อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ทุบสถิติใหม่! แกร่ง ทน อึด 6,128 กม. ทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ดับเครื่องยนต์
อีซูซุฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จัดเต็ม! ภารกิจครั้งใหม่พิสูจน์ความ “จิ๋วแต่เจ๋ง” ในแบบอึด ถึก ทน ของนวัตกรรมเปลี่ยนโลก เครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมที่แข็งแกร่งและประหยัดน้ำมันใน “คาราวาน “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” พิสูจน์ความแกร่ง ประหยัด 6,128 กม. วิ่งทั้งวันทั้งคืนไม่ดับเครื่องยนต์” เส้นทางปักกิ่ง (กำแพงเมืองจีน) – ออร์โดส – ซีอาน ภาคต่อของบททดสอบสมรรถนะความทนทานของเครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ครั้งแรกของโลกที่จัดขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 ที่สุดแห่งแนวคิดการทดสอบสุดหฤโหดที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน คือ วิ่งต่อเนื่อง ทั้งวัน! ทั้งคืน! โดยไม่ดับเครื่องยนต์ผ่าน 3 ประเทศ ไทย ลาว และสิ้นสุด ณ เมืองอุรุมชี (Urumqi) เขตปกครองตนเองซินเจียง (Xingjiang) ประเทศจีน บนเส้นทางอันแสนโหด ระยะทาง 5,755 กิโลเมตร สำหรับภารกิจครั้งล่าสุดนี้เพื่อสร้างสถิติใหม่ด้านความทนทานของยอดเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันอีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ด้วยเส้นทางที่ยาวที่สุดกว่าครั้งก่อนถึง 6,128 กม. ด้วยเวลาเพียง 80 ชั่วโมง โดยไม่ดับเครื่องยนต์ ท้าพิสูจน์ความทนทานทุกสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศ
“คาราวาน “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” พิสูจน์ความแกร่ง ประหยัด 6,128 กม. วิ่งทั้งวันทั้งคืนไม่ดับเครื่องยนต์” ใช้ระยะเวลาในการเดินทางรวม 80 ชั่วโมง แบ่งเส้นทางออกเป็น 8 ระยะ ซึ่งนักขับทั้ง 3 ทีม ทีมละ 4 คนต้องสลับผลัดกันขับรถอีซูซุทั้ง 2 คันตามระยะที่กำหนดแบบทั้งวัน ทั้งคืนตลอดระยะทาง 6,128 กิโลเมตรอันแสนยาวไกล บนเส้นทางหฤโหดที่มากด้วยอุปสรรคนานัปการ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสถิติใหม่แห่งความทนทานและประหยัดน้ำมันให้กับรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลู-เพาเวอร์” แม้ว่าจะต้องฝ่าเส้นทางภูเขาลาดชัน หุบเหว ทะเลทรายและทางฝุ่น พายุฝน ลมกรรโชกแรง อากาศหนาวในยามค่ำคืน และร้อนจัดเกินกว่า 40 องศาในช่วงกลางวัน รวมถึงการจราจรอันคับคั่งของเมืองใหญ่ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทำให้บางเส้นทางใช้งานไม่ได้จึงต้องลงมาวิ่งตามเส้นทางท้องถิ่นที่มิใช่ทางไฮเวย์ แต่ก็สามารถถึงจุดหมาย ณ เมืองซีอานแบบสบายๆ และปลอดภัย
สมาชิกแต่ละทีมผู้ร่วมสร้างสถิติใหม่ของความทนทานและประหยัดน้ำมันของ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ครั้งประวัติศาสตร์นี้ต่างผลัดกันเล่าถึงความประทับใจว่า
ทีมแรก ได้แก่ ธรรมนูญ ประเสริฐวัฒนากร /สุชาติ วรรณวิทย์ /อาคม มหิธิธรรมธร และ สุรพงษ์ บุญปลูก กล่าวว่า “ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมาก พอทราบว่าต้องช่วยกันขับถึง 6,128 กิโลเมตร ยิ่งอยากลองว่าจะเป็นอย่างไร ภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ เมื่อได้ขับก็สัมผัสได้ถึงสมรรถนะความแรงของรถ ดีมากไม่มีตกเลย เส้นทางที่ขับก็จะเจอกับฝนตกหนักแถมยังขับในช่วงกลางคืน แต่ดีที่อีซูซุมีไฟตัดหมอก จึงช่วยได้เยอะมาก นอกจากนี้ ยังพบกับสภาพอากาศที่ร้อนมากในขณะที่อีกวันกลับเย็นลงอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อรถอีซูซุเลย เรียกว่าพบกับทุกสภาพอากาศจริงๆ”
ทีมที่ 2 ได้แก่ ชนะ แสงโพธิ์แก้ว /สุภาพ นิลเพ็ชร์ /จิรพันธ์ กัณทะพงษ์ และ อุดม ทรงศรีสวัสดิ์ กล่าวว่า “ทีมที่ 2 ต้องพบกับเส้นทางที่เต็มไปด้วยรถบรรทุก และทางชัน ผ่านภูเขา และทางโค้งมากมาย แต่ก็สามารถเร่งแซงรถบรรทุกได้อย่างสบาย แรงดี ไม่มีตกเลยครับ บางช่วงก็เจอช่วงฝนตกหนักเช่นกัน ทำให้พื้นถนนลื่นและมีร่องน้ำข้างทาง ขับด้วยความเร็ว 110 – 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใด สามารถยึดเกาะถนนได้ดีมากๆ มั่นใจมากครับ”
ทีมที่ 3 ได้แก่ เพลิน แจ่มเพ็ชร/ศราวุธ แก้วผ่อง/สนธยา พูนมาด และ สุเทพ เอี่ยมสำอางค์ กล่าวว่า ทีมที่ 3 พบกับอุปสรรคฝนตกหนัก ถนนขาด ขบวนจึงต้องเลี่ยงจากทางด่วนมาวิ่งในเส้นทางท้องถิ่น ต้องพบกับรถบรรทุกจำนวนมากยาวกว่า 7 กิโลเมตร ต้องแซงลัดเลาะมาเรื่อยๆ เพราะเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกัน สภาพทางลาดชัน เลนสวนกัน ซึ่งรถบรรทุกเยอะมาก เจอเนินสูงชันตลอดทาง แต่รถอีซูซุอัตราเร่งดีมาก สามารถเร่งแซงได้สบายๆ