เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

เทคนิครถยนต์ : เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

เทคนิครถยนต์ : เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

สำหรับคนที่ไม่เคยเปลี่ยนยาง หรือยังไม่เคยลองใช้ยางยี่ห้อใหม่ๆ รู้หรือไม่ว่ายางรถยนต์นั้นมีหลากหลายแบบ ทั้งขนาด ชนิดดอกยาง และประเภทการใช้งาน มือใหม่ควรใช้ยางที่เหมาะสมตามคำแนะนำในคู่มือเจ้าของรถ หรือสติกเกอร์ตรงขอบประตูรถฝั่งคนขับ วันนี้จึงมีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกยางมาฝากกัน

  • ยางรถยนต์แบบไหน ใช่สำหรับรถเรา?
  • ยางรถยนต์มีความแตกต่างกันตามประเภทรถที่ใช้ มอบสัมผัสและความสะดวกสบายตามการใช้งานรูปแบบต่างๆ โดยมี 3 ประเภทหลักคือ
  1.  ยางรถยนต์ (Passenger Tire) – เหมาะสำหรับรถเก๋งทั่วไป ให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะขับขี่ ดอกยางมีอายุการใช้งานนาน
  2.  ยางเพอร์ฟอร์แมนซ์ หรือยางทัวริ่ง (Performance Tire or Touring Tire) – เหมาะสำหรับรถเก๋งหรือรถสปอร์ต ที่มอบทั้งความสนุกสนานในการขับขี่และความสบายไปพร้อมกัน
  3.  ยางรถบรรทุกขนาดเล็ก รถกระบะ หรือรถตู้ (Light Truck Tire) – เหมาะสำหรับรถที่ใช้บรรทุกของ หรือขนย้ายสัมภาระเป็นหลัก

 

เทคนิครถยนต์ : เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

 

 

ดูยาง ต้องดูที่ไหน?

วิธีการเลือกยางให้รถคู่ใจของเราสามารถใช้งานได้นานโดยไม่ต้องสลับยาง หรือเปลี่ยนยางบ่อยๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถพิจารณาได้ที่ตัวอักษรและตัวเลขบริเวณแก้มยาง ซึ่งเป็นตัวเลขมาตรฐานที่กำหนดมาโดย Uniform Tire Quality Grade (UTQG) จากหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาบนยางรถยนต์ทุกยี่ห้อจะมีข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ค่าเทรดแวร์ (Treadwear) คือค่าวัดอัตราการสึกหรอของยาง ยิ่งยางมีค่าเทรดแวร์สูง ยิ่งสามารถวิ่งได้นานกว่า เพราะเนื้อยางจะมีความทนทานต่อการสึกหรอได้ดีกว่า เช่น ยางที่มีค่าเทรดแวร์ 200 จะใช้ได้นานกว่ายางที่มีค่าเทรดแวร์ 100
  • ค่าการยึดเกาะถนน (Traction) คือเกรดวัดความสามารถในการหยุดรถบนถนนลื่น ยางที่เกรดสูงจะทำให้รถหยุดบนพื้นเปียกในระยะเบรกที่สั้นกว่าเกรดที่ต่ำกว่า โดยแบ่งจากสูงสุดไปต่ำสุดคือ AA, A, B และ C
  • ค่าการระบายความร้อน (Temperature) คือเกรดวัดความสามารถในการทนความร้อนของยางกรณีที่ขับในอากาศร้อนซึ่งอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพหรือแตกได้ จัดแบ่งเป็นเกรด A, B และ C

นอกจากแก้มยางจะแสดงค่าต่างๆ ที่เจ้าของรถจะสามารถพิจารณาประกอบการเลือกซื้อยางได้แล้ว ยังมีรหัส DOT บริเวณขอบยางด้านใน เป็นตัวเลขที่ต้องมีตามมาตรฐานความปลอดภัย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) กำหนดโดยกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of Transportation – DOT) ทำให้ทราบว่ายางผลิตที่ไหน มีขนาดเท่าไร และผลิตเมื่อใด เพื่อให้ไว้วางใจได้ว่ายางที่เลือกจะมีคุณภาพ ขนาด และอายุการใช้งานที่เหมาะสมกับรถ ซึ่งสามารถพิจารณาได้ตามนี้

  •  รหัสโรงงานผู้ผลิต – ดูได้ที่รหัส 2 หลัก หลังคำว่า “DOT” จะแสดงรหัสโรงงานที่ผลิตยาง
  •  รหัสขนาดยาง – ดูได้ที่รหัส 2 หลัก หลังจากรหัสโรงงานที่ผลิต
  •  รหัสรุ่นยางผู้ผลิต – ดูได้ที่รหัส 3-4 หลัก หลังจากรหัสขนาดยาง
  •  วันที่ผลิตยาง – ดูได้ที่รหัส 4 หลักสุดท้าย ซึ่งจะระบุเลขสัปดาห์ และปี ค.ศ. ที่ผลิตยาง

เทคนิครถยนต์ : เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

เหตุผลที่ควรพิจารณาคุณสมบัติ ที่ระบุบนรหัส DOT เป็นเพราะจะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่ายางรถยนต์ที่ใช้มี ผ่านกระบวนการการผลิตโดยแหล่งที่ไว้วางใจได้ มีขนาดถูกต้อง และมีอายุนับจากวันที่ผลิตใหม่พอที่จะทั้งใช้งานได้ทนทานเป็นเวลานาน และเก็บเป็นยางสำรองได้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย

ควิกเลน ศูนย์บริการยางและรถยนต์ นำเสนอยางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกในราคาที่เข้าถึงได้หลากหลายยี่ห้อ โดยพร้อมให้คำปรึกษาและบริการเกี่ยวกับยางรถยนต์หลังการขายโดยพนักงานผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงยางรถยนต์ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับรถคู่ใจโดยใช้ประโยชน์จากยางรถยนต์ได้อย่างคุ้มค่า ล่าสุด ควิกเลนได้นำเข้ายางรถยนต์ฮันกุก แบรนด์ยางจากประเทศเกาหลีที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและนวัตกรรมล้ำสมัย ทั้งยังได้รับการยอมรับทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกา รวมกว่า 160 ตลาดทั่วโลก มาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้งานชาวไทย พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับยางรถยนต์ชั้นนำที่มาพร้อมรับประกันอีกมากมาย ได้แก่

· ยางรถยนต์ใหม่ราคาย่อมเยาว์สำหรับรถหลากรุ่น หลายยี่ห้อ ผ่อน 0 % นานสูงสุด 15 เดือนกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ และฟรีค่าแรง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2565

  • ยางฮันกุก KINERGY ECO2 ขนาด 185/60 R15 ลดราคาเหลือเพียง 1,399 บาท จาก 1,679 บาท
  • ยางบีเอฟกู๊ดริช Advantage Touring ขนาด 185/60 R15 ลดราคาเหลือเพียง 1,590 บาท จาก 2,300 บาท
  • ยางมิชลิน Energy XM2+ ราคาเพียง 3,833 สำหรับรุ่น ML ENERGY XM2+ 185/55R16 และราคา 4,276 บาท สำหรับรุ่น ML ENERGY XM2+ 205/55R16
  • ยางบีเอฟกู๊ดริช Advantage Touring ขนาด 16 ราคาเพียง 3,024 บาท สำหรับรุ่น BFG ADVANTAGE TOURING 205/55R16 และราคาเพียง 3,024 สำหรับ รุ่น BFG ADVANTAGE TOURING 215/55R16

 

เทคนิครถยนต์ : เทคนิคเลือกยางเพื่อรถคู่ใจ ดูที่อะไรคุ้มสุด

 

บริการเปลี่ยนยางขอบใหญ่ เมื่อซื้อยางบริดจ์สโตน ขนาดที่ร่วมรายการทั้ง 4 เส้น และ ลงทะเบียนรับประกันยางผ่านช่องทาง https://irewarranty.bridgestoneth.com รับสิทธิ์ร่วมลุ้นบัตรเติมน้ำมันสุดคุ้ม 1 สิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 พฤศจิกายน 2565

  • รางวัลที่ 1 บัตรเติมน้ำมัน ปตท มูลค่า 100,000 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
  • รางวัลที่ 2 บัตรเติมน้ำมัน ปตท มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 50 รางวัล รวมมูลค่า 250,000 บาท

ควิกเลนพร้อมมอบความ “สะดวก วางใจได้จริง” ให้กับลูกค้า โดยมีบริการหลังการขาย ฟรีค่าบริการถอดใส่และถ่วงล้อ 4 ล้อพร้อมเติมลมไนโตรเจน เมื่อเปลี่ยนยาง 4 เส้น แล้วเรายังมีการ บริการหลังการขายตลอด 2 ปีหรือ 50,000 กม. แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน และบริการรับ-ส่งรถถึงบ้าน (Pick-up & Delivery Service) ด้วยพนักงานมืออาชีพจาก U Drink I Drive สำหรับลูกค้าที่เปลี่ยนยางทั้ง 4 เส้น โดยลูกค้าไม่ต้องขับรถออกจากบ้านไปที่ศูนย์บริการเอง และยังเลือกผ่อนยาง 0% ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ นานสูงสุด 15 เดือนกับบัตรเครดิตชั้นนำ ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการได้ที่ควิกเลนทั้งหมด 15 สาขาทั่วประเทศ ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น. ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลสินค้า ราคาและโปรโมชั่น ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ควิกเลน ที่หมายเลข 02-039-5798 หรือที่ https://www.facebook.com/QuickLaneThailand