ทดสอบ TOYOTA C-HR HV Hi จัดเต็มสมรรถนะ
CARINNER ร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (TOYOTA C-HR ) ครอสโอเวอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – ตราด ระยะทางไป/กลับ เกือบ 700 กิโลเมตร และทริปนี้แอดมิน นำเครื่องมือทดสอบสมรรถนะรถยนต์ Performancebox ที่มีมาตรฐานสูงเป็นที่ยอมรับในวงการทดสอบรถและใช้ในการแข่งรถยนต์ทั่วโลก มาเก็บข้อมูลสมรรถนะของ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ รุ่นเครื่องยนต์ ไฮบริด เพื่อใช้ในการวิเคราะห์สมรรถนะ
โตโยต้า ซี-เอชอาร์ (TOYOTA C-HR) ในบ้านเราย่อมาจาก Coupe High Rider รุ่นที่ทดสอบ คือรุ่น เครื่องยนต์ไฮบริด มี 2 รุ่นย่อย คือรุ่นท็อป (HV HI ) รุ่นรอง (HV Mid) ขนาดมิติตัวถังเท่ากัน ตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง อยู่ที่ 4,360/1,795/1,565 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. ดูจากมิติความยาวตัวรถและระยะฐานล้อ มากกว่า ฮอนด้า เอชอาร์-วี และ มาสด้า ซีเอกซ์-3 อยู่เล็กน้อย มิติความกว้างนั้นใกล้เคียงกัน ส่วนความสูงตัวรถจะใกล้เคียงกับ ซีเอกซ์-3 มากกว่า
หน้าตาและรูปทรงดูโดดเด่น ล้ำสมัย เส้นสายภายนอกเฉียบคม ได้แรงบันดาลใจจากเพชรที่เจียระไน จึงมีเส้นสายรอบคันโดดเด่นและแข็งแกร่ง ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ แบบแอลอีดี ไฟเดย์ไทม์ส่องสว่างกลางวัน แบบแอลอีดี เป็นเส้นนำแสงสวยงาม พร้อมระบบปรับไฟหน้าสูง/ต่ำ อัตโนมัติ ไฟท้ายรูปทรงคล้ายบูมเมอแรง รมดำเพิ่มความสปอร์ต พร้อมหลอดไฟฟ้า ส่วนกระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า อัตโนมัติ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรคดวงที่3 และที่ดูแปลกตาที่สุดคือการออกแบบมือเปิดประตูข้างบานหลัง ที่ดูเผินๆ ราวกับรถ 2 ประตู แบบสปอร์ต
ห้องโดยสาร ไม่แคบอย่างที่คิด นั่งแล้วก็พอ ๆ กับ คู่แข่งในตลาด ซึ่งอยู่ที่การจัดวาง เบาะและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากกว่า การตกแต่งแนวสปอร์ต สีดำตัดกับสีน้ำตาลเข้ม คอนโซลหน้า คอนโซลเกียร์ และแผงข้างประตู ตกแต่ด้วยวัสดุที่มีผิวสัมผัสดำมัน มาตรวัดบอกรายละเอียดชัดเจน ช่องซ้าย เป็นเข็มแสดงการทำงาน ของโหมดชาร์จไฟ CHG โหมดการขับแบบประหยัด ECO และโหมดเครื่องยนต์ POWER ด้านขวาเป็นเรือนไมล์บอกความเร็ว ส่วนจอตรงกลาง MID 4.2 นิ้ว แสดงการทำงานของระบบต่าง ๆ ของรถ ซึ่งสามารถควบคุมการทำงานจากปุ่มบนพวงมาลัยมัลติฟังกชั่นด้านขวา สามารถเข้าไปเลือกโหมดขับขี่แบบ Eco /Normal /Sport ส่วนปุ่มด้านซ้ายบนพวงมาลัยควบคุมระบบสั่งงานของเครื่องเสียงภายในรถ ผ่านจอ 2DIN ที่ติดตั้งแบบบิลล์อินบนคอนโซล ที่ออกแบบให้อย่ในระดับสายตา มองเห็นชัดเจน
ติดตั้งระบบ Connectivity สามารถค้นหาพิกัดรถ พร้อมฟังค์ชั่นเตือนเมื่อรถถูกเคลื่อนย้าย หรือถูกสาร์ท มีสัญญาณ Wi-Fi เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ภายในรถ ได้ 9 เครื่อง มีระบบ SOS แจ้งขอความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง และสามารถติดต่อผ่านศูนย์ Operator Service ได้ทุกที่ ทุกเวลา มีระบบนำทาง จีพีเอส ระบบเสียง โดดเด่น เสียงทุ้ม(เบส) สามารถยกระดับความหนักแน่นได้ 2 ระดับ ระบบแอร์ในห้องโดยสาร หน้าจอดิจิตอล ปรับอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกซ้าย/ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ nanoe มีสวิท์ EV Drive เบรกมือไฟฟ้าและ ระบบ Auto Brake Hold ที่คอนโซลเกียร์ เบาะคู่หน้าทงสปอร์ตนั่งได้กระชับ
เบาะหลังปรับพับแยก 60/40 แอดมินลองนั่งดูพบว่า ผู้โดยสารที่มีระดับความสูง 180 ซม.ยังนั่งได้ พื้นที่หัวเข่าและช่วงขายังไม่ชนกับเบาะหน้า (เบาะนั่งคู่หน้าปรับตำแหน่งท่านั่งและท่าขับที่ถูกต้อง) ผู้โดยสารตัวใหญ่นั่ง 2 คน ไม่อึดอัด ส่วนตัวเล็กหรือเด็ก นั่ง 3 คนตามตำแหน่งหัวหมอนได้สบาย
วัดระดับเสียงในห้องโดยสาร ขณะเปิดแอร์ ความแรงลมระดับ 1 อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ขณะรถจอดนิ่งวัดได้ 42 เดซิเบล และขณะรถวิ่งความเร็วคงที่ 60/80/100 กม./ชม.วัดได้ 57/59/64 เดซิเบล ระดับเสียงในห้องโดยสารจัดว่าเงียบใช้ได้
เครื่องยนต์ไฮบริด เจเนอเรชั่น ที่ 4 รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 53 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร ได้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า
แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย จำนวน 28 โมดูล ลดขนาดของแบตเตอรี่ แต่ยังให้กำลังไฟเท่าเดิม มีแรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลท์ เจนเนอร์เรเตอร์ พัฒนาให้มีขนาดเล็กน้ำหนักเบาแต่ทรงประสิทธิภาพ ยกชุดมาจากรถไฮบริดร่วมค่าย อย่าง Prius รุ่นล่าสุด แต่นำมาปรับจูน ECU ให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น ได้รับเคลมไว้ว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 24.4 กม./ลิตร ใช้ชุดส่งกำลังแบบ E-CVT ทำงานผ่านกล่องควบคุม โดยไม่มีชุดสายพานในการขับเคลื่อนมู่เล่ย์ และพัฒนา Power Control Unit ให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพ
วิ่งทดสอบผ่านเครื่องมือ Performancebox พบว่า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 13.1 วินาที
อัตราเร่ง 0-402 ม. ควอเตอร์ไมล์ ทำได้ 19 วินาทีที่ความเร็ว 120 กม./ชม.
อัตราเร่ง 0-1,000 ม.( 1กิโลเมตร) ทำได้ 34.6 วินาที
ช่วงเร่งแซง
60-100 กม./ชม. เวลา 7.5 วินาที (ในเมือง)
80-120 กม./ชม. เวลา 9.9 วินาที (นอกเมือง)
จากข้อมูลทดสอบ พบว่าเครื่องยนต์ไฮบริด ให้สมรรถนะการขับขี่ที่พอตัว อยู่ในระดับเดียวกันกับคู่แข่นเซ็กเมนท์ น่าจะเซ็ตการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ช่วยในเรื่องของการออกตัวและจังหวะเร่งแซง มากกว่า จึงส่งผลในเรื่องของอัตราสิ้นปลืองที่ประหยัดแทน โดยเฉพาะการขับใช้งานในเมืองที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อย ๆ
กิจกรรมทดสอบประหยัดน้ำมัน จากปั๊ม ปตท.ชลบุรี-บ้านบึง ถึง ร้านเกี๊ยวปลานายเคี้ยม ระยะทางรวม 90 กม. แอดมินสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 31.3 กม./ลิตร ขากลับจัดเต็ม ใช้ความเร็วสูงสลับหยุดนิ่ง มีทั้งติดไฟแดงและทำถนน ออกจาก จังหวัดตราด ระยะทาง 202 กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 16.5 กม./ลิตร จัดว่าประหยัดดีแม้จะใช้ความเร็วสูง ความเร็วสูงสุด วัดได้ 168 กม./ชม. (จีพีเอส) จากมาตรวัดเรือนไมล์ 185 กม./ชม.
และในกรณีที่แบตเตอรี่เต็ม รถคันนี้สามารถขับในโหมด EV ด้วยแบตเตอรี่ล้วน ที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ได้ระยะทางประมาณ 3-4 กม. แต่ถ้าเป็นโหมดอัตโนมัติ ใช้งานปกติ ที่มีการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าสลับกัน บางกรณีที่เครื่องยนต์ดับแล้วขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถทำความเร็วได้ถึง 110 กม./ชม.ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนตัดมาทำงานด้วยเครื่องยนต์สลับมอเตอร์ไฟฟ้าอีกครั้ง
โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ใช้โครงสร้าง TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้แข็งแกร่ง รวมถึงจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบนพร้อมเหล็กกันโคลง ที่เป็นจุดเด่นทำให้รถรุ่นนี้ มีการบังคับควบคุมที่ดีเยี่ยม ตัวรถนิ่ง ขับในโค้งที่ความเร็วสูง ทำได้มั่นใจมากและยังได้รับการเซ็ทพวงมาลัยให้ตอบสตองแม่นยำ ควบคุมรถได้ดี ย้ายตำแหน่งการติดตั้งแบตเตอรี่ มาไว้ใต้เบาะนั่งของผู้โดยสารด้านหลัง ซึ่งต่างจากเดิมที่ติดตั้งบริเวณด้านท้าย ทำให้เกิดสมดุลตัวรถที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังลดจุดอับสายตา โดยออกแบบเสา A ให้เล็กลง แต่ยังให้ความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างพิเศษ
ระบบเบรกเป็นดิสก์ทั้ง 4 ล้อ เบรกหน้ามาพร้อมครีบระบายความร้อน มี ABS ป้องกันล้อล็อค EBD กระจายแรงเบรก และ BA เสริมแรงเบรก ครบ ให้ความรู้สึกดีจังหวะการเหยียบเบรกนุ่มนวล ทำงานแม่นยำสไตล์รถยุโรป
ทดสอบเบรกจนหยุดนิ่ง จากความเร็ว 100-0 กม./ชม. มีระยะหยุดที่ 45.1 เมตร ทำได้ดี เบรกหยุดได้มั่นใจ ด้วยล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับยาง 215/60R17
ติดตั้งระบบความปลอดภัย ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS ระบบครูสคอนโทรลแบบแปรผันความเร็ว (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบเตือนการออกนอกเลนโดยไม่เจตนา LDA พร้อมการหน่วงพวงมาลัย และระบบเตือนอาการเมื่อยล้าของผู้ขับ นอกจากนี้ยังมี ระบบควบคุมกรทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัด HAC ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB
ฟันธง
Toyota C-HR HV HI รถยนต์ไฮบริดเจเนอร์เรชั่นที่ 4 หน้าตาสวยเด่นมีสไตล์ จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัย เป็นทางเลือกที่แตกต่างจากคู่แข่ง ให้สมรรถนะเครื่องยนต์ทัดเทียม แต่ได้ความประหยัดที่เหนือกว่า ภายในลงตัว ถ้ามีช่องเสียบไฟ 12 โวลท์และช่องเสียบ USB ใต้คอนโซลจะครบเครื่องมากขึ้น ส่วนช่วงล่างที่นุ่มสบายและการบังคับควบคุมโดดเด่น เบรคที่มั่นใจ น่าจะเป็นจุดเด่นอีกข้อสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ นอกจากนี้ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ยังเพิ่มการรับประกันตัวรถ 5 ปี 150,000 กม. รับประกันระบบไฮบริด 5 ปีและแบตเตอรี่ ไฮบริด 10 ปี เรียกว่าจัดเต็มจริง ๆ
ราคา Toyota C-HR เครื่องยนต์ไฮบริด
Toyota C-HR HV MID 1,069,000 บาท
Toyota C-HR HV HI 1,159,000 บาท
ขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0-2386-2000