ขับรถตกน้ำ จมน้ำ เอาตัวรอดยังไง!!

170BDAB2-D2DC-464A-8B43-D8E4F17D52D9

# สติมาปัญญาเกิด จำไว้ว่าต้องมีสติ

บางคนบอกอย่าตกใจ ฮ่าๆ มีด้วยหรอรถพุ่งตกน้ำ เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่ตกใจ  ไม่มีหรอกครับ ไม่ใช่หุ่นยนต์ ตกใจได้แต่ต้องตั้งสติให้ไวที่สุด เมื่อตั้งสติได้ก็ให้มองดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับรถเราและรอบ ๆ ตัวเรา (ในกรณีที่ไม่เมา และขาดสตินะ ถ้าเมามากก็ยิ่งรอดยากครับ )

ขับรถตกน้ำ จมน้ำ เอาตัวรอดยังไง!!

# ที่บอกว่ารอให้รถและทุกอย่างหยุดนิ่งแล้วค่อยปลดเข็มขัดนิรภัยออก..โถ!!

แค่ไม่ตกใจเยี่ยวราดก็บุญแล้วครับ ขณะรถเสียการทรงตัวหรือเกิดเหตุ บางข้อมูลบอกว่า อย่าเพิ่งถอดเข็มขัดออกในช่วงเกิดเหตุนั้น ข้อเท็จจริงใครจะตั้งสติปลดเข็มขัดนิรภัยระหว่างนั้นได้ ถ้าสติดีขนาดนั้น คงแก้ไขสถานการณ์ก่อนตกน้ำได้สบาย จริงมั้ย!!

# เอาเป็นว่าทันทีเมื่อรถยนต์อยู่ในน้ำ ให้ตั้งสติและมองหาสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่สามารถทุบกระจกได้ ไม่ควรเปิดประตูรถทันทีซึ่งจริงๆ ก็อาจจะเปิดไม่ได้ เพราะแรงดันน้ำจากภายนอกจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ 

# ขณะที่น้ำเข้ารถให้ออกทางหน้าต่างเท่านั้น โดยลดกระจกลง ยุคนี้แทบไม่มีมือหมุน (MANUAL) กระจกขึ้น/ลง ควบคุมด้วยไฟฟ้ากันหมดแล้ว  เคยมีการทดสอบพบว่ารถที่จมน้ำยังสามารถสั่งงานระบบไฟฟ้าได้อีกเป็นนาที ดังนั้นถ้ายังมีสติต้องลองเพราะในรถยนต์จะใช้ไฟกระแสตรง (D.C.) จึงไม่ช๊อต

ขับรถตกน้ำ จมน้ำ เอาตัวรอดยังไง!!

ค่อย ๆ ลดกระจก หรือถ้ามีสติก็สามารถลดลงมาให้น้ำไหลเข้ามาเร็วขึ้น พอน้ำใกล้ ๆ จะเต็มห้องโดยสาร ต้องรีบสูดลมหายใจให้เต็มปอดก่อนว่ายสวนออกทางหน้าต่างที่เราปล่อยให้น้ำเข้ามานะครับ จำไว้ว่าอย่าเพิ่งรีบพุ่งสวนน้ำออกไปเพราะแรงดันน้ำที่ดันเข้ามา จะทำให้เราพาร่างของเราออกไปจากรถได้ยากและลำบาก เคยอ่านบางเล่มบอกไม่ต้องห่วงของมีค่า โถ นาทีนั้น “โกยเถอะโยม” จะเอาชีวิตรอดยังลำบาก

# แล้วหากไม่สามารถออกทางหน้าต่างได้ !! ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไร ให้ปลดล็อกที่ประตู อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมเปิด  รอจนน้ำไหลเข้ามาในรถมาก ๆ  เรียกว่าเกือบถึงหลังคา (เพื่อให้ความดันภายนอกและภายในรถใกล้เคียงกัน) จึงผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วรีบพุ่งตัวออกจากห้องโดยสาร

สามารถปล่อยให้ตัวเราลอยขึ้นเหนือน้ำ หรือลองเช็คดูด้วยการเป่าดูฟองอากาศว่าลอยขึ้นทางทิศใด (ของจริงใครจะเสียเวลา ออกมาได้ก็จ้วงแหลกพี่)

ขับรถตกน้ำ จมน้ำ เอาตัวรอดยังไง!!

# หากไม่สามารถเปิดประตูหรือลดกระจกลงได้ จากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม จำเป็นจะต้องหาของแข็งมาทุบกระจก บางที่แนะนำให้ถอดหัวหมอนมางัดให้กระจกแตก โดยเปิดยางขอบกระจกด้านใน หรือลองทิ่มลงไปแล้วงัดขึ้นให้กระจกร้าวแตก แล้วถีบออก อีกอย่าง ที่ตัดสายเบลท์หรือเข็มขัดนิรภัย ที่มีลักษณะเป็นฆ้อนในตัว  เราควรหาซื้อติดรถเอาไว้นะครับ ป้องกันเหตุร้ายลักษณะนี้ได้ดี มีอุปกรณ์แบบนี้ติดลิ้นชักหน้ารถไว้ ช่วยให้อุ่นใจในขณะเดินทาง เพราะทันทีที่เกิดเหตุ เราก็สามารถนำมาตัดสายเบลท์หรือใช้เป็นฆ้อนทุบกระจกได้ 

แนะนำให้ทุบกระจกบานข้างพอน้ำไหลเข้ามา ก็ปล่อยให้แรงดันน้ำด้านในและนอกใกล้เคียงกัน อย่าลืม!! สูดลมหายใจตั้งสติก่อนพุ่งตัวออกจากรถ และถ้ากระจกข้างไม่แตกให้ลองทุบกระจกหลัง เพราะจะจมน้ำหลังสุด (สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ที่เครื่องยนต์วางด้านหน้าเพราะส่วนหัวรถจะจมก่อน)

#คำเตือน!!  นอกจากต้องตั้งสติและลองปฎิบัติตามคำแนะนำข้างต้น อย่ามัวแต่ตกใจและคิดว่าอากาศที่พอมีอยู่ในรถขณะนั้นจะช่วยให้เรารอด ดังนั้นไม่ควรที่จะมองหาพื้นที่ของอากาศ แล้วรอแต่ให้คนมาช่วยเพราะส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตจะพบศพติดอยู่ในรถด้านหลัง

เพราะผู้เสียชีวิตพยายามตามอากาศที่ไหลไปรวมกันอยู่ด้านหลังรถ เพราะส่วนหน้ารถจะพุ่งลงและจมน้ำก่อน อากาศจึงไหลไปรวมกันที่ด้านหลัง แต่เมื่อรถจมลงไปเรื่อย ๆ อากาศจะถูกบีบออกทางกระโปรงหลังอย่างรวดเร็ว

# ในแต่ละพื้นที่สภาพน้ำก็จะแตกต่างกันออกไป จำไว้ว่าสภาพน้ำทั่วไป ไม่เหมือนในสระน้ำ ไม่เหมือนในหนังที่น้ำใสๆ มองเห็นทุกอย่างได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่เกิดเหตุใหม่ๆ จึงเป็นโอกาสทองที่เราต้องไขว่ขว้าและรีบปฎิบัติตามคำแนะนำข้างต้นให้เร็วที่สุด

#ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยปลอดภัย