ทดสอบ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ใหม่
แต่งสปอร์ท ลุยมัน!! ด้วย SUPERSELECT 4WD II ช่วงล่างแน่นหนึบ
CARINNER ร่วมทดสอบ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท พิคอัพมาดเข้ม ตกแต่งสปอร์ต รุ่นล่าสุด จัดขึนโดย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แนวคิด “ค้นหาขีดจำกัดของคุณกับ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท” เส้นทาง กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ ได้ลองทั้งบนถนนเส้นหลักและสายรอง รวมถึงพิสูจน์สมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ SUPERSELECT 4WD II ที่สามารถปรับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้หลากหลายด้วยโหมดการขับขี่ที่แยกย่อยได้ละเอียดยิ่งขึ้นบนเส้นทางธรรมชาติ ปิดทายด้วยการพิสูจน์อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถรุ่นนี้
ภายนอก ดูเข้มด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน และแถบสติ๊กเกอร์ลายกราฟิคสีส้ม-ดำ ดูโฉบเฉี่ยว สะดุดตา เสริมความบึกบึนทันสมัยด้วยชุดแต่งทั้งหมด 19 รายการ ไฟหน้า เลนส์โปรเจคเตอร์แบบซีนอน เอชไอดี ทั้งไฟสูงและต่ำ สามารถปรับระดับลำแสงไฟหน้าได้ถึง 5 ระดับ ติดตั้งไฟเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ เพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่เวลากลางวัน กระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนหน้า สไตลิ่งบาร์และไฟตัดหมอก ติดตั้งล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว เพิ่มมาดดุดัน สปอร์ตขึ้น ตกแต่งกระจังหน้า นอกจากนี้ยังติดตั้ง ล้อสีดำขนาด 17 นิ้ว
ห้องโดยสารตกแต่งสปอร์ต ใช้วัสดุพรีเมี่ยมขึ้น ทั้งเบาะนั่ง พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนังดำเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม แผงประตูตกแต่งด้วยด้ายสีส้ม พรมปูพื้นปักโลโก ATHLETE สีส้ม ส่วนคอนโซลกลาง แผงอุปกรณ์ และฐานเกียร์ ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา เปียโน แบล็ค มาตรวัดทรงกลมคู่ปรับแสงสว่างได้ 8 ระดับ และหน้าจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ พวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นสไตล์สปอร์ตจาก ปาเจโร สปอร์ท มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (PADDLE SHIFT)
เครื่องยนต์ รหัส 4N15 MIVEC CLEAN DIESEL ความจุ 2.4 ลิตร DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน (VG TURBO) และอินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. และแรงบิดสูงสุด 43.5 กก.-ม. หรือ 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รตน. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ชุดใหม่ของ AISIN หรือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ (เฉพาะรุ่น แอทลีท พลัส) โดยระบบขับเคลื่อนในรุ่น แอทลีท 4WD จะเป็นแบบ 4 ล้อ SUPER SELECT 4WD II พร้อมดิฟเฟอเรนเชียลลอค หรือระบบลอคเพลาหลังควบคุมด้วยไฟฟ้า ลองขับบนถนนใหญ่ ทางเลียบ วิ่งบนถนนใหญ่ทางเรียบพบว่าอัตราเร่งทำได้ดี เร่งสั่งได้ จริง
ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทันสมัยเทียบชั้น เอสยูวี อย่างปาเจโร สปอร์ต มี ระบบ SS4-II ปรับหมุนด้วยสวิทช์ไฟฟ้า ซึ่งรวมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ และฟูลล์ไทม์ ไว้ด้วยกัน ช่วยให้สามารถเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 2H เป็น 4 ล้อ หรือ 4H และ 4HLC ได้อย่างง่ายดาย สำหรับเส้นทางลุย ความเร็วต่ำ สามารถหยุดเพื่อปรับโหมดเป็น 4LLC ได้อีกด้วย
ADMIN ทดสอบสมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อบนเส้นทางธรรมชาติ หมุนปรับโหมดการขับเคลื่อน เป็น 4H (4WD High-Range) ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ใช้งานง่าย สะดวก โดยระบบจะกระจายแรงขับเคลื่อนแบบแปรผันไปยัง ล้อคู่หน้า/หลัง ตั้งแต่ 40-50/50-60 % ตามสภาพของพื้นผิวถนน ข้อดีคือยังใช้ความเร็วสูงได้ วงเลี้ยงพวมาลัยก็ยังให้ความารู้สึกใกล้เคียงกับรถขับเคลื่อน 2 ล้อ สามารรถเลือปรับขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ได้ ส่วนถ้าต้องการลุยได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ก็สามารถปรับมาเป็น 4HLC (4WD High-Range with Locked Transfer) ได้ โดยมี Center Diff Lock ทำหน้าที่แบ่งการตัดต่อกำลัง ถ่ายทอดกำลัง แบบ 50/50 เท่ากัน ทำให้ระบบการหักเลี้ยวของพวงมาลัยจะขืนขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วยให้เคลื่อนผ่านอุปสรรคได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ ที่ทุรกันดารมาก และยังใช้ความเร็วได้เต็มสมรรถนะ ส่วนระบบขับเคลื่อนแบบ 4LLC นั้น หากจะเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ รถต้องหยุดสนิท แล้วปรับตำแหน่งเกียร์ไปที่เกียร์ ว่าง หรือ N เท่านั้น โดยเฉพาะพื้นที่ ทุรกันดารมาก และเมื่อต้องเจออุปสรรคที่ยากขึ้นไปกว่านั้นยังสามารถ กดสวิทช์ Rear Diff Lock ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้ข้ามผ่านอุปสรรคได้งายขึ้น
กิจกรรมสุดท้าทาย “พิชิตยอดเขาเขียวพิสูจน์อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ” โดย ไทรทัน แอทลีท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จำนวน 3 คัน และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ จำนวน 3 คัน สตาร์ทจากสนามยิงปืนนาควานิช ขึ้นเขาสู่จุดชมวิวเขาเขียว ไปสิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำสายศร ระยะทาง 64.8 กม. พบว่า รุ่นขับเคลือน 4 ล้อ มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ประมาณ 10-11 กม./ลิตร เพราะเป็นทางขึ้นเขาสูง และเนินชันยาวสลับ ตลอดเส้นทาง ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง หรือรุ่น PLUS คันที่ดีสุดทำได้ 18.2 กม./ลิตร
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อน พร้อมชอคอับไขว้ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมเหล็กกันโคลงใหญ่ สภาพเส้นทางธรรมชาติ ช่วงล่างให้ตัวได้ดี ช่วงล่างแน่นหนึบขึ้นเช่นเดียวกับวิ่งบนถนนใหญ่เข้าโค้ได้มั่นใจ
ระบบเบรกแบบจานคู่หน้า และดุมด้านหลัง เสริมด้วยระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System) ระบบเบรกป้องกันล้อลอค (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอีเลคทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (ASTC – Active Stability and Traction Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist System) และกล้องมองภาพหลังขณะถอยจอดพร้อมเส้นกะระยะ (Rear View Camera with Guiding Line) นอกจากนี้ยังมีจุดยึดเบาะเด็ก (ISOFIX) เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR และเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ ขณะที่ระบบความปลอดภัยเชิงรับประกอบด้วยคานเหล็กนิรภัยบริเวณประตูหน้าและหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย
ไทรทัน แอทลีท มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ในรูปแบบตัวถัง 4 ประตู ดับเบิ้ลแค็บ ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้แก่ แอทลีท ดับเบิ้ลแค็บ 4WD เกียร์อัตโนมัติ (AT) ขับเคลื่อน 4 ล้อ ไทรทัน แอทลีท ดับเบิ้ลแค็บ พลัส เกียร์อัตโนมัติ (AT) ขับเคลื่อน 2 ล้อ ไทรทัน แอทลีท ดับเบิ้ลแค็บ พลัส เกียร์ธรรมดา (MT) ขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมกับสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ ขาว ไวท์ เพิร์ล (WHITE PEARL) เทา ไททาเนียม เกรย์ (TITANIUM GRAY) ดำ ไดมอนด์ แบล็ค (DIAMOND BLACK) ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 879,000 บาทสำหรับรุ่น D/Cab Plus 2.4D MIVEC Athlete 6MT และ 1,111,000 บาทสำหรับรุ่น D/Cab 4WD 2.4D MIVEC Athlete 5AT
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท เติมเต็มเซ็กเมนท์ในตลาดได้ครบ ภายนอกดูสปอร์ท ภายในเข้มทันสมัย พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีฟังก์ชันการทำงานหลากหลายเหนือคู่แข่ง เรียกว่าครบเครื่อง ซื้อไปไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม อัตราเร่งตอบสนองดี ขับสนุก ภายในโดดเด่น อปุกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงพอ มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ4 ล้อ เรียกว่ายุคนี้ ชุดแต่งจัดเต็มตั้งแต่ออกจากโชว์รูม น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ของลูกค้าที่ชอบกระบะมาดสปอร์ต
ข้อมูลจำเพาะ MITSUBISHI TRITON ATHLETE DOUBLE CAB 4WD
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2-079-9500
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,280/1,815/1,780
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,520/1,515
ฐานล้อ (มม.) 3,000
น้ำหนัก (กก.) 1,870
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 75
เครื่องยนต์
แบบ ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ
ความจุ (ซีซี) 2,442
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 86.0/105.1
อัตราส่วนกำลังอัด 15.5:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 181/3,500
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 43.5/2,500
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอิเลคทรอนิค คอมมอนเรล
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 5 พร้อมบวก/ลบ
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 บางเวลา
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง แหนบแผ่นซ้อน พร้อมชอคอัพไขว้
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ แรคแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี
หน้า ดิสก์ พร้อมช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์
ราคา (บาท) 1,111,000