มินิ ประเทศไทย มอบ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน สนับสนุนสองพี่น้องแชมป์โลกกีฬา SUP ก่อนชิงแชมป์สร้างสถิติโลกกีฬาทางน้ำ

มินิ ประเทศไทย ได้มอบรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน พร้อมแร็คหลังคาให้กับสองพี่น้องนักกีฬาทางน้ำสัญชาติฮังกาเรียน มร. แดเนียล ฮาชุลโย และ มร. บรูโน ฮาชุลโย หรือ ที่รู้จักกันในวงการว่า ‘SUPBROz’ เพื่อร่วมสนับสนุนการฝึกซ้อม SUP (Stand Up Paddleboarding) หรือกีฬาพายเรือแบบยืน ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ณ เอสยูพี สเตชั่น เกาะช้าง จังหวัดตราด เสริมความเป็น Sport Activity Vehicle ของมินิที่เหมาะกับนักกีฬาและนักเดินทางผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งหรือแม้แต่การขับขี่ในเมืองในชีวิตประจำวัน

คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความเป็นมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ซึ่งโดดเด่นด้านการขับขี่ที่สนุก เร้าใจ สอดคล้องกับกับการใช้งานของทีม SUPBROz ในช่วงระหว่างการฝึกซ้อมนี้ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้ง ให้ความรู้สึกความโลดโผนพร้อมความรู้สึกอิสระได้ในขณะเดียวกัน และด้วยขนาดตัวรถยนต์ใหญ่และกว้าง สมรรถนะชั้นเลิศที่พร้อมรับมือทุกความท้าทายในทุกการเดินทาง จึงเหมาะกับการใช้งานอย่างรอบด้าน”

 

 

หลังการฝึกซ้อมในประเทศไทย ทีม SUPBROz จะไปเข้าร่วม SUP 11 City Tour ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เดือนกันยายนศกนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อสร้างสถิติโลก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ฉลองครบรอบสิบปีของการแข่งขันระดับโลก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องพายเป็นระยะทางถึง 220 กิโลเมตร ภายในเวลา 5 วัน สำหรับการมาฝึกซ้อมในประเทศไทยครั้งนี้ มร. แดเนียล ฮาชุลโย กล่าวว่า “ด้วยสภาพภูมิอากาศและลักษณะภูมิประเทศที่เหมาะสม เราจึงเลือกมาฝึกซ้อมกีฬา SUP ที่เกาะช้าง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้นในระหว่างการแข่งขัน เรายินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากมินิ ประเทศไทย ในช่วงฝึกซ้อมนี้ ด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศ ดีไซน์และขนาดที่เหมาะสม รวมถึงความเอนกประสงค์ของการใช้งานจึงเหมาะกับกิจกรรมของเราที่นี่อย่างลงตัว ช่วยให้เราฝึกซ้อมได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น” มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ปราดเปรียวด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างทั้ง Headroom Legroom และ Shoulder room มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน มาพร้อม 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว ช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 450 ลิตร และสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบาย รวมไปถึงฝากระโปรงท้ายที่ควบคุมการเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ ยังมา พร้อม MINI Picnic Bench บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านท้าย ที่สามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกสำหรับสองคนได้พอดี เหมาะสำหรับการใช้งานได้อย่างรอบด้าน