนวนมากเข้าสู่ห้องเผาไหม้ โดยจะแปรผันการทำงาน เพื่อให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองการขับขี่ได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ VTEC
- อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ (Water-Cooled Type Intercooler) เป็นการระบายความร้อนอากาศที่มาจากการบูสท์ของเทอร์โบด้วยน้ำที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ 1.0L VTEC TURBO ช่วยให้การระบายความร้อนเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและยังลดระยะทางในการประจุไอดีให้สั้นลง ส่งผลให้การตอบสนองของเครื่องยนต์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมฟังก์ชันที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ได้แก่
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (Multi-Information Display) พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง (เฉพาะรุ่น RS) หรือมาตรวัดเรืองแสงสีขาว (เฉพาะรุ่น SV)
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น RS และ SV)
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI (เฉพาะรุ่น RS และ SV)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) (ทุกรุ่น)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) (ทุกรุ่น)
- ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง (เฉพาะรุ่น RS และ SV)
- ช่องจ่ายไฟสำรอง ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น RS)
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ยังมาพร้อมกับ Honda CONNECT (เฉพาะรุ่น RS) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ให้คุณและรถยนต์สามารถสื่อสารกันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน โดยมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
1.My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2.Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
3.WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
* ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4.Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉิน ที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5.Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6.Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7.Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
8.Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
เทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย มูฟได้อย่างมั่นใจ
โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
- ถุงลม 6 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น RS) ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ในจังหวะที่เกียร์ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง (เฉพาะรุ่น RS และ SV)
- ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น ระบบป้องกันล้อ ล็อกช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถและหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) จะช่วยกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้าและล้อหลังเพื่อให้ความสมดุลกับน้ำหนักในการบรรทุกและเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) เป็นระบบที่
ช่วยป้องกันการลื่นไถลออกทางด้านข้าง และให้ความมั่นใจในระหว่างการขับ การเลี้ยว หรือการหยุด และให้การทรงตัวที่ดีของรถยนต์ในทุกทิศทาง - ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) ระบบจะทำหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้ตัวรถเคลื่อนที่ไปทางด้านหลังในจังหวะที่มีการปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกเมื่อรถยนต์จอดอยู่บนทางลาดชัน
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) เป็นระบบที่ทำงานโดยอัตโนมัติ โดยสัญญาณไฟฉุกเฉินจะทำงานเมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหัน เป็นการแจ้งเตือนรถที่ตามมาข้างหลัง
สีและรุ่น
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีใหม่ เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วย ขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และ SV ดำคริสตัล (มุก) เทาโซนิค (มุก) และขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น S+
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/cityhatchback
ชุดอุปกรณ์ตกแต่งเสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง ราคา 5,500 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท แผงครอบกันรอยขอบห้องสัมภาระ ราคา 900 บาท สติกเกอร์ตกแต่งล้ออัลลอย ราคา 320 บาท (ราคาต่อ 1 ชุดมี 4 ชิ้น) ไฟตัดหมอกแบบ LED ราคา 5,500 บาท และกล้องหน้ารถ ราคา 3,850 บาท
มีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจ ทั้งหมด 2 แพ็กเกจ ได้แก่
- Modulo Aero Package ราคา 16,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
- Modulo Aero Sport Package ราคา 21,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
หมายเหตุ:
อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาโซนิค (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city-hatchback