ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พิสูจน์สมรรถนะ ลุยเต็มรูปแบบ !!

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ฟอร์ด ประเทศไทย พาไปพิสูจน์สมรรถนะ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” กระบะสมรรถนะสูง ที่พัฒนาโดย ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) เลือกโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ อาทิ โหมดบาฮา ณ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีรูปลักษณ์ที่ดุดันและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มิติตัวรถเมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ พบว่า ความยาว 5,398 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 36 มิลลิเมตร กว้าง 2,028 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 168 มิลลิเมตร และสูง 1,873 มิลลิเมตร สูงขึ้น 58 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,220 มิลลิเมตรเท่ากัน ระยะช่วงล้อหน้า/หลัง กว้างขึ้น 150 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น หรือ Ground Clearance อยู่ที่ 283 มิลลิเมตร สูงขึ้น 53 มิลลิเมตร ทำให้มีศักยภาพการลุยค่อมผ่านอุปสรรคได้ดีมากขึ้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ภายนอกหล่อและทรงพลัง กระจังหน้าดุดัน มาพร้อมโลโก้ฟอร์ดตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์ของแร็พเตอร์ และรถฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่โดดเด่นกว่ารถทุกคันบนท้องถนน แก้มข้างรถด้านหน้าผลิตจากวัสดุคอมโพสิททนทานต่อการลุยในเส้นทางธรรมชาติ แผงกันชนหน้า มาพร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED และช่องรีดอากาศ ซึ่งช่วยลดการต้านลมของตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ บริเวณแก้มข้างรถคู่หน้ายังถูกตีโป่งขยายออก เพื่อรองรับการยุบตัวของโช้คที่เพิ่มมากขึ้นและยางออฟโรด

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ห้องโดยสารถ่ายทอดดีเอ็นเอของ ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เบาะที่นั่งออกแบบเฉพาะและบุด้วยหนังกลับ เพื่อการยึดเกาะที่นั่งที่ดียิ่งขึ้นทั้งยามขับตะลุยเส้นทางออฟโรดหรือเดินทางในเมือง รายละเอียดอื่นๆ ที่ทำให้เรนเจอร์ แร็พเตอร์โดดเด่น ยังรวมไปถึงการเดินด้ายสีน้ำเงิน การเลือกใช้วัสดุหนัง และแผงหน้าปัดที่ออกแบบมาอย่างดุดัน พวงมาลัยบุหนังลายฉลุช่วยให้จับได้ถนัดมือ และมาพร้อมแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบาอันเป็นดีเอ็นเอใหม่ของแร็พเตอร์ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างฉับไวและแม่นยำ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้สลักลายโลโก้แร็พเตอร์ลงบนขอบพวงมาลัยเพื่อความสะดุดตา ทั้งยังติดตั้งแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัย On-Centre Marker ที่เป็นแถบสีแดงด้านบนตรงกลางของพวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบถึงตำแหน่งองศาของพวงมาลัยขณะขับขี่ได้อย่างมั่นใจอีกด้วย

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ไบเทอร์โบ 213 แรงม้า เกียร์ 10 จังหวะ

เครื่องยนต์ดีเซล บล็อคใหม่ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที (157 กิโลวัตต์) และแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที  ทำงานร่วมกันระหว่างเทอร์โบแรงดันสูงที่มีขนาดเล็กและเทอร์โบแรงดันต่ำที่มีขนาดใหญ่กว่า ช่วยเพิ่มพละกำลังเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ต้องการอีกด้วย  ติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ใหม่ล่าสุด มีอัตราทดที่แคบ จังหวะเปลี่ยนเกียร์แม่นยำและรวดเร็ว ส่งผลให้มีอัตราเร่งและการตอบสนองที่ดีขึ้น มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่ทันสมัย AI หรือ อัลกอริทึม สามารถเรียนรู้รูปแบบการขับขี่ เพื่อเลือกเกียร์ให้เหมาะสม ในจังหวะใช้งาน

ผ่านการทดสอบเทอร์โมไซเคิล (Thermo Cycle) ด้วยการทำให้เทอร์โบทั้ง 2 ลูกร้อนจัด จนกลายเป็นสีแดงนาน 200 ชั่วโมงติดต่อกัน ด้วยลูกปืนเทอร์โบที่ผลิตจากอัลลอยคุณภาพสูง สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 860 องศาเซลเซียส และเทอร์โบแรงดันต่ำที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ จึงทำให้เครื่องยนต์สามารถทนต่ออุณหภูมิระดับสูงมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

จากการทดสอบ พบว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้เซ็ทและปรับตั้งการตอบสนองของเครื่องยนต์ในสไตล์รถเอสยูวีหรือรถเอนกประสงค์ ไม่ดิบหรือเร้าใจ ตรงกันข้ามกับหน้าตาที่ดุดัน แต่เมือกดคันเร่งก็จะค่อย ๆ เรียกพลังออกมา จากนั้นก็จะแสดงให้เห็นถึงกำลังที่มากมายถึง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร ได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่ากำลังเหลือเฟือ แต่การปรับเซ็ทการตอบสนองจะดิบน้อยไปนิด แต่โดยภาพรวมก็ยังขับสนุกกดคันเร่งก็มา เร่งแซงทันใจ ตามสั่ง

ทางเรียบตรงยาว กดคันเร่งทำความเร็วขึ้นไปทะลุ 180 กม./ชม.ได้สบาย ๆ ช่วงเร่งแซงก็ตอบสนองได้ดีตามสไตล์ของไบเทอร์โบ ทูสเตจ มีเพียงช่วงจังหวะออกตัวเท่านั้นที่ได้รับการจูนอัพมาในสไตล์เอสยูวี จึงขาดความดิบไปบ้าง แต่โดยรวมนั้นขับสนุก

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ทดสอบการลุยในสนาม 8 Speed เขาใหญ่ ใช้ระบบ Terrain Management System (TMS) ขับลุยในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกได้จากปุ่มบนพวงมาลัยอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดหิน สำหรับพื้นผิวในเขตภูเขาลาดชัน ใช้ความเร็วต่ำ เน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ โหมดหญ้า/กรวด ที่ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ ซึ่งระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง เพิ่มความปลอดภัยและลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ส่วน โหมดโคลน/ทราย จะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและเปลี่ยนสภาพได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง เรียกได้ว่าสามารถขับผ่านอุปสรรคด้วยโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อแบบต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแร็พเตอร์ได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งจาก ดีไซจน์การออกแบบกันชนหน้า/หลัง มุมปะทะ 32.5 องศา และมุมจาก 24 องศา ทำให้แร็พเตอร์ข้ามผ่านอุปสรรคในสนามได้สบาย

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
ลองลุยในโหมดบาฮา ที่ทุ่งกังหันลมห้วยบง ฟอร์ด จำลองสนามทดสอบการขับขี่ที่ทรหด เพื่อพิสูจน์การขับออฟโรดสมรรถนะสูงบนทุกสภาพพื้นผิว บนเส้นทางทรายสุดวิบากและเส้นทางกรวดหินแสนทรหดที่มีพื้นผิวที่ลื่น เป็นหลุมเป็นบ่อ ด้วยการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง โดยใช้โหมดบาฮา ที่พัฒนาขึ้นด้วยแรงบันดาลจาก Baja 1000 การแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮา โหมดนี้จะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ในสไตล์ลุย (ออฟโรด) ที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะลากรอบเครื่องยนต์นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

จากจุดสตาร์ท เราทำการวิ่งด้วยความเร็วสูง ระยะทางไป/กลับ เกือบ 10 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นทางฝุ่น กรวดลอย ต้องหมุนปรับมาในโหมด 4H และเลือกโหมดการขับขี่แบบ Baja (บาฮาโหมด) เพื่อความปลอดภัย ฟอร์ด จัดทีมอินสตรัคเตอร์มืออาชีพ ระดับนักแข่งครอสส์ครันทรี นั่งประกบ คอยแนะนำการขับขี่และการใช้ความเร็วในโค้งต่าง ๆ จากจุดสตาร์ท จึงสามารถเร่งออกตัวได้อย่างเต็มที่ เดินคันเร่งหมด ก่อนจะเบาเข้าโค้ง เพื่อปรับความคุ้มเคยระหว่างรถและคันขับ จากนั้นก็เดินคันเร่งทำความเร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ ทางตรงยาวเข็มมาตรวัดความเร็วไปแตะที่ 140 กม./ชม. แต่เมื่อถึงช่วงขับในโค้งต้องอาศัยจังหวะเบาเข้าโค้งและเดินคันเร่งก่อนออกจากโค้ง ให้ล้อคู่หน้าตะกุยกับหญ้าไว้ แล้วล้อด้านหลังจะหมุนอยู่บนทางฝุ่น มีจังหวะโอเวอร์สเตียอยู่เล็กน้อย เมื่อถอนคันเร่งคลายพวงมาลัย รถก็จะดูดเข้าโค้งสวยงาม เรียกว่าโหมดนี้เป็นโหมดการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ตอบสนองการขับขี่ในเส้นทางแบบนี้ได้ดีมาก ขับสนุก และยึดเกาะถนนดี

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ระบบ Terrain Management System (TMS) ของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่เร้าใจ นั่นคือโหมดบาฮา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาที่ประเทศเม็กซิโก

โดยระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ระบบเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด โดยระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงอย่างรวดเร็วกว่าเดิม

ระบบกันสะเทือนของฟอร์ด เรียกได้ว่าปฎิวัติวงการกระบะเมืองไทยด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ เซ็ทช่วงล่างด้านหน้าโดยเปลี่ยนปีกนกหน้าแบบอลูมิเนียมอัลลอยด์ เซ็ทช่วงล่างหลังอิสระวัตลิงค์ ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ฟอร์ด รวมถึงการเลือกติดตั้งโช้คอัพระดับพรีเมี่ยมที่ผลิตโดย FOX แบบ Position Sensitive Damping (PSD) วาล์วปรับอัตโนมัติเพิ่มแรงต้าน เมื่อมีการกระแทกเต็มช่วงยุบของโช้คบนสภาพถนนที่ขรุขระ เพิ่มประสิทธิภาพการขับแบบออฟโรดให้ดีขึ้นและจะลดแรงต้านเมื่อขับบนทางเรียบเพื่อความนุ่มนวลและรับมือกับการขับที่ความเร็วสูงได้ดี ใช้แชสซีใหม่ ผลิตจากเหล็กอัลลอย HSLA (High-Strength Low-Alloy)

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

จากการขับทดสอบพบว่าช่วงล่างและการบังคับควบคุมควบคุมทำได้มั่นใจ ให้ความนุ่มสบายเสมือนรถเอสยูวี ซึ่งครั้งแรกยังคิดว่าโช้คอัพ FOX RACING 2.5 จะเซ็ท มาค่อนข้างแข็ง แต่เมื่อขับใช้งานจริงกลับต่างจากที่คิดไว้เยอะเพราะให้ความนุ่มนวลซับแรงสะเทือนและอาการกระแทกได้ดี ทั้งจังหวะบั๊มและรีบาวน์ ในสนามทดสอบที่เป็นสนามปิด ฟอร์ด ประเทศไทยยัง จัดพื้นที่ให้เราได้ทดสอบประสิทธิภาพของช่วงล่างและความแข็งแกร่ง โดยจัดพื้นที่ให้ได้ลองขับจั๊มหรือกระโดดเนิน เพื่อสัมผัสความต่างในจังหวะรถลงมากระแทกกับพื้น ซึ่งแอดมินเองคุ้นเคยกับการกระโดดเนินพอสมควร ก็พบว่าช่วงล่างคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ให้ความยืดหยุ่นได้ดีจังหวะบั๊มและรีบาวน์ ของโช้คทำงานได้ดีและสัมพันธ์กับน้ำหนักตัวรถ

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ติดตั้งระบบเบรกแบบจาน ทั้ง 4 ล้อ คาลิปเปอร์เบรกคู่หน้า แบบลูกสูบคู่เส้นผ่านศูนย์กลาง 9.5 มิลลิเมตร จานคู่หน้ามีครีบระบายความร้อน ขนาด 332 x 32 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนขนาด 332 x 24 มิลลิเมตร คู่กับคาลิปเปอร์เบรก ขนาด 54 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมกับระบบ brake actuation master cylinder ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก เรียกว่าระบบเบรกที่ติดตั้งมาใน แร็พเตอร์ใหม่ ตอบสนองการเหยียบเบรกได้ดี รู้สึกถึงความมั่นใจในการเบรก

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ล้อแม็กลายก้านสีเทาดำ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับยางออลเทอร์เรน ของ BF Goodrich KO2 ขนาด 285/70 R17 ที่มีแก้มยางทนทานสูงเหมาะในการลุยทุกสภาพถนน ดอกยางใหญ่ช่วยตะกุยและลุยได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพพื้นผิวที่เปียกลื่น โคลน พื้นทราย แร็พเตอร์ ยังติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นการป้องกันการพลิกคว่ำ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับและลดอัตราการเลี้ยวเกิน เลี้ยวขาดและการพลิกคว่ำ

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

บทสรุป

จากการทดสอบพบกว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นรถปิคอัพพรีเมี่ยม ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่ดี อาทิโช้คอัพ Fox Racing ยาง BF Goodrich KO2 ปีกนกอลูมิเนียม ช่วงล่างหลังแบบวัตต์ลิงค์ เรียกได้ว่าจัดเต็มตั้งแต่ดีไซน์หน้าตา เครื่องยนต์ เกียร์และช่วงล่างให้ครบเครื่องเพื่อยกระดับความเป็นรถกระบะพรีเมี่ยมเจ้าแรกในเมืองไทย ถ้าดูจากตัวสินค้าและความแตกต่าง รถรุ่นนี้จัดเต็มครบเครื่อง สมราคาค่าตัว 1,699,000 บาท โดนใจกลุ่มลูกคาที่ต้องการความต่างและความโดดเด่นมีสไตล์แน่นอน!!

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

 

*จากภาพที่เห็นสวย ๆ เป็นการทดสอบของสื่อมวลชน เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งทนทานของช่วงล่าง รวมถึงความต่างระหว่างช่วงล่างที่เป็นแบบวัตต์ลิงค์ด้านหลัง และประสิทธิภาพของโช้คอัพและยาง เมื่อใช้งานหนักและขับจริง จะเอาอยู่หรือไม่ สนามที่จัดทดสอบเป็นสนามปิดมีครูฝึก เจ้าหนาที่และผู้ชำนาญการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ไม่ควรไปทดสอบกระโดดเดินหรือขับ ใช้ความเร็วสูงในเส้นทางธรรมชาติเด็ดขาด นอกจากจะมีโอกาสได้ทดสอบในสนามปิดที่ถูกจัดเตรียมไว้เท่านั้น เพราะอันตรายมาก มีรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เน้นขับให้ได้ไปให้ถึง ใช้ประโยชน์ให้ถูกต้อง.

The gallery was not found!